ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดทุกวินาที โดยเฉพาะในปี ค.ศ.2024 ที่แวดวงประกันภัยรถยนต์ ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ประกันรถยนต์ก็ต้องเตรียมรับมือให้พร้อม เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็น ‘InsurTech’ อย่างมั่นคง ซึ่งจะมีข้อมูลส่วนไหนน่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อคนที่ซื้อประกันรถบ้าง? ตามไปหาคำตอบกันสักหน่อยดีกว่า
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
- แพลตฟอร์มประกันภัยรถยนต์ดิจิทัล คืออะไร?
- แพลตฟอร์มประกันภัยรถยนต์ดิจิทัล และ InsurTech ต่างกันยังไง?
- ทำไมต้องมี InsurTech?
- ข้อดีของดิจิทัลแพลตฟอร์มและ InsurTech มีอะไรบ้าง?
แพลตฟอร์มประกันภัยรถยนต์ดิจิทัล คืออะไร?
แพลตฟอร์มประกันภัยรถยนต์ดิจิทัล คือ ระบบหรือเว็บไซต์ที่ให้บริการซื้อและจัดการประกันภัยรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด โดยไม่ต้องผ่านตัวแทนหรือนายหน้า ซึ่งมีเวลาให้คนซื้อประกันได้เช็คราคาและเงื่อนไขได้อย่างอิสระ และไม่ถูกกดดันจากการเร่งรีบในการซื้อประกัน และยังสามารถให้บริการตลอด 24 ชม. ซื้อประกันผ่านเว็บไซต์ได้ทันที
โดยประกันภัยที่รู้ใจไม่ว่าประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ หรือประกันด้านสุขภาพ ก็สามารถซื้อประกันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ได้ ตลอด 24 ชม. เช่นกัน ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการประกันภัยออนไลน์ในประเทศไทยแบบครบวงจรผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับแพลตฟอร์มการขายและการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ
แพลตฟอร์มประกันภัยรถยนต์ดิจิทัล และ InsurTech ต่างกันยังไง?
InsurTech มาจากคำว่า Insurance + Technology คือ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในธุรกิจประกันภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล เช่น การใช้ AI วิเคราะห์ความเสี่ยงและคำนวณเบี้ยประกัน การเสนอกรมธรรม์ตอบโจทย์ผู้ขับขี่เฉพาะบุคคล (personalized insurance) เป็นต้น ซึ่งแพลตฟอร์มประกันภัยรถยนต์ดิจิทัลเป็น หนึ่งในรูปแบบของ InsurTech ที่เน้นให้บริการประกันภัยรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์นั่นเอง
Tips: ทำไมต้องมี InsurTech?
ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรม วงการประกันภัยเองก็หยุดนิ่งไม่ได้เช่นกัน เหตุผลที่เราต้องมี InsurTech เพราะระบบประกันแบบเดิมนั้นมักมีขั้นตอนซับซ้อน ใช้เวลา และไม่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน เช่น กรอกเอกสารเยอะ คำศัพท์เข้าใจยาก ลูกค้าไม่รู้สถานะความคืบหน้า ซึ่งผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความรวดเร็ว โปร่งใส และสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวเองผ่านมือถือหรือออนไลน์ ตั้งแต่การเลือกแผน แจ้งเคลม ไปจนถึงการติดตามสถานะต่าง ๆ รวมถึงไม่ต้องถูกขายประกันแบบยัดเยียด มีอิสระในการตัดสินใจเลือกประกันที่ต้องการ
นอกจากนี้ InsurTech ยังช่วยให้บริการเข้าถึงคนที่ไม่เคยมีประกันมาก่อน เช่น คนในพื้นที่ห่างไกล หรือคนที่มีรายได้น้อย ด้วยแผนประกันที่ยืดหยุ่น และเบี้ยประกันที่คำนวณอย่างยุติธรรม
ข้อดีของดิจิทัลแพลตฟอร์มและ InsurTech มีอะไรบ้าง?
