Roojai

รถน้ำมันใกล้หมด ปั๊มอยู่ไกล ทำไงดี? รับมือด้วย 7 วิธีนี้

Article Roojai Verified
วิธีรับมือเมื่อรถน้ำมันใกล้หมด | รู้ใจ ประกันรถยนต์

บางครั้งในตอนใช้รถ คุณอาจเผลอไม่ได้มองเกจ์วัดน้ำมัน จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่มีคนใช้รถคนไหนอยากเผชิญคือ รถน้ำมันหมด โดยเฉพาะไปหมดบนเส้นทางต่างจังหวัดที่ปั๊มน้ำมันแต่ละจุดห่างไกลเหลือเกิน หากเหตุการณ์น้ำมันหมด รอคุณอยู่ตรงหน้า ทว่าบนเส้นทางไม่คุ้นเคย ปั๊มอยู่ตรงไหนไม่รู้ จะมีวิธีรับมือหรือป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ยังไงได้บ้าง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน อย่างรถน้ำมันใกล้หมดเต็มที่ แถมยังเดินทางคนเดียวในช่วงเวลากลางคืน มิหนำซ้ำยังเป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ปั๊มน้ำมันอยู่ไกล หลายคนคงเกิดความลนลาน ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ ถ้าอย่างนั้นลองมาดู 7 วิธีรับมือกันหน่อยดีกว่า

รู้มั้ย? ถ้าน้ำมันหมดเหลือ 0 ขีด วิ่งต่อได้แค่ไหน

หากน้ำมันเหลือ 0 หรือขึ้นไฟกะพริบ ตัวเลขโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 40-50 กิโลเมตร แต่ถ้าอยากคิดให้แม่นยำจริง ๆ ต้องดูที่อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถเป็นหลัก เช่น รถของคุณมีอัตราบริโภคน้ำมันที่ 15 กิโลเมตร/ลิตร ถ้าวิ่งได้ตามนี้จริง น้ำมันที่เหลือเพียง 10 ลิตร จะวิ่งได้ราว ๆ 120-150 กิโลเมตร แต่ควรเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วย เพราะอาจวิ่งได้ระยะทางน้อยกว่านี้ แนะนำว่าไม่ควรรอให้สุดจริง ๆ และควรหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด เพื่อเติมน้ำมันรถทันที

1. หาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด

ทางออกที่ดีที่สุดและเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับ เมื่อรู้ตัวว่าน้ำมันรถใกล้หมดเต็มที คือ การมองหาปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อรีบเติมน้ำมันในทันที โดยวิธีที่ง่ายที่สุดหรือหาจาก Maps โดยพิมพ์คำว่า “ปั๊มน้ำมันใกล้ฉันที่สุด” เพราะถ้าหากคุณฝืนขับรถต่อไปเรื่อย ๆ จนรถน้ำมันหมดกลางทาง และต้องจอดอยู่กลางถนน อาจทำให้เกิดอันตรายตามมาได้

วิธีค้นหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด | รู้ใจ ประกันรถยนต์

2. เลี้ยงความเร็วให้คงที่

ไม่ว่าคุณจะรีบไปถึงปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดแค่ไหน แต่การเร่งเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น หรือมีการเร่งเครื่องยนต์ผิดวิธี เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รถน้ำมันหมดเร็วขึ้น ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากให้น้ำมันหมดกลางทาง ควรควบคุมความเร็วให้คงที่ประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

3. เหยียบเบรคเท่าที่จำเป็น

เนื่องจากการเหยียบเบรครถยนต์บ่อย โดยไม่มีความจำเป็น จะทำให้ความเร็วของรถไม่คงที่ และต้องเหยียบคันเร่งเพื่อให้รถยนต์กลับมาอยู่ในความเร็วปกติอยู่บ่อย ๆ ซึ่งการเหยียบคันเร่งถี่เกินไป หรือเหยียบคันเร่งไม่ถูกต้อง จะทำให้การสูบฉีดต้องใช้น้ำมันมากขึ้น

4. ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดในรถ

ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ, วิทยุ และเครื่องปรับอากาศ หากปิดการทำงานจะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้ 10-20%

5. ปิดหน้าต่างขณะขับรถ

แม้ว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศจะทำให้คุณรู้สึกอึดอัด ร้อน หายใจไม่ออก แต่การเปิดกระจกรถยนต์ทั้งบาน จะทำให้รถเกิด ‘แรงต้าน’ กับลม ส่งผลให้ต้องใช้แรงขับเคลื่อนมากกว่าเดิม ทางที่ดีควรปิดหน้าต่างขณะขับรถ หรือแง้มกระจกลงเพียงเล็กน้อยให้พอมีลมพัดผ่านเข้ามา เพื่อประหยัดน้ำมัน

วิธีขับรถน้ำมันใกล้หมดให้ได้ไกลที่สุด | รู้ใจ ประกันรถยนต์

6. เข้าเกียร์ว่างขณะจอดรถติดไฟแดง

การเข้าเกียร์ว่างขณะจอดรถติดไฟแดง หรือรถยนต์จอดนิ่งสนิทสักระยะหนึ่ง จะช่วยลดการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 30-40%

7. พกถังน้ำมันสำรองติดรถไว้เสมอ

ถังน้ำมันสำรองถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่รถทุกคันที่เดินทางไกลควรมีติดไว้ เพราะหากต้องเดินทางไกล หรือต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก รวมถึงไม่มีปั๊มน้ำมัน อย่างน้อยยังสามารถอุ่นใจได้ว่ายังมีน้ำมันสำรองเตรียมไว้อยู่

หากรถดับกลางทางเพราะน้ำมันหมด รู้ใจมีบริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ทั่วไทย โดยมีทั้งบริการเติมน้ำมันฉุกเฉิน รถยก/รถลากหากรถเสีย ซ่อมแซมฉุกเฉิน ช่วยเหลือแบตเตอรี่เสีย และช่วยเหลือโดยช่างกุญแจ หากลูกค้ารู้ใจซื้อบริการเสริมนี้แล้ว สามารถแจ้งเคลมผ่าน Roojai Mobile App หรือโทร 02 080 9194 ได้เลย

การปล่อยให้รถน้ำมันหมดกลางทาง ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณร้อนอกร้อนใจเพียงอย่างเดียว แต่การปล่อยให้น้ำมันหมดเกลี้ยงถังอยู่บ่อย ๆ รวมถึงเหลือน้อยกว่า 1/4 ของถังน้ำมัน อาจทำให้เครื่องยนต์และปั๊มติ๊กได้รับความเสียหายตามไปด้วย เพราะฉะนั้นควรหมั่นเติมน้ำมันให้อยู่ในปริมาณ 3/4 ของตัวถังเสมอ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณอุ่นใจ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่พังเสียหายอีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ตัวเลขที่บ่งบอกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันกี่ลิตรในการเดินทางระยะ 100 กิโลเมตร หรือกี่กิโลเมตรต่อลิตร
แรงต้าน แรงที่มีทิศทางต่อต้านการเคลื่อนที่หรือทิศทางตรงข้ามกับแรงที่พยายามจะทำให้วัตถุเกิดการเคลื่อนที่
previous article
< บทความก่อนหน้า

สอนปรับตำแหน่ง-วิธีการจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ!