
อากาศร้อนจัดส่งผลกระทบต่อรถยนต์มากกว่าที่หลายคนคิด โดยเฉพาะในไทยที่มีแต่ร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุด เป็นเหมือนฤดูร้อนเกือบตลอดทั้งปี ความร้อนนี้อาจทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในรถทำงานหนักขึ้น ส่งผลต่อทั้งประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ความปลอดภัยในการขับขี่ และอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถ
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
- อากาศร้อนจัดส่งผลต่อรถยังไงบ้าง?
- ประกันรถยนต์คุ้มครองความเสียหายต่อรถจากอากาศร้อนจัดหรือไม่?
- Tips ใกล้ตัว ทำง่าย ป้องกันรถจากอากาศร้อนจัด
อากาศร้อนจัดส่งผลต่อรถยังไงบ้าง?
อากาศร้อนจัดส่งผลต่อรถยนต์ในหลายด้าน ทั้งเรื่องของสมรรถนะ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในรถ ดังนี้
1. แบตเตอรี่
เมื่ออากาศร้อนจัด ความร้อนสูงจะรบกวนปฏิกิริยาทางเคมีภายในแบตเตอรี่ทำงานไม่เต็มที่ ส่งผลให้แบตเตอรี่เก็บประจุได้ยากและผลิตพลังงานได้ไม่เพียงพอ อีกทั้งความร้อนยังทำให้ของเหลวในแบตเตอรี่ระเหยเร็วกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือเกิดการกัดกร่อนง่ายขึ้น
2. ยางรถยนต์
ไม่ว่าจะความร้อนจากแดดในฤดูร้อน หรือความร้อนจากปัจจัยใดก็ตาม แน่นอนว่าไม่ค่อยถูกกับยางรถยนต์สักเท่าไหร่ เพื่อเมื่อยางเจอกับความร้อนหรือสภาพอากาศร้อนจัด จะทำให้ความดันภายในยางมากขึ้น อาจทำให้แก้มยางปูด ยางบวม หรือยางระเบิด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ในระยะยาวก็จะทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานของยางลดลง
3. ระบบแอร์ภายในรถ
อีกหนึ่งส่วนที่ต้องรับมือกับอุณหภูมิสูง คือแอร์รถยนต์ เนื่องจากยิ่งอากาศร้อนแอร์ยิ่งต้องทำงานหนักเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในรถ และหากแอร์ทำงานหนักเกินไปในระยะยาวโดยไม่มีการบำรุงรักษา ก็อาจทำให้แอร์เย็นช้าลงหรือแอร์ไม่เย็นเลย ซึ่งส่งผลต่อความสบายในการขับขี่แน่นอนถ้ารถแอร์ไม่เย็น
4. เครื่องยนต์
เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้รถยนต์ทำงานหนักขึ้น เครื่องยนต์มีความร้อนสูง หากระบบหล่อเย็นไม่พร้อม เช่น น้ำหล่อเย็นมีน้อย หรือหม้อน้ำมีปัญหา ก็อาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกิน จนเกิดความเสียหายได้ หากมีไฟสัญลักษณ์เตือนอุณหภูมิ ไม่ควรฝืนขับต่อเพราะจะทำให้รถความร้อนขึ้น (โอเวอร์ฮีต) ได้
5. สีรถ เบาะหนัง
สีรถและวัสดุภายในห้องโดยสารก็ไม่รอดจากผลกระทบของความร้อนจัด สีรถอาจซีดเร็วขึ้น พลาสติกหรือหนังภายในอาจแตกร้าวหรือเสียรูปทรงได้หากจอดรถกลางแดดเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน เช่น การใช้ม่านบังแดดหรือจอดในที่ร่ม
ประกันรถยนต์คุ้มครองความเสียหายต่อรถจากอากาศร้อนจัดหรือไม่?
ประกันภัยรถยนต์ โดยทั่วไปไม่คุ้มครองความเสียหายจากอากาศร้อนจัดโดยตรง เช่น ความร้อนที่ทำให้สีรถซีด, ยางบวม, หรือแอร์ไม่เย็น เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ถือเป็น การสึกหรอตามการใช้งาน ซึ่งไม่อยู่ในขอบเขตความคุ้มครองประกันรถยนต์
Tips ใกล้ตัว ทำง่าย ป้องกันรถจากอากาศร้อนจัด
วิธีดูแลรถยนต์ท่ามกลางอากาศร้อนจัด มีดังนี้
- จอดรถในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเท – ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแดดจัด เพื่อป้องกันความร้อนสะสม ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ รวมถึงของเหลวต่าง ๆ และอุปกรณ์ยาง เช่น ยางรถยนต์ ขอบยาง ที่ปัดน้ำฝน
- ก่อนเปิดแอร์ ให้ระบายความร้อนในรถก่อน – ลดกระจกลงเล็กน้อยและเปิดพัดลมแอร์ประมาณ 2 นาที แล้วจากนั้นค่อยปรับเป็นโหมดทำความเย็น วิธีนี้ช่วยให้อากาศเย็นเร็วขึ้น และไม่ทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไป
- ตรวจเช็คระบบปรับอากาศสม่ำเสมอ – เพื่อให้แอร์เย็นเต็มประสิทธิภาพ และลดภาระเครื่องยนต์
- ติดฟิล์มกรองแสงคุณภาพดี – ฟิล์มคุณภาพดีจะช่วยลดความร้อนภายในรถ ป้องกันรังสี UV และช่วยลดภาระการทำงานของแอร์
- เติมลมยางให้เหมาะสม – หลีกเลี่ยงลมยางต่ำเกินไป เพราะจะทำให้ยางร้อนเร็ว และเสี่ยงระเบิด
- ห้ามทิ้งของไวต่อความร้อนไว้ในรถ – เช่น โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่สำรอง ไฟแช็ก กระป๋องสเปรย์ หรือแก๊สกระป๋องเนื่องจากเสี่ยงระเบิด หรือเกิดความเสียหายจากอุณหภูมิที่สูงมาก
- ตรวจเช็คระบบระบายความร้อน เช่น ตรวจระดับน้ำในถังพักน้ำ เป่ารังผึ้งหม้อน้ำเพื่อทำขจัดฝุ่นผงที่อุดตัน เป็นต้น
การดูแลรถในช่วงอากาศร้อนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เจ้าของรถควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ ความดันลมยาง และคุณภาพของของเหลวต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ หากเป็นไปได้ ควรจอดรถในที่ร่มหรือใช้ม่านกันแดด เพื่อลดความร้อนสะสมในตัวรถ และยืดอายุการใช้งานของทั้งระบบเครื่องยนต์และอุปกรณ์ภายในรถให้ยาวนานขึ้น
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)
คำจำกัดความ
โอเวอร์ฮีต (Overheat) | ภาวะที่เครื่องยนต์ของรถยนต์มีอุณหภูมิสูงเกินกว่าระดับที่ปลอดภัยในการทำงาน |
ยางบวม | อาการที่บริเวณด้านข้างของยางรถยนต์ (ส่วนที่เรียกว่า “แก้มยาง”) มีลักษณะโป่งนูนออกมาเป็นก้อนอย่างผิดปกติ |