ยี่ห้อรถยนต์ชั้นนำในไทย ที่นำระบบ Telematics มาใช้ในรุ่นรถต่าง ๆ

ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบจัดการอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับรถยนต์ อย่างระบบ Telematics มีจุดประสงค์เพื่อลดเสี่ยง เลี่ยงสูญเสีย รู้ใจจึงจะพาไปเจาะลึกว่าระบบดังกล่าวคืออะไร มียี่ห้อรถยนต์ไหนบ้าง ที่เริ่มนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ และมันมีประโยชน์ต่อการใช้รถใช้ถนนมากน้อยแค่ไหน ถ้าพร้อมแล้วตามไปทำความเข้าใจกันเลย

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

• ระบบ Telematics คืออะไร?
• เทคโนโลยีเทเลมาติกส์ มีประโยชน์ต่อการใช้รถยังไง?
• รถยนต์ในไทยยี่ห้อไหนบ้าง ที่นำระบบ Telematics มาใช้?

ระบบ Telematics คืออะไร?

เป็นนวัตกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างระบบ Telecommunication และ Information ที่ใช้เทคโนโลยีที่ส่งข้อมูลจากระยะไกล ด้วยระบบต่าง ๆ เช่น GPS, อินเทอร์เน็ต เพื่อเก็บข้อมูลและส่งข้อมูลจากอุปกรณ์หรือยานพาหนะไปยังไปยังศูนย์ควบคุมหรือฐานข้อมูล ระบบ Telematics มักใช้ในการติดตามการขับขี่ เช่น ตำแหน่งรถ, ความเร็ว เป็นต้น

เทคโนโลยีเทเลมาติกส์ มีประโยชน์ต่อการใช้รถยังไง?

ข้อดีของเทคโนโลยี Telematics ในรถยนต์ถือว่าค่อนข้างหลากหลายซึ่งมาจากการใช้ข้อมูลที่เก็บไว้มาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบายในการขับขี่  และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายก็ได้ด้วย โดยประโยชน์ที่ว่ามีดังนี้

1. ทำให้ทราบตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ – ช่วยป้องกันรถหาย หรือใช้ติดตามรถในลานจอดรถใหญ่ ๆ ได้ โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าที่มีที่จอดรถหลายชั้น รวมถึงถ้าหากให้เพื่อนหรือใครก็ตามยืมรถไปขับ ก็สามารถเช็คได้ว่าตอนนี้รถอยู่ที่ไหน
2. ประเมินคุณภาพการขับขี่ – เช็กได้ว่าผู้ขับขี่เบรกแรงไปมั้ย ขับเร็วแค่ไหน รวมถึงเข้าโค้งเร็วหรือเปล่า โดยตัวระบบจะช่วยปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่ได้ในระดับหนึ่ง แถมยังช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น ที่สำคัญช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
3. แจ้งเตือนสถานะรถ/ซ่อมบำรุงล่วงหน้า – ระบบจะช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถน้ำมันใกล้หมด แบตเตอรี่เสื่อม รวมถึงเครื่องยนต์มีปัญหา ลดโอกาสรถเสีย รถพังกลางทางได้เป็นอย่างดี
4. ช่วยเหลือฉุกเฉินอัตโนมัติ – เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รถจะส่งสัญญาณหา Call Center หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทันที (บางระบบมี eCall) เพิ่มความปลอดภัยเวลาเดินทางคนเดียว
5. ช่วยควบคุมรถจากระยะไกล – ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้สตาร์ทรถ เปิดแอร์, ล็อค หรือปลดล็อครถผ่านสมาร์ตโฟน เพิ่มความสะดวกสบาย โดยเฉพาะหน้าร้อนหรือเวลาหากุญแจรถไม่เจอ

หมายเหตุ: ประโยชน์ที่ระบุข้างต้นเป็นประโยชน์โดยรวมที่เทคโนโลยี Telematics สามารถปรับใช้งานได้ ทั้งนี้ ความสามารถในการใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นของรถยนต์ที่ติดตั้งระบบดังกล่าว ผู้สนใจกรุณาตรวจสอบข้อมูลกับผู้จำหน่ายหรือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยตรงก่อนตัดสินใจซื้อ

รถยนต์ในไทยยี่ห้อไหนบ้าง ที่นำระบบ Telematics มาใช้?

มาดูกันว่าในไทย มีรถรุ่นไหนบ้างที่ใช้ระบบ Telematics โดยส่วนใหญ่แล้ว ไม่ว่ารถยุโรป จีน หรือญี่ปุ่นในสมัยใหม่ก็มีการใช้งานระบบ Telematics แพร่หลายมากขึ้น โดยนำ ระบบ Telematics มาปรับใช้กับบริการหลาย ๆ อย่างเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย โดยรถในไทยที่ใช้ระบบเทเลมาติกส์ ยกตัวอย่าง 7 รุ่นรถ ดังนี้

1. Honda

รถยนต์ยี่ห้อ Honda ระบบ Telematics มีชื่อว่า Honda connect เป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมผู้ขับขี่และรถยนต์เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการทำงานของแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน และ TCU (Telematics Control Unit) ที่ติดตั้งในรถ ช่วยตรวจสอบสถานะความพร้อม ตำแหน่งของรถ รวมถึงแสดงข้อมูลลักษณะการขับขี่แบบเรียลไทม์ โดย honda connect มีรุ่นไหนบ้าง ดังนี้ Brio / Brio, Amaze, City, Jazz, Mobilio, BR-V, Civic, Civic Hatchback, HR-V, CR-V, Accord, Odyssey

2. Toyota

ระบบเทเลมาติกส์ของ Toyota ใช้ชื่อว่า Toyota T-Connect เป็นนวัตกรรมที่ช่วยเชื่อมผู้ขับขี่และรถให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยการเชื่อมรถยนต์ด้วยเครือข่ายโทรศัพท์มือถือกับแอปพลิเคชัน T-Connect เพื่อให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ค้นหาตำแหน่งรถ ติดตามรถหาย แจ้งเตือนการบำรุงรักษา บริการติดต่อนัดหมายศูนย์บริการ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (เป็นผู้ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง)

3. Mazda

สำหรับระบบเทเลมาติกส์ของรถยนต์ยี่ห้อ Mazda จะมีชื่อว่า Mazda Connect (มีบางรุ่นที่มี ระบบ Telematics ผ่านแอป MyMazda) ช่วยให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินกับทุกเส้นทางที่ไป พร้อมระบบเตือนความจำเรื่องการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง การสลับยาง และตารางการบำรุงอื่น ๆ ทั้งนี้บางรุ่นยังมีฟีเจอร์ Smart Service แจ้งเตือนซ่อมอีกด้วย

4. Ford

FordPass Connect คือ ระบบ Telematics ของยี่ห้อรถยนต์ Ford เป็นแอปที่เชื่อมต่อกับรถยนต์ ช่วยให้ผู้ขับขี่สั่งงานได้ตามใจแม้ว่าจะอยู่ระยะไหลก็ไม่เป็นอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อค ล็อครถ เปิดแอร์ สตาร์ทรถ ฯลฯ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ตลอดเวลา แถมการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก

5. MG

i-SMART เป็นชื่อเรียกระบบ Telematics ของยี่ห้อรถยนต์ MG หรือ Morris Garages ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมรถผ่านสมาร์ตโฟนได้อย่างสะดวกสบาย โดยมีฟีเจอร์หลัก ๆ ได้แก่ ควบคุมรถจากระยะไกล, ตรวจสอบสถานะรถ, จัดการการชาร์จ และบริการหลังการขาย

6. BYD

DiLink เป็นเทคโนโลยี Telematics ในรถยนต์แบรนด์ BYD ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อ และควบคุมรถผ่านสมาร์ตโฟนได้อย่างสะดวกสบายเช่นเดียวกัน โดยมีฟีเจอร์หลักได้แก่ ควบคุมรถจากระยะไกล, ระบบนำทางและค้นหาสถานีชาร์จ EV, ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ, การอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบ OTA

7. GWM (Great Wall Motor)

Great Wall Motor มีระบบ Telematics ชื่อว่า GWM Application ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมรถยนต์จากระยะไกลได้อย่างสะดวกสบาย มาพร้อมกับฟีเจอร์หลัก ๆ ได้แก่ รีโมทควบคุมรถ (ล็อค/ปลอดล็อครถ, เปิด/ปิดเครื่องปรับอากาศ และอื่น ๆ), ติดตามตำแหน่งรถยนต์, ตรวจสอบสถานะรถยนต์, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และกำหนดขอบเขตการใช้งาน

หมายเหตุ: รถยนต์บางรุ่นอาจไม่รองรับเทคโนโลยี Telematics หรือฟีเจอร์บางรายการอาจมีเฉพาะในรุ่นย่อยที่สูงกว่า หรืออาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าบริการรายปี ดังนั้น ผู้สนใจควรตรวจสอบรายละเอียดกับผู้จำหน่ายหรือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยตรงก่อนตัดสินใจซื้อ

อ่านมาถึงตรงนี้ก็สรุปได้เลยว่าเทคโนโลยี Telematics ช่วยให้รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ฉลาดขึ้น ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น แถมยังรู้สถานะและควบคุมทุกอย่างได้ง่าย ๆ ผ่านมือถือ ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อรถยนต์ที่นำระบบ Telematics มาใช้ เพื่อลดความเสี่ยง เลี่ยงสูญเสียให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสุด การเลือกซื้อรถที่มีระบบดังกล่าวก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะ

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยบกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

Telecommunication	การสื่อสารระยะไกล โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น สายโทรศัพท์ หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ	หรือ Voice AI ซอฟต์แวร์ที่สามารถรับฟังคำสั่งเสียงของมนุษย์ ตีความความหมาย และตอบสนองกลับได้อย่างชาญฉลาด
ระบบ eCall	ถูกติดตั้งลงในรถยนต์ระดับกลางแค่บางรุ่นเท่านั้น มันถูกออกแบบให้เรียกหน่วยรถฉุกเฉินจนถึง หน่วยกู้ภัยทางท้องถนนอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