Roojai

Tesla ยังครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามั้ย? วิเคราะห์เทรนด์รถ EV ในไทย

Article Roojai Verified
ส่องตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยปี 2568 | รู้ใจ ประกันรถยนต์

เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินชื่อแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ อย่าง Tesla มาบ้างแล้ว แต่ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่าทำไมถึงได้รับความสนใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเป็นวงกว้าง เพราะถ้าหากเทียบในเรื่องของ ‘ราคา’ นับว่าแพงกว่าเจ้าอื่น ๆ อยู่มาก ประกอบกับความนิยม ความสนใจ และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างผันผวน ในอนาคตจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร? รู้ใจรวบรวมประเด็นสำคัญมาให้หมดแล้ว ตามไปทำความเข้าใจกันหน่อยดีกว่า

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

Tesla เป็นรถแบบไหน ทำไมถึงได้รับความนิยม?

รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Tesla เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ระดับโลก ที่สั่นสะเทือนวงการยานยนต์โลก ด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ส่งผลให้ Tesla กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในเรื่องของสมรรถนะการเดินทางที่เทียบเท่าหรือใกล้เคียง Supercar และเทคโนโลยีช่วยขับอย่าง Autopilot ที่มีการใช้ AI เข้ามาช่วยในการขับ

โดยระบบดังกล่าวเป็นจุดสร้างความแตกต่างในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างมาก ตัวระบบจะประมวลผลวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเข้าใจง่าย ๆ ว่าใช้ AI ขับรถยนต์ไฟฟ้าแทนคน ด้วยการเชื่อมต่อกับเซนเซอร์และระบบต่าง ๆ อย่าง ‘กล้อง’ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าได้รับความสนใจเป็นวงกว้างตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัว

รถ Tesla ไม่ได้มีดีแค่มอเตอร์และ AI

ต้องบอกก่อนว่า Autopilot เป็นเพียงแค่หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Tesla ได้รับความนิยม เพราะนอกจากเรื่องของพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีแล้ว เรื่องของการออกแบบก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์นี้โดดเด่น สะดุดตา เป็นเหตุผลจากการที่ Tesla ไม่มีเครื่องยนต์ ทำให้สามารถดีไซน์ภายนอกและภายในออกมาได้อย่างอิสระ

หลังคาก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Tesla เพราะเน้นให้สามารถมองทะลุผ่านหลังคากระจก ที่ทอดยาวตั้งแต่ด้านหน้าถึงด้านหลังผ่านกระจก 3 บาน พร้อมติดตั้งฟิล์มกันความร้อนและฟิล์มทึบสีดำ ช่วยให้มีมุมมองที่กว้างมากขึ้นโดยไม่รู้สึกร้อน และป้องกันไม่ให้คนภายนอกมองเห็น นอกจากนั้นยังมีหลายรุ่นให้เลือกจากการใช้งาน ทั้ง Tesla model 3, Tesla model Y, Tesla model X และ Tesla model S ไปจนถึง Tesla Cybertruck รถกระบะไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่จับตามอง

ทำไม Tesla ถึงครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | รู้ใจ ประกันรถยนต์

รถเทสล่า ยังครองตลาดอยู่มั้ย?

จากสถานการณ์ล่าสุด ปี 2025 สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้รายงานยอดขายรถยนต์ในไตรมาสแรกของปี 2025 ลดลงถึง 13% โดยส่งมอบรถยนต์ได้ 336,681 คัน  ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับปรุงโรงงานทั่วโลก เพื่อทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla model Y รุ่นใหม่ ทำให้สูญเสียกำลังการผลิต และอีกส่วนสำคัญเกิดจากกระแสการประท้วงต่อต้านอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัท ที่เข้าไปมีบทบาททางการเมืองสหรัฐ ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในฝั่งตลาดยุโรปและสหรัฐฯ

ในขณะเดียวกัน ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2025 บริษัทรถยนต์อย่าง BYD ขายรถทั้งหมด 1,380,893 คัน เพิ่มขึ้น 46.98% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และในปี 2024 บีวายดีได้ขึ้นแท่นผู้ผลิตรถยนต์ขายดีที่สุดในจีน ด้วยยอดขายทุบสถิติ 4.25 ล้านคัน (รวมรถ BEV และ PHEV) แซงหน้าโฟล์คสวาเกน ด้วยกลยุทธ์บุกตลาด โดยจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่แพง แต่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งบริษัท เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นราคาประหยัด เพื่อกระตุ้นยอดขาย

