Roojai

7 สัตว์ร้ายที่อาจทำอันตรายรถคุณ

สัตว์ อันตรายต่อรถ | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

นอกจากผู้ใช้รถต้องอาศัยความระมัดระวังในการขับขี่ เพื่อป้องไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่อทั้งตัวเองและทรัพย์สิน รวมถึงการหมั่นตรวจเช็ครถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมขับใช้งานทุกช่วงเวลาแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่าจะสร้างความเสียหายให้กับรถของคุณนั่นก็คือ ‘สัตว์นานาชนิด’ ซึ่งปัญหาเหล่านี้หากมองข้ามหรือละเลยไม่ใส่ใจ ก็อาจลุกลามเป็นเรื่องใหญ่จนทำให้คุณเสียเงิน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการขับขี่ได้โดยตรง และสัตว์ที่ว่านี้มีตัวอะไรบ้างเราไปดูกันเลย

สุนัข ถือเป็นสัตว์ที่อยู่ใกล้ตัวมนุษย์มากที่สุดอีกชนิดหนึ่ง และเป็นต้นเหตุอันอันต้นๆ ที่สร้างความเสียหายให้กับรถของคุณหรือรถของผู้อื่น พบเจอได้บ่อยสุดก็คือการ ‘ฉี่ตามล้อรถ’ สาเหตุก็เพื่อประกาศอาณาเขตระหว่างเพื่อนสุนัขด้วยกันว่านี่อยู่ในการปกครองของตัวมันเอง โดยฉี่ของสุนัขนี้มีคุณสมบัติเป็นกรด ซึ่งเมื่อเจอกับสารที่เคลือบล้อรถมันจะกัดกร่อนทำให้มีรอยด่างได้ โดยเฉพาะกับล้อพวกขัดเงาหรือเคลือบสีทั้งแบบเต็มวงหรือเฉพาะขอบล้อ ซึ่งไม่ได้เกิดจากฉี่แค่ครั้งเดียวแล้วเป็นเลย แต่มันต้องใช้เวลาเมื่อโดนเจ้ากรดฉี่สุนัขนี้บ่อยๆ จะเห็นผล วิธีป้องกันมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น หาที่บังล้อ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นไม้ หรือขวดน้ำ, หาสเปรย์กันสุนัขฉีด หรือถ้าพบเห็นก็รีบล้างออกทันที แม้จะเป็นการแก้ไขแบบเฉพาะหน้า ถ้าหากเป็นสุนัขเลี้ยงของเราเองก็ควรพาน้องหมาไปฝึกระเบียบ

แมว สัตว์อีกหนึ่งชนิดที่ใกล้ชิดกับมนุษย์ไม่แพ้สุนัข โดยปัญหาที่แมวสร้างความเสียให้กับรถได้บ่อยๆ คือการฝนเล็บบนสีรถ หรือกระโดดเหยียบย่ำไปมาบนหลังคาบ้าง ฝากระโปรงบ้าง บางครั้งก็ยกโขยงไล่ฟัดกันก็มี และสิ่งที่ตามมาคือริ้วรอยบนรถนั่นเอง วิธีป้องกันง่ายๆ ตามสไตล์ของภูมิปัญญาชาวบ้านก็คือการนำมะกรูด มาผ่าซีกหรือจะปลอกเปลือกแล้วใส่ตะกร้าหรือภาชนะเล็กๆ วางไว้บนหลังคารถหรือจุดที่แมวชอบขึ้นไปนอน ซึ่งวิธีการดังกล่าวก็มีหลายคนเผยว่าลองนำไปใช้แล้วก็ได้ผลค่อนข้างดี

นก ผลกระทบที่ผู้ใช้รถต้องเจอคือ ‘ขี้นก’ ซึ่งหลีกเลี่ยงค่อนข้างยากเพราะมาบินไปบินมาได้เกือบในทุกที่ โดยขี้นกมีฤทธิ์เป็นกรดถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ไม่ขจัดออกเนิ่นๆ รับรองมันจะกัดผิวหรือสีรถให้เป็นจุดๆ ด่างๆ แนวทางเบื้องต้นที่พอทำได้ง่ายๆ นั่นก็คือการ ‘เคลือบแก้ว’ ซึ่งสามารถชะลอการเกิดความเสียหายได้ แต่ก็ไม่ใช่เคลือบแล้วเมื่อเจอขี้นกจะปล่อยเอาไว้ได้เลย ยังไงก็ควรให้รีบใช้น้ำสะอาดราดหรือฉีดล้างออก และมันดีกว่าก็ตรงที่การล้างนั้นจะทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะคราบขี้นกไม่ได้เกาะผิวแน่นเนื่องจากมีชั้นฟิล์มใสเหนือผิวของรถจากการเซ็ตตัวของน้ำยาเคลือบแก้ว ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของความแข็งและความลื่น รวมถึงมีประสิทธิภาพในการต่อต้านการยึดเกาะผิวที่ผสมเข้าไป ส่วนเรื่องการทิ้งรอยด่างเป็นคราบบนผิวรถก็จะเกิดได้ยากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็อย่าชะล่าใจไปนะครับอย่างที่เกริ่นไปการเคลือบแก้วไม่ได้ป้องกันรอยจุดรอยด่างหรือริ้วรอยขี้นกได้แบบ 100% ทางที่ดีที่สุดคือเมื่อพบเห็นแล้วก็ควรรีบทำความสะอาด

มด สาเหตุโดยมากคงไม่พ้นการรับประทานอาหารเช้าหรือขนมคบเขี้ยวบนรถยนต์ส่วนตัวขณะขับรถไปทำงาน เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับรถติดบนท้องถนน แต่สิ่งที่จะตามมาพร้อมกับการมีอาหารอยู่บนรถคือมด เพราะมดเป็นสัตว์ที่ไวต่อกลิ่นของอาหารมากและมันจะทำงานกันเป็นทีม ซึ่งหมายความว่าบนรถของคุณจะเต็มไปด้วยมด ที่ไม่ใช่เพียงมดตัวเดียวอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเราสามารถกำจัดมดบนรถได้ด้วยวิธีการง่ายๆ ดังนี้ วิธีกำจัดมดในรถอย่างถูกวิธีและได้ผล คือต้องดูแลความสะอาดให้รถของเราปราศจากเศษอาหารที่ตกตามพื้นในรถยนต์ รวมถึงไม่วางภาชนะที่มีอาหารหรือคราบเศษอาหารอยู่ทิ้งไว้บนรถ เพราะนั่นจะเป็นแหล่งอาหารที่ดึงดูดเหล่าบรรดามดให้มารวมกลุ่มหาอาหาร

ให้นำรถจอดทิ้งไว้กลางแดดพร้อมกับเปิดประตูออกทุกบาน ทิ้งไว้เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง ความร้อนจะทำให้มดอพยพย้ายออกมาจากรถของเราเอง

แมลงสาบ เรียกว่าเป็นสัตว์ตัวเล็กที่ทำเอาคนส่วนใหญ่ต้องแขยงจนร้องยี้ทุกครั้งที่พบเจอ แล้วยิ่งต้องมาพบเจอในพื้นที่แคบๆ ขยับหนีไปไหนไม่ได้อย่างในรถนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย อีกทั้งมันเสี่ยงมากต่อการทำให้เกิดอุบัติเหตุ หากมันไต่ขึ้นแขนขึ้นขาขณะที่คุณกำลังขับรถอยู่ ก็อาจทำให้ตกใจหลับตาปล่อยพวงมาลัยได้ วิธีป้องกันคือหลีกเลี่ยงการนำอาหารขึ้นไปกินบนรถ เพราะแมลงสาบกับอาหารเป็นของคู่กัน การทิ้งเศษอาหารหรือภาชนะใส่อาหารไว้บนรถจำนวนมาก จะส่งกลิ่นให้แมลงสาบแวะมาเยี่ยมเยียนในรถได้แล้ว แต่ถ้าต้องกินอาหารบนรถ โดยเฉพาะรถคันที่มีเด็กนั่งด้วยก็ควรต้องทำความสะอาดอย่างละเอียดทุกครั้ง รวมถึงแมลงสาบยังชื่นชอบสิ่งแวดล้อมที่ชื้น ดังนั้นเมื่อทำอาหารหกหรือหล่นในรถขอให้รีบเช็ดทำความสะอาดทันที เพราะการทำความสะอาดรถเป็นประจำคือวิธีหนึ่งที่ป้องกันไม่ให้แมลงสาบมาอาศัยอยู่ภายในรถ โดยเฉพาะบริเวณพรม, ช่องว่างระหว่างเบาะที่นั่ง, และช่องวางของข้างประตู รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถใกล้กับถังขยะหรือฝาท่อน้ำทิ้ง

หนู นอกจากจะสร้างความเดือดร้อนหรือสร้างความเสียหายในบ้านแล้ว ก็ยังสามารถสร้างผลกระทบให้กับรถได้เหมือนกันครับ อันดับแรกคือ กัดสายไฟหรือแทะชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ โดยการที่หนูจะเข้ามาในรถก็แบ่งสาเหตุได้ 2 เหตุผลหลักๆ หนึ่งเพราะได้กลิ่นเศษขนมอาหารโดยตรง สองหนูเข้ามาหลบเพราะเงียบและปลอดภัย การแก้ไขคือ ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในห้องโดยสารและห้องเครื่อง  ไม่ควรสะสมสิ่งของไว้ในรถควรจัดเก็บและหมั่นทำความห้องโดยสารอย่างสม่ำเสมอ การป้องกันวิธีหนึ่งคือ วางลูกเหม็น วิธีที่ดีคือนำลูกเหม็นใส่ตาข่ายตาถี่ๆ มัดวางไว้เป็นจุดๆ ก่อนเราใช้รถก็หยิบออก เป็นไปได้ปิดใต้ท้องรถให้สนิท ใช้แผ่นปิดใต้ท้องรถ หรือลองไล่เช็กแผ่นใต้รถดูว่าติดจุดยึดครบทุกจุด หรือมีขาดก็ควรเปลี่ยนทันที

งู ส่วนมากจะพบเจอในช่วงหน้าฝน และมักเข้าไปอาศัยซุกตัวอยู่ในห้องเครื่อง ซึ่งเมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ก็อาจจะสร้างความเสียหายต่อชิ้นส่วนรถยนต์ได้ หากว่าเป็นงูตัวใหญ่ๆ ไปนอนขดที่ใบพัดหม้อน้ำทำให้ใบพัดหม้อแตกเสียหาย วิธีเบื้องต้นที่สามารถพอป้องกันได้ เพราะงูก็ไม่ชื่นชอบกลิ่นฉุนๆ ยกตัวอย่าง น้ำมันเครื่องเก่า โดยใช้ผ้ามาชุบกับน้ำมันเครื่องเก่าให้ชุ่ม จากนั้นก็ให้นำไปวางตามจุดต่างๆ ในโรงจอดรถ อีกวิธีคือใช้กำมะถันไล่งู เพราะงูไม่ชอบกลิ่นของกำมะถันเอามากๆ ดังนั้นเราจึงจะใช้สิ่งนี้ในการป้องกันงูเข้ามาใกล้รถเรา โดยให้เรานำผงกำมะถันมาผสมกับน้ำหรือยาเส้นก็ได้ แล้วนำไปเทราดไว้รอบๆ บริเวณที่จอดรถของเรา หรือเทตามขอบบริเวณโรงจอดรถก็ได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันไม่งูเข้ามาอยู่ในรถเราได้ครับ ที่สำคัญหากพบงูอยู่ในห้องเครื่องหรือในตัวรถ อย่าจับเองเป็นอันขาด เพราะเราไม่ทราบว่าเป็นงูมีพิษหรือไม่ แม้กระทั่งงูไม่มีพิษก็สามารถกัดเราจนทำให้เกิดอันตรายเสียเลือดมากได้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อพบงูควรโทรฯเบอร์ 199 สายด่วนกู้ภัย ให้เขามาจัดการให้จะดีกว่า อีกทั้งยังเป็นการนำงูไปคืนสู่ธรรมชาติอีกด้วย