สำหรับดิจิทัลแพลตฟอร์มหรือ InsurTech มี ‘ข้อดี’ มากกว่าที่คิด หากยังมองภาพไม่ออกว่าจะตอบโจทย์ในด้านใดได้บ้าง ตามรู้ใจไปขยายความเพิ่มเติมกันเลยดีกว่า
1. ซื้อประกัน 24 ชม.
สามารถเลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา แถมยังสามารถดำเนินการซื้อประกันออนไลน์ได้ทันที โดยไม่ต้องติดต่อตัวแทนหรือนายหน้าเหมือนในสมัยก่อนเลย มีเวลาและอิสระในการตัดสินใจซื้อ โดยไม่ต้องกดดันจากการคุยโทรศัพท์ ทำให้เลือกประกันที่ตรงจุดได้จริง
2. คำนวณเบี้ยประกันอย่างเป็นธรรม
เกิดความเป็นธรรมทั้งต่อลูกค้าที่จ่ายค่าเบี้ยประกันรถ สอดคล้องกับความต้องการ ความสามารถในการจ่าย และระดับความคุ้มครองที่ต้องการ โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือความเสี่ยงเฉพาะบุคคลมาช่วยในการกำหนด เช่น ช่วงอายุ เพศ ไลฟ์สไตล์ ความถี่ในการใช้รถ ฯลฯ
3. ปรับแต่ง-เลือกความคุ้มครองได้เอง
คนซื้อประกันสามารถออกแบบหรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ด้วยตัวเองอย่างอิสระ แทนที่จะต้องเลือกจากแพ็กเกจสำเร็จรูปไม่กี่แบบเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งจะทำให้ประกันรถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้น ไม่ต้องจ่ายในส่วนที่ไม่ต้องการ ลดค่าเบี้ยประกันโดยยังได้ความคุ้มครองที่ตรงจุดของตัวเอง
4. เคลมผ่านวิดิโอคอล
แจ้งเคลมและตรวจสอบความเสียหายผ่านการพูดคุยแบบเรียลไทม์กับเจ้าหน้าที่ประกันผ่านวิดีโอคอล โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ไปที่จุดเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่เร่งรีบหรืออยู่ในจุดที่ห่างไกลมาก ๆ
5. เข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทุกที่ทุกเวลา
ลูกค้าสามารถดูกรมธรรม์ ความคุ้มครอง วันหมดอายุ ยอดเบี้ยประกัน ฯลฯ ได้ตลอดเวลา รวมถึงเข้าถึงเอกสารกรมธรรม์ ติดตามสถานะการเคลมผ่านมือถือหรือเว็บไซต์ได้อีกด้วย
6. แจ้งเตือนการต่ออายุประกันรถยนต์
มีหลายคนที่อาจลืมเมื่อถึงเวลาต้องต่อประกัน ซึ่งแพลตฟอร์มดิจิทัลสามารถเตือนการต่ออายุประกันล่วงหน้าได้ ลดโอกาสที่ประกันจะขากช่วงความคุ้มครอง นอกจากนั้นยังอาจได้รับสิทธิพิเศษอื่น ๆ เมื่อต่อประกันล่วงหหน้าอีกด้วย
ประกันภัยรถยนต์เมื่อปรับตัวเข้าสู่ในแพลตฟอร์มดิจิทัลและ InsurTech ช่วยให้อะไร ๆ ง่ายขึ้น แถมยังอำนวยความสะดวกให้ทั้งลูกค้าและบริษัทประกันรถออนไลน์เลยด้วยซ้ำ และในอนาคตที่ประเทศไทยเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว เชื่อว่าคงจะมีเทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ อีกเพียบ ที่ช่วยให้การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ แจ้งเคลม หรือใด ๆ ก็ตามง่ายขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยบกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)
คำจำกัดความ
| ข้อมูลส่วนบุคคล | ข้อมูลใด ๆ ที่สามารถใช้ระบุตัวบุคคลได้ ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่สามารถนำไปเชื่อมโยงกับบุคคลนั้นได้ เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรประชาชน |
| ประกันออนไลน์ | การเสนอขายประกันภัยผ่านออนไลน์ โดยไม่ต้องไปที่บริษัทประกัน ซึ่งสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทประกัน |
