ไดสตาร์ตรถเสีย อาการเป็นยังไง? ควรต้องทำยังไง?

น้อยคนนักที่จะรู้จักเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนเครื่องยนต์แบบเจาะลึก โดยเฉพาะในส่วนของไดสตาร์ตรถ ที่แทบไม่รู้เลยว่าคืออะไร มีหน้าที่ยังไง และถ้าหากเสียหรือได้รับความเสียหายจะมีอาการเป็นแบบไหน กรณีที่รถสตาร์ตไม่ติด มีเสียงถือเป็นอาการความผิดปกติได้มั้ย? รู้ใจรวบรวมคำตอบมาให้เรียบร้อยแล้ว ตามไปทำความเข้าใจกันเลย

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

• ไดสตาร์ตรถ คืออะไร?
• ไดสตาร์ตรถเสีย อาการเป็นยังไง?
• สาเหตุที่ทำให้ไดสตาร์ตรถเสียหรือมีปัญหา มีอะไรบ้าง?
• เมื่อไดสตาร์ตรถเสีย แก้ปัญหายังไงดี?

ไดสตาร์ตรถ คืออะไร?

ทำความรู้จักกันก่อนกับส่วนของไดสตาร์ตรถหรือมอเตอร์สตาร์ต (Starter motor) ชิ้นส่วนเครื่องยนต์อีกหนึ่งชิ้นที่เป็นจุดเริ่มต้นของการขับขี่ ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ตติดได้ เนื่องจากเป็นตัวที่ส่งกำลังฉุดให้เครื่องยนต์เริ่มต้นทำงาน แต่เมื่อหลังจากที่เครื่องยนต์ทำงานแล้ว ไดสตาร์ตรถจะหมดหน้าที่ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นการทำงานระยะสั้น ๆ เท่านั้น

การทำงานของไดสตาร์ตรถ

สำหรับหลักการทํางานของเครื่องยนต์ “ไดสตาร์ตรถ” คือ เมื่อบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง ON หรือกดปุ่มสตาร์ตรถ (Push Start) จะมีกระแสไฟฟ้าที่มาจากแบตเตอรี่เข้าไปยังระบบคอยล์จุดระเบิดและหัวเทียนรถยนต์ เพื่อเตรียมพร้อมและหลังจากที่บิดกุญแจไปตำแหน่งสตาร์ต ตัวโซลีนอยด์จะทำหน้าที่ดันก้านปูให้เฟืองไปขับเฟืองไฟวิล (fly wheel) โดยหลักการทำงานนี้จะอาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เช่นกัน และแน่นอนว่าหากแบตหมดจะเกิดอาการสตาร์ตรถไม่ติด บิดกุญแจแล้วไม่มีเกิดอะไรขึ้นจากรถ

ไดสตาร์ตรถเสีย อาการเป็นยังไง?

เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา หรือเพื่อแก้ไขอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างท่วงที ลองมาเช็คกันหน่อยว่ารถยนต์คันโปรดของคุณ มีลักษณะอาการที่บ่งบอกว่าไดสตาร์ตรถเสียหรือไม่ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. เมื่อบิดสตาร์ตรถแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อเกิดกรณีรถสตาร์ตไม่ติดหรือไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น แปลว่าปัญหาอยู่ที่ไดสตาร์ตรถแน่นอน เพราะการที่จะทำให้รถยนต์ติด จะต้องเริ่มจากไดสตาร์ตส่งกระแสไฟฟ้าไปให้ส่วนอื่น ๆ ต่อ หากเกิดอาการแบบนี้ อาจต้องลองเช็คด้วยการสตาร์ตเครื่องยนต์อีกสัก 2-3 ครั้ง หากยังสตาร์ตรถไม่ติดดังเดิม ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าไดสตาร์ตเสีย ทางที่ดีควรรีบนำรถไปเช็คที่อู่หรือส่งซ่อมโดยด่วน

2. เมื่อสตาร์ตรถติด แต่มีเสียงแปลก ๆ ขึ้นมา

หากสตาร์ตรถติด แต่กลับมาเสียงแปลก ๆ ดังแทรกขึ้นมา อาจมองได้ว่ามีปัญหาจากไดสตาร์ตได้เหมือนกัน โดยสาเหตุอาจเกิดจากไดสตาร์ตมีไฟอ่อน แต่ยังไม่ถึงขั้นพัง/เสีย ทางที่ดีควรรีบนำรถเข้าไปเช็คโดยด่วน เพื่อความปลอดภัยในการขับรถของคุณ

3. เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ตติดยากกว่าปกติ

เมื่อขดลวดหรือแปรงถ่านส่วนของไดสตาร์ตเริ่มเสื่อม จะส่งผลให้กระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังมอเตอร์มีไม่พอ การหมุนของมอเตอร์ไม่แรงพอที่จะทำให้เครื่องยนต์ติดได้ในครั้งเดียวที่สตาร์ต ต้องบิดสตาร์ตหลายครั้งกว่าเครื่องยนต์จะติด เครื่องยนต์ติดยากกว่าทุก ๆ วัน หรือหนักกว่านั้นบางครั้งติด บางครั้งไม่ติดก็มี ยิ่งปล่อยไว้นานไม่รีบซ่อมอาจทำให้ไดสตาร์ตเสียหายหนักจนไม่สามารถใช้งานได้เลย

แม้ว่าไดสตาร์ตรถเสีย จะไม่ใช่ชนวนที่ทำให้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนได้โดยตรง แต่ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุไม่มีใครคาดการณ์ได้ล่วงหน้า คงจะดีไม่น้อยหากคุณมีเพื่อนร่วมทาง ที่พร้อมให้ความคุ้มครองครอบคลุมตลอดการเดินทาง อย่าง “ประกันภัยรถยนต์” ที่นอกจากจะช่วยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีบริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.ช่วยเหลือเมื่อรถเสีย น้ำมันหมด เข้ารถไม่ได้ ฯลฯ

สาเหตุที่ทำให้ไดสตาร์ตรถเสียหรือมีปัญหา มีอะไรบ้าง?

เมื่อเทียบกับการทํางานของอะไหล่ชนิดอื่น ๆ ไดสตาร์ตรถอาจดูเหมือนไม่ได้ทำงานหนัก แต่คุณรู้มั้ยว่าไดสตาร์ตเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนรถยนต์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากได้รับความเสียหายขึ้นมา อาจตามมาด้วยปัญหาไม่รู้จบ และ ‘สาเหตุ’ ที่ทำให้ไดสตาร์ตรถเสีย มีดังนี้

1. อาจมีสิ่งสกปรกหรือการกัดกร่อนบริเวณไดสตาร์ตรถ ที่เข้าไปขัดขวางการทำงานได้
2. อาจเป็นเพราะไดสตาร์ตรถมีอายุครบกำหนดตามระยะเวลาของรถยนต์แล้ว
3. สายไฟที่ต่อไปยังไดสตาร์ตรถอาจขาดหรือหลวม

เมื่อไดสตาร์ตรถเสีย แก้ปัญหายังไงดี?

ต้องบอกก่อนการแก้ไขปัญหาไดสตาร์ตรถเสียอาจทำได้ยาก แต่เรามีวิธีเบื้องต้นง่าย ๆ ที่สามารถลองแก้ไขเองก่อนได้ แล้วค่อยรีบนำรถเข้าไปเช็คให้เรียบร้อยอีกที โดยมีวิธีแก้ไขดังนี้

1. การสตาร์ตรถแบบเร็ว ๆ

เมื่อรถยนต์ของคุณเกิดอาการรถสตาร์ตไม่ติด อันดับแรกให้ลองสตาร์ตเครื่องยนต์เร็วขึ้น ด้วยการบิดกุญแจอย่างรวดเร็ว เผื่อบางทีการกระตุ้นไฟอาจทำให้พอต่อการทำให้เครื่องยนต์ติด หลังจากที่เครื่องยนต์ติดแล้ว ให้ขับรถนำส่งอู่ให้ช่างเช็คระบบทันที

2. การเข็นรถก่อนสตาร์ตรถ

บอกก่อนว่าวิธีเข็นรถก่อนสตาร์ต เมื่อพบเจอปัญหารถสตาร์ตไม่ติด เป็นวิธีที่ใช้ได้กับ “รถยนต์เกียร์กระปุก” เท่านั้น โดยให้ใส่เกียร์ 1 ค้างไว้ และทำการบิดกุญแจเพื่อสตาร์ตรถ เพื่อให้ไฟหน้าปัดแสดงขึ้น จากนั้นเข็นรถให้เร็วขึ้นจนได้ความเร็วที่เหมาะสม แล้วทำการปล่อยคลัตช์พร้อมเหยียบคันเร่ง เมื่อเครื่องยนต์ติดครบแล้ว ให้รีบขับรถไปอู่ซ่อมเพื่อตรวจเช็คหรือทำการซ่อม

3. ให้ลองนำโลหะมาเคาะที่ไดสตาร์ตรถ

ส่วนวิธีนี้จะใช้ได้กับ “รถยนต์เกียร์ออโต้” ที่คาดว่าไดสตาร์ตรถเสีย ด้วยการนำโลหะ เช่น ประแจหรือแม่แรงมาทำการเคาะเบา ๆ ย้ำว่าเบา ๆ สัก 3-4 ครั้งที่ไดสตาร์ตรถ แล้วลองสตาร์ตเครื่องยนต์อีกครั้ง หากรถยนต์สตาร์ตติดแล้วให้รีบขับรถเข้าอู่ เพื่อให้ช่างตรวจเช็คให้เรียบร้อย

4. โทรหาประกัน หรือรถยก/รถลาก

คนที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.ที่ทำกับประกันรถ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ สำหรับลูกค้ารู้ใจสามารถโทร 02 080 9194 หรือกดขอความช่วยเหลือผ่าน Roojai Mobile App สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อบริการเสริมหรือไม่ได้ทำประกัน สามารถโทรขอความช่วยเหลือรถเสียผ่านแบรนด์รถยนต์ (เซอร์วิสหลังการขายรถ อาจมีระยะเวลาช่วยเหลือจำกัด เช่น ช่วยเหลือหลังการขายไม่เกิน 3 ปี) หรือโทรผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้ เช่น

• รถเสียบนทางด่วน โทรหาการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (ทางด่วน) โทร. 1543
• รถเสียบนมอเตอร์เวย์ โทรหากรมทางหลวง โทร. 1586

เห็นแล้วใช่มั้ยว่า ไดสตาร์ตรถเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่มีความสำคัญไม่แพ้ไปกว่าชิ้นส่วนอื่น ๆ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลักการทํางานของเครื่องยนต์โดยตรง หากพบว่ามีอาการผิดปกติ ชำรุด หรือเสียหายเกิดขึ้น แนะนำให้รีบตรวจเช็ค และแก้ไขให้เรียบร้อยในทันที เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะปัญหารถสตาร์ตไม่ติดในวันที่เร่งรีบ

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

ชนวนเหตุ	สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นหรือสาเหตุเบื้องต้น ที่นำไปสู่เหตุการณ์บางอย่าง เช่น อุบัติเหตุ ความขัดแย้ง หรือปัญหา
หัวเทียนรถยนต์	อุปกรณ์สำคัญในระบบจุดระเบิดของเครื่องยนต์ มีหน้าที่สร้างประกายไฟเพื่อจุดระเบิดส่วนผสมของอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงภายในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์