แม้ว่า BYD จะมาแรง แต่ในปี 2024 ก็ยังคงเป็น Tesla ที่ครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งได้ส่งมอบ BEV ถึง 1.79 ล้านคัน และ BYD ส่งมอบ BEV จำนวน 1.764 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม Counterpoint Research รายงานคาดการณ์ว่า BYD จะขึ้นแซง Tesla ในส่วนแบ่งตลาด BEV ทั่วโลกปี 2025 ซึ่งก็เป็นรายงานที่น่าติดตามกันว่า BYD จะขึ้นแซง Tesla ได้จริงหรือไม่

นอกจากการมีรถยนต์ไฟฟ้าคู่ใจ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือประกันรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าซื้อรถ Tesla หรือ BYD หรือแบรนด์อื่น ๆ ประกันรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะคุ้มครองคุณจากอุบัติเหตุ น้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย ใช้งานรถหรือขับไปไหนก็อุ่นใจทุกเส้นทาง

เทรนด์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย | รู้ใจ ประกันรถยนต์

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย จะเป็นยังไงต่อไป?

เนื่องจากความนิยมและความต้องการต่อรถยนต์ไฟฟ้าในไทยค่อนข้างผันผวน ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่แทรกเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า ‘แนวโน้ม’ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป อ้างอิงจากมุมมองจาก Krungsri Research “ปี 2567-2569 รถยนต์นั่งไฟฟ้า รถโดยสารไฟฟ้า และรถยนต์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์นั่งในกลุ่ม BEV และรถโดยสารไฟฟ้าที่จะขยายระยะทางวิ่งไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด

โดยรถยนต์นั่งไฟฟ้า XEV คาดว่าจะมียอดจดทะเบียนใหม่ประมาณ 190,000 คันต่อปี โดยมียอดจดทะเบียนรถยนต์ BEV เฉลี่ยปีละ 96,000 คัน (เร่งขึ้นจาก 80,000-90,000 คันในปี 2567) จากปัจจัยสนับสนุน เช่น การให้เงินอุดหนุนต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการ EV 3.5, การปรับสมรรถนะให้รถวิ่งได้ไกลขึ้น, ต้นทุนรถไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลง ไปจนถึงจำนวนโมเดลรถที่มีมากขึ้น เป็นต้น

นอกจากนี้ กระแสความนิยมและความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยตอบโจทย์ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้สามารถทำกำไรได้มากขึ้น

(ที่มา: krungsri.com)

จัดอันดับ 7 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ครองตลาดไทย

เปิดสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ปี 2024 รวมมียอดจดทะเบียน 70,137 คัน เรียงอันดับตามแบรนด์รถไฟฟ้า ดังนี้

  • อันดับ 1 BYD  27,005 คัน ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
  • อันดับ 2 MG  9,081 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.9%
  • อันดับ 3 NETA  7,969 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.4%
  • อันดับ 4 ChangAn  5,912 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
  • อันดับ 5 AION  5,185 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.4%
  • อันดับ 6 TESLA  4,121 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9%
  • อันดับ 7 GMW ORA  3,231 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.6%
  • อันดับ 8 Volvo  2,563 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.7%
  • อันดับ 9 BMW  1,483 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.1%
  • อันดับ 10 Wuling  711 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.0%

ที่มา: autolifethailand.tv

ต้องยอมรับว่า Tesla เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งในเรื่องรูปลักษณ์ที่สวยงาม เทคโนโลยีสุดล้ำสมัย สมเหตุสมผลกับราคาที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ก็ยังมีทางเลือกอื่น ๆ โดยเฉพาะคู่แข่งอย่าง BYD ที่ครองส่วนแบ่งทางตลาดในไทยจากกลยุทธ์ราคาที่ทำให้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เราก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าในปี 2025 นี้ Tesla จะยังคงครองตลาดรถ BEV ได้ต่อไปหรือไม่

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

BEV BEV ย่อมาจาก Battery Electric Vehicle คือ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยนต์น้ำมัน ต้องชาร์จไฟจากปลั๊กไฟหรือสถานีชาร์จเท่านั้น
PHEV PHEV ย่อมาจาก Plug-in Hybrid Electric Vehicle คือ รถยนต์ไฮบริด มอเตอร์ไฟฟ้า และ เครื่องยนต์น้ำมัน สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในระยะทางสั้น ๆ โดยไม่ใช้น้ำมันได้ และเมื่อแบตหมด ระบบจะสลับไปใช้น้ำมัน
XEV XEV ย่อมาจาก Electrified Vehicle เป็นคำรวมที่ใช้เรียกรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ทั้ง BEV, PHEV, HEV และ FCEV
previous article
< บทความก่อนหน้า

​​รีวิว 5 ปัญหารถไฟฟ้า EV ที่มีแต่คนใช้จริงเท่านั้นที่รู้!​