Roojai

รู้ทัน! มิจฉาชีพหลอกลวงเป็นตัวแทนหรือโบรคเกอร์นายหน้าประกันภัย

Article Roojai Verified
วิธีป้องกันการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพมาขายประกัน | รู้ใจ ประกันภัย

บางคนอาจจะแยกไม่ออกว่า ตัวแทนประกันภัยกับโบรกเกอร์ประกันภัยนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร อีกทั้งต้องยอมรับว่าทุกอาชีพมักจะมีช่องโหว่ให้คนไม่ดีได้มีโอกาสทุจริตบางอย่างได้ ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน อาชีพตัวแทนประกันแทบจะเป็นอาชีพที่เพื่อน ๆ ขยาด หวาดกลัว เพราะในตอนั้นคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงความสำคัญของประกัน และยังมีนายหน้าหรือตัวแทนไปหลอกขายประกันซ้ำเข้าไปอีก ทำให้ภาพลักษณ์ตัวแทนขายประกันในสมัยก่อนไม่ค่อยดีนัก แต่วันนี้สังคมรวมถึงคนไทยส่วนใหญ่ มีความคิดที่เปลี่ยนไปแล้วกับการทำประกันภัย ทั้งประกันสุขภาพ ประกันโรคร้าย ประกันมะเร็ง หรือแม้กระทั่งประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ในบทความนี้จึงมาแฉกลลวงของตัวแทนหรือโบรกเกอร์นายหน้าประกันภัยให้ได้ทราบกัน เพื่อเพื่อนผู้อ่านของรู้ใจจะได้มีข้อมูลเอาไว้ ก่อนทำประกันควรต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง และวิธีหลอกลวงของพวกมิจฉาชีพมีอะไรบ้าง

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

ตัวแทนประกันภัย คืออะไร?

ตัวแทนประกันภัย หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีความเชี่ยวชาญด้านประกันภัย ซึ่งจะต้องมีสังกัดบริษัทประกันที่แน่นอน ตัวแทนประกันภัยจะสามารถให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่าง ๆ เฉพาะที่บริษัทต้นสังกัดของตนเองมีขายเท่านั้น และตัวแทนยังสามารถติดตาม ดูแล ให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ กับผู้เอาประกันได้อีกด้วย เช่น แนะนำโรงพยาบาล ช่วยเรื่องการเคลมสินไหมต่าง ๆ 

นายหน้าโบรกเกอร์ประกันภัย คืออะไร?

โบรกเกอร์ประกันภัย หรือ นายหน้าประกันภัย หมายถึง คนกลางที่เป็นบุคคลธรรมดาหรืออาจเป็นนิติบุคคล โดยไม่ขึ้นอยู่กับสังกัดใดสังกัดหนึ่งของบริษัทประกันภัย หน้าที่หลักคือให้บริการในการจัดหาประกันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยไม่ได้โฟกัสว่าประกันนั้นเป็นของบริษัทประกันไหน

ซื้อประกันภัยยังไงให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ | รู้ใจ ประกันภัย

ตัวแทนประกันภัย แตกต่างจากโบรกเกอร์ประกันภัยอย่างไร?

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ ตัวแทนจะมีสังกัดหรือบริษัทที่ชัดเจน เช่น นาย A เป็นตัวแทนประกันภัยที่บริษัท B ดังนั้นนาย A จะสามารถขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยได้เฉพาะของบริษัท B เท่านั้น

แต่นายหน้าประกันภัยหรือโบรกเกอร์จะไม่มีสังกัด พูดง่ายๆ ให้เข้าใจก็คือ ขายของเจ้าไหนก็ได้ ขอแค่ลูกค้าพอใจและตัวนายหน้าหรือโบรกเกอร์สามารถทำเงินได้จากการขายนั้น เช่น น.ส.C เป็นโบรกเกอร์ประกันภัย มีลูกค้าอยากทำประกันสุขภาพ น.ส.C ก็จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งจะเป็นแพคเกจของบริษัทประกันภัยไหนก็ได้ เป็นต้น

5 กลลวงมิจฉาชีพประกันภัยมีอะไรบ้าง?

1. นำเสนอการขายด้วยการมอบสิทธิพิเศษให้มากเกินความเป็นจริง

กลลวงของมิจฉาชีพส่วนใหญ่ จะใช้วิธีแอบอ้างและเสนอขายพร้อมกับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น แถมตู้เย็น ทีวี หรือมีการ kick back เบี้ยประกันกลับคืนให้กับลูกค้า ของแจก ของแถม ของฟรี มีใครที่ไม่อยากได้บ้าง นี่จึงเป็นหลุมพรางหลุมแรกที่พวกมิจฉาชีