
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับรถคันโปรด อาทิ ไฟไหม้ น้ำท่วม รถหาย รวมถึงอุบัติเหตุรุนแรง หลายคนมักสงสัยว่ากรณีแบบนี้บริษัทประกันคืนทุนประกันเต็มทุนมั้ย? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกในแต่ละกรณีเกี่ยวกับการคืนทุนประกันรถยนต์ ว่าปกติแล้วมีหลักเกณฑ์ยังไง เพื่อให้รู้เท่าทันและวางแผนรับมือได้อย่างถูกต้อง
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
- คืนทุนประกัน คืออะไร?
- กรณีไหนบ้างที่จะได้รับการคืนทุนประกันรถยนต์?
- บริษัทจะคืนทุนประกันรถให้ใคร?
- การคืนทุนประกันรถยนต์มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง?
การคืนทุนประกัน คืออะไร?
“ทุนประกัน” คือ มูลค่าที่บริษัทประกันจะจ่ายให้สูงสุด ในกรณีที่รถยนต์คันเอาประกันเกิดความเสียหายชิ้นเชิง กล่าวคือหนักจนซ่อมไม่ได้ หรือเสียหายเกิน 70% ของมูลค่ารถ ณ วันที่เสียหาย หรือรถสูญหายทั้งคัน โดยทั่วไปทุนประกันจะพิจารณาจากมูลค่าตลาดของรถ (ราคากลาง) ณ เวลาที่ทำประกัน เช่น รถยนต์ของคุณอายุ 5 ปี ราคากลางอยู่ที่ 300,000 บาท ทุนประกันก็จะอยู่ประมาณนี้ และยิ่งทุนประกันรถยนต์สูง ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงตามไปด้วย
กรณีไหนบ้างที่จะได้รับการคืนทุนประกันรถยนต์?
การคืนทุนประกันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรถได้รับความเสียหายหนักจนซ่อมไม่ได้ หรือเสียหายเกิน 70% ของมูลค่ารถ ณ วันที่เสียหาย หรือรถสูญหายทั้งคัน โดยจะแบ่งยกตัวอย่างเป็น 4 กรณี ดังนี้
หมายเหตุ: การคืนทุนประกันรถยนต์มีหลายกรณี และขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง บทความนี้ยกตัวอย่าง 4 สถานการณ์เพื่อให้เข้าใจภาพรวมเบื้องต้นเท่านั้น
1. รถสูญหาย (ถูกขโมย) ทั้งคัน
คุ้มครองเฉพาะกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองรถหาย คือ ประกันชั้น 1 2+ และ 2 หากรถหายทั้งคันและไม่สามารถติดตามคืนได้ภายใน 30 วัน หลังแจ้งความ ต้องมีหลักฐานการแจ้งความและไม่มีพฤติกรรมจงใจ เช่น ให้คนรู้จักขับแล้วอ้างว่าหาย บริษัทประกันจะจ่ายคืนตามทุนประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเกิดจากขโมย ปล้น หรือยักยอก โดยผู้เอาประกันต้องโอนกรรมสิทธิ์รถให้บริษัททันที และหากต่อมาบริษัทได้รถคืน
- ผู้เอาประกันมีสิทธิเลือกว่าจะรับรถคืน (แต่ต้องคืนเงินที่เคยได้รับ) หรือ ไม่รับรถคืน
- ต้องแจ้งภายใน 30 วันหลังได้รับหนังสือแจ้งจากบริษัท
2. รถจมน้ำหรือน้ำท่วมอย่างรุนแรงทั้งคัน
คุ้มครองเฉพาะกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองน้ำท่วมหรือภัยธรรมชาติ คือ ประกันชั้น 1 และ 2+ หากรถจมน้ำหรือน้ำท่วมทุนแรง จนได้รับความเสียหายถึงขนาดซ่อมแซมไม่ได้ หรือเสียหายเกิน 70% ของมูลค่ารถ ณ วันที่เสียหาย บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยเต็มจำนวนตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เมื่อรับเงินชดเชยแล้ว คุณต้องโอนกรรมสิทธิ์รถให้บริษัททันที และหลังจากนั้นจะถือว่าความคุ้มครองสิ้นสุดลง โดยต้องไม่ใช่ความประมาทเลินเล่อ เช่น ฝ่าน้ำท่วมโดยจงใจ หรือเป็นไปตามข้อยกเว้นกรมธรรม์
3. รถไฟไหม้ทั้งคัน
คุ้มครองเฉพาะกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองรถไฟไหม้ คือ ประกันชั้น 1 2+ และ 2 ถ้ารถไฟไหม้เสียหายจนได้รับความเสียหายถึงขนาดซ่อมแซมไม่ได้ หรือเสียหายเกิน 70% ของมูลค่ารถ ณ วันที่เสียหาย บริษัทจะคืนทุนประกันเต็มจำนวนโดยต้องไม่ใช่การจงใจวางเพลิง รวมถึงเกิดจากการดัดแปลงผิดกฎหมาย หรือเป็นไปตามข้อยกเว้นกรมธรรม์
4. รถเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทั้งคัน
คุ้มครองเฉพาะกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองรถตัวเอง คือ ประกันชั้น 1 2+ และ 3+ โดยประกันชั้น 2+ และ 3+ ต้องชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น หากรถเกิดอุบัติเหตุจนได้รับความเสียหายถึงขนาดซ่อมแซมไม่ได้ หรือเสียหายเกิน 70% ของมูลค่ารถ ณ วันที่เสียหาย บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยเต็มจำนวนตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เมื่อรับเงินชดเชยแล้ว คุณต้องโอนกรรมสิทธิ์รถให้บริษัททันที และหลังจากนั้นจะถือว่าความคุ้มครองสิ้นสุดลง
บริษัทจะคืนทุนประกันรถให้ใคร?
ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถตอนนั้น
- ถ้ารถยังติดไฟแนนซ์ (เช่าซื้อ)
- กรรมสิทธิ์รถยังเป็นของไฟแนนซ์
- เมื่อเกิดเหตุเสียหายสิ้นเชิง บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้กับไฟแนนซ์ก่อน เพื่อปิดยอดหนี้
- ถ้าทุนประกันน้อยกว่าหนี้คงเหลือ คุณต้องจ่ายส่วนต่างที่เหลือ หรือผ่อนต่อนั่นเอง
- ถ้าคุณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว (ผ่อนหมดแล้ว)
- เงินชดเชยจะจ่ายให้คุณโดยตรง
- ไม่ต้องผ่อนต่อ เพราะไม่มีหนี้ค้าง
การคืนทุนประกันรถยนต์มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง?
มีทั้งหมด 4 ขั้นตอน ได้แก่ แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น, ประเมินความเสียหาย, การตกลงคืนทุนประกัน และการส่งมอบเอกสาร โดยแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดที่ต่างกันออกไป ดังนี้
1. แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทันทีที่เกิดอุบัติเหตุต้องแจ้งเหตุการณ์ต่อบริษัทประกันทันที โดยรายละเอียดเหตุการณ์และเอกสารที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
- วันและเวลาที่เกิดเหตุ
- สถานที่เกิดเหตุ
- รายละเอียดของความเสียหาย
- ส่งหลักฐานประกอบ เช่น ภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุ และสำเนาใบแจ้งความ
2. ประเมินความเสียหาย
บริษัทประกันจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และประเมินความเสียหายของรถยนต์ เพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายการคืนทุนประกันรถยนต์หรือไม่ โดยการประเมินนี้จะพิจารณาจากมูลค่าการซ่อมและสภาพรถ
3. การตกลงคืนทุนประกัน
หากการประเมินสรุปว่ารถยนต์เสียหายโดยสิ้นเชิง บริษัทประกันจะเสนอคืนทุนประกันตามมูลค่าที่ระบุในกรมธรรม์
4. การส่งมอบเอกสาร
หลังจากตกลงคืนทุนประกันเรียบร้อยแล้ว ผู้เอาประกันต้องจัดเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ โดยเอกสารที่จำเป็นมีดังนี้
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัย เพื่อยืนยันเงื่อนไขความคุ้มครอง
- หนังสือแจ้งขอคืนทุนประกัน ระบุรายละเอียดเหตุการณ์และความประสงค์ในการขอคืนทุน
- ใบแจ้งความ หลักฐานทางกฎหมายเพื่อประกอบการพิจารณา
- สำเนาบัตรประชาชน ใช้ยืนยันตัวตนของผู้เอาประกัน ว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ในการขอคืนทุนตามกรมธรรม์
- หนังสือโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ กรณีที่โอนซากรถให้กับบริษัทประกัน
และถ้าสงสัยว่าการคืนทุนประกัน ใช้เวลากี่วัน ในส่วนนี้อาจใช้เวลาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัย แต่โดยทั่วไปการประเมินความเสียหายจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน (หลังจากแจ้งเหตุการณ์) และการโอนเงินคืนทุนประกัน จะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน (หลังจากที่เอกสารครบถ้วน)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเข้าใจหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในแง่ของประกันรถยนต์ โดยเฉพาะการคืนทุนประกันถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันรถยนต์ได้รับความเสียหายสิ้นเชิง ก็จะได้รับการชดเชยค่าเสียหายในรูปแบบของการคืนทุนประกันรถยนต์ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)
คำจำกัดความ
พฤติกรรมจงใจ | การกระทำที่ผู้กระทำรู้ว่าการกระทำของตนอาจก่อให้เกิดความเสียหาย และยังคงมุ่งมั่นที่จะกระทำสิ่งนั้นต่อไป |
เสียหายสิ้นเชิง | รถยนต์ได้รับความเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ หรือเสียหายไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่ารถยนต์ในขณะเกิดความเสียหาย |
โอนซากรถ | การโอนกรรมสิทธิ์ของรถยนต์ที่อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือเป็นรถที่เสียหายมาก (ซากรถ) ไปยังบุคคลอื่น |