Roojai

ฝ่าฝืนกฎจราจรแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์คุ้มครองมั้ย?

Article Roojai Verified
เปิดความคุ้มครองประกันรถยนต์เมื่อคุณฝ่าฝืนกฎจราจร | รู้ใจ

การขับขี่บนท้องถนนในทุกๆ วัน มักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยหรือร้ายแรงที่ส่งผลถึงชีวิตและทรัพย์สิน หลายคนเชื่อว่าหากมีประกันรถยนต์ติดตัวไว้ ก็สามารถอุ่นใจกว่าในทุกสถานการณ์ แต่หากเราทำผิดวินัยจราจร แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ ประกันจะยังคุ้มครองอยู่หรือไม่? คำตอบอาจไม่ใช่แค่ “คุ้มครอง” หรือ “ไม่คุ้มครอง” ติดตามได้ในบทความนี้

ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร ประกันรถยนต์คุ้มครองมั้ย?

การขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร ไม่ได้ส่งผลต่อความคุ้มครองของประกันโดยตรง ยกเว้นจะเป็นการทำผิดตามข้อยกเว้นของกรมธรรม์ แต่หากเป็นการฝ่าฝืนกฎจราจร เช่น ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ประกันรถยนต์จะยังให้ความคุ้มครอง โดยจะขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ของคุณด้วย

  • ความคุ้มครองประกันชั้น 1: คุ้มครองอุบัติเหตุทั้งมีและไม่มีคู่กรณี และคุ้มครองทั้งรถคุณและรถคู่กรณี
  • ความคุ้มครองประกันชั้น 2+ และ 3+: คุ้มครองเฉพาะมีคู่กรณีที่ระบุตัวตนได้เท่านั้น และคุ้มครองรถคุณและรถคู่กรณี
  • ความคุ้มครองประกันชั้น 2 และ 3: คุ้มครองเฉพาะมีคู่กรณีที่ระบุตัวตนได้เท่านั้น และคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณี

โดยการขับรถผิดกฎจราจรที่ประกันยังคุ้มครอง ส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทระหว่างการขับขี่ แต่ถึงแม้จะได้รับความคุ้มครองประกันรถยนต์ตามเดิม แต่ส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็น “ฝ่ายผิด” เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และยังต้องได้รับโทษที่วางไว้ในกฎหมายข้อนั้น ๆ อีกด้วย ซึ่งขับรถผิดวินัยจราจรแบบไหน ที่ยังคงได้รับความคุ้มครอง ดังนี้

  • ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
  • ขับรถย้อนศร
  • ขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด (ไม่ใช่การแข่งความเร็ว)
  • ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร
  • เปลี่ยนเลนกะทันหัน
  • ขับรถผิดช่องทาง
  • จอดรถในที่ห้ามจอด ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่สังเกตสัญลักษณ์ป้ายจราจรก็ตาม

หมายเหตุ: รายละอียดความคุ้มครองอาจแตกต่างกัน อย่าลืมตรวจสอบความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยของคุณ เพื่อป้องกันปัญหาในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือการเคลมประกันในอนาคต

กรณีแบบไหนที่ประกันรถไม่คุ้มครอง | รู้ใจ

กรณีที่ประกันไม่คุ้มครอง

แม้ว่าประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายจราจรบางข้อ แต่ “ความผิดรุนแรง” ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมาและเป็นไปตามข้อยกเว้นของกรมธรรม์ บอกตรงนี้เลยว่าจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ เช่น

  1. เมาแล้วขับ (ทั้งสุราและสารเสพติด) – หากคุณขับรถด้วยความมึนเมา ด้วยสารเสพติดหรือมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือ 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่ถือใบขับขี่ชั่วคราว (แบบ 2 ปี) หากเกิดอุบัติเหตุประกันรถยนต์อาจไม่ให้ความคุ้มครอง
  2. ชนแล้วหนีการชนแล้วหนีมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 78 หากความเสียหายบนตัวรถพบว่าเกิดจากการชนแล้วหนี บริษัทประกันสามารถปฏิเสธความคุ้มครองได้  ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ควรรอแสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เสมอ
  3. ขับรถทำผิดกฎหมาย หนีตำรวจ ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ขนยาเสพติด – การใช้รถเพื่อเจตนากระทำที่ผิดกฎหมาย ประกันรถยนต์จะไม่ให้ความคุ้มครอง
  4. ใช้รถแข่งความเร็ว – สายแข่งรถควรรู้ หากนำรถยนต์ไปแข่งความเร็วประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครอง

นอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังมี “ข้อยกเว้นที่กรมธรรม์ไม่คุ้มครอง” ข้ออื่น ๆ แนะนำให้ตรวจสอบในเล่มกรมธรรม์ของคุณ โดยค้นหาในหัวข้อ “การยกเว้น” ของแต่ละความคุ้มครองในกรมธรรม์

ฝ่าฝืนกฎจราจรบ่อย ๆ ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันหรือไม่?

การฝ่าฝืนกฎจราจรไม่ได้ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันโดยตรง แต่ส่งผลในทางอ้อม เพราะหากฝ่าฝืนกฎจราจรบ่อยจนเกิดอุบัติเหตุบ่อยเข้า เบี้ยประกันสำหรับคนที่สำหรับคน “เคลมบ่อย” มีประวัติการแจ้งเคลมหรือประวัติการเกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ จะส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันในปีต่อไปอย่างปฏิเสธไม่ได้

แม้ประกันภัยรถยนต์จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดความเสี่ยงทางการเงินจากอุบัติเหตุ แต่การทำผิดกฎจราจรอาจเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุ ที่ก่อความสูญเสียทั้งต่อตนเองและผู้อื่น  ไม่ว่าจะเป็นการเมาแล้วขับ ฝ่าสัญญาณไฟแดง สุดท้ายแล้ว การขับขี่อย่างมีวินัย เคารพกฎจราจร และมีสติอยู่เสมอ จึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ทั้งต่อตัวเอง และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

ใบขับขี่ชั่วคราว คือ ใบอนุญาตขับรถ ที่กรมการขนส่งทางบกออกให้กับผู้ที่เพิ่งผ่านการอบรมและทดสอบเพื่อขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เป็นครั้งแรก มีอายุ 2 ปีก่อนที่จะได้รับใบขับขี่แบบ 5 ปี
previous article
< บทความก่อนหน้า

อากาศร้อนจัดสร้างความเสียหายต่อรถยังไง? ประกันรถยนต์คุ้มครองมั้ย?