
อุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ว่าจะการเฉี่ยวชนเล็กน้อย หรืออุบัติเหตุร้ายแรงขนาดรถคว่ำ ย่อมเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะมันมากกว่าแค่คำว่ารถชน แต่คือความเสียหายรุนแรงทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ส่งผลต่อเนื่องกระทบทั้งทางจิตใจไม่รู้อีกทางแค่ไหน และถ้าหากขาดความรู้หรือไม่มีการเตรียมตัวที่ดีในการใช้รถ อาจทำให้เหตุการณ์รถพลิกคว่ำแย่ลงได้ รู้ใจเลยจะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดอย่างปลอดภัยเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ พร้อมพาไปอธิบายเรื่องความคุ้มครองของประกันรถยนต์แต่ละประเภท เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อความคุ้มครองประกันรถยนต์ได้ตอบโจทย์มากขึ้น
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
- สาเหตุหลักที่ทำให้รถคว่ำบ่อยในไทย คืออะไร?
- วิธีเอาตัวรอดหรือรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์รถคว่ำ มีอะไรบ้าง?
- ประกันรถยนต์คุ้มครองรถคว่ำยังไง?
สาเหตุหลักที่ทำให้รถคว่ำบ่อยในไทย คืออะไร?
อุบัติเหตุรถคว่ำถือเป็นเหตุการณ์รุนแรง ที่เกิดขึ้นบ่อยในประเทศไทย ทั้งตามทางหลวง ถนนต่างจังหวัด หรือแม้กระทั่งทางโค้งในพื้นที่ภูเขา หลายคนอาจมองว่าเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่จริง ๆ แล้วมีหลายปัจจัยที่เป็น “ตัวเร่ง” ดังนี้
ขับรถเร็ว
ความเร็วที่เกินกำหนดส่งผลให้รถยนต์ควบคุมได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้ง หักหลบสิ่งกีดขวาง หรือเบรกกะทันหัน เพื่อเลี่ยงเหตุการณ์ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น แนะนำให้ยึดความเร็วตามกฎหมาย เช่น 80-120 กม./ชม. และลดความเร็วเมื่อเข้าโค้ง หรือใกล้ทางแยก
หลับใน
โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถทางไกลในช่วงเวลากลางคืน หรือหลังจากเลิกงาน เมื่อสมองล้า สายตาเบลอ หรือไม่สามารถตอบสนองได้ทัน รถอาจเบี่ยงตกถนนหรือชนขอบทางจนพลิกคว่ำได้ แนวทางป้องกัน คือ พักผ่อนให้เพียงพอก่อนขับรถ หยุดพักทุก 2 ชั่วโมง รวมถึงหากเพื่อร่วมทางเพื่อพูดคุย
ถนนลื่น ฝนตก พื้นถนนไม่เรียบ
พื้นถนนลื่นที่เกิดจากน้ำขัง ฝนตก หรือใด ๆ ก็ตาม ทำให้ยางรถยนต์ยึดเกาะพื้นได้ไม่ดี ยิ่งถ้ายางหมดสภาพหรือเบรกอย่างรุนแรง รถอาจหมุนหรือพลิกคว่ำทันที ดังนั้นเมื่อฝนตกจึงควรลดความเร็วลง รวมถึงเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพดี พร้อมตรวจดอกยางสม่ำเสมอ
วิธีเอาตัวรอดหรือรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์รถคว่ำ มีอะไรบ้าง?
ไม่ว่าสถานการณ์บนท้องถนนจะเป็นยังไง อาทิ ฝนตกถนนลื่น ขับรถเร็ว หรือหลีกเลี่ยงการชนกับรถคันอื่น ๆ รถคว่ำถือเป็นอุบัติเหตุรถยนต์ร้ายแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะกับคนที่ใช้ความเร็วสูงในเส้นทางสายรองหรือภูเขา รู้ใจรวบรวมวิธีเอาตัวรอดมาให้ดังนี้
1. ตั้งสติ อย่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อรู้ตัวว่ารถกำลังเสียหลัก ให้ตั้งสติให้ไวที่สุด หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อลดความตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิด เพราะสติถือเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณรอดจากสถานการณ์นี้
2. พยายามควบคุมทิศทางรถให้ได้
หากรถยังไม่เสียหลักจนรถพลิกคว่ำเต็มที่ ให้จับพวงมาลัยให้แน่น มองหาทางเบี่ยงหรือหลบหลีกเพื่อพารถเข้าสู่ทิศทางหรือระยะปลอดภัย หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้รถหมุนหรือเสียการควบคุม
3. หลังจากรถคว่ำแล้ว อย่าขยับตัวทันที
หลังจากรถพลิกคว่ำแล้วให้รอจนรถหยุดสนิทก่อน จากนั้นตรวจสอบร่างกายว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ หากรู้สึกว่ามีอาการบาดเจ็บที่คอหรือหลัง อย่าขยับตัวโดยพลการเด็ดขาด เพราะอาจกระทบต่อกระดูกสันหลังได้
4. หาทางออกจากตัวรถ
เมื่อเช็คแล้วว่าไม่ได้รับบาดเจ็บและสามารถขยับตัวได้ ให้พยายามปลดเข็มขัดนิรภัยอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะถ้ารถหงายท้องอยู่ เพราะทันทีที่ปลดเข็มขัด ร่างกายอาจร่วงลงมากระแทกพื้นรถได้ และในกรณีที่ประตูเปิดไม่ได้ ให้พยายามออกทางหน้าต่างแทน ถ้ามีอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่าง “ที่ทุบกระจก” จะช่วยให้ออกจากรถได้เร็วขึ้น พร้อมโทรขอความช่วยเหลือ
สายด่วนที่ควรมีติดโทรศัพท์เอาไว้
เพื่อให้คุณสามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง รู้ใจได้รวบรวมสายด่วนติดโทรศัพท์ไว้ สำหรับรถกรณีเกิดเหตุการณ์รถพลิกคว่ำ หรือเหตุฉุกเฉินบนท้องถนนมาให้แล้ว มีเบอร์ไหนบ้าง ไปดูกันเลย
- สายด่วนเรียกรถพยาบาล – 1669
- ตำรวจทางหลวง – 1193
- สายด่วนกรมทางหลวง – 1586
- ตำรวจแจ้งเหตุทั่วไป – 191
- สายด่วนประกันภัยรถยนต์ (เบอร์บริษัทประกันของคุณเอง) ลูกค้ารู้ใจโทร 02 080 9194
ประกันรถยนต์คุ้มครองรถคว่ำยังไง?
ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ ต่อให้คุณระมัดระวังในการขับขี่ดีแค่ไหน ก็มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างรถคว่ำ ดังนั้นการมีประกันรถยนต์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้เพียงลำพัง ซึ่งความคุ้มครองประกันรถยนต์แต่ละประเภทมีดังนี้
ประกันรถยนต์ ชั้น 1
ประกันรถยนต์ ชั้น 1 คุ้มครองอุบัติเหตุรถคว่ำ ไม่ว่าจะเกิดจากความประมาท (ไม่มีคู่กรณี) หรือมีคู่กรณีก็ตาม และจะคุ้มครอง
- ค่าซ่อมรถของผู้เอาประกัน
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ค่าซ่อมรถและค่ารักษาคู่กรณี (ถ้าชนแบบมีคู่กรณี)
ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ และชั้น 3+
คุ้มครองอุบัติเหตุรถคว่ำ เฉพาะอุบัติเหตุรถชนรถแบบมีคู่กรณีเท่านั้น โดยไม่ครอบคลุมกรณี “รถคว่ำเองโดยไม่มีคู่กรณี” และจะคุ้มครอง
- ค่าซ่อมรถของผู้เอาประกัน
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ค่าซ่อมรถและค่ารักษาคู่กรณี
ประกันรถยนต์ ชั้น 2 และชั้น 3
คุ้มครองอุบัติเหตุรถคว่ำ เฉพาะอุบัติเหตุรถชนรถหรือมีคู่กรณีเท่านั้น หากรถคว่ำเอง (ไม่มีคู่กรณี) จะไม่ได้รับความคุ้มครองและไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถของรถผู้เอาประกันภัย โดยคุ้มครองเฉพาะ
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ค่าซ่อมรถและค่ารักษาคู่กรณี
อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ว่าคุณจะระมัดระวังแค่ไหน หลาย ๆ เหตุการณ์ไม่มีใครคาดคิด ถึงจะหลีกเลี่ยงรถคว่ำไม่ได้ 100% แต่การรู้สาเหตุที่ทำให้รถพลิกคว่ำ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ และเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุก็จะช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองตอบโจทย์ ก็จะช่วยให้คุณอุ่นใจได้ตลอดการเดินทางแล้ว
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)
คำจำกัดความ
เสียหลัก | ทรงตัวไม่อยู่, พลาดท่า, ซวนเซ |
พลการ | การทำตามอำเภอใจโดยใช้กำลัง หรืออำนาจ |
สายด่วน | โทรศัพท์สายตรงที่จัดไว้สำหรับเหตุเร่งด่วนหรือเฉพาะเรื่อง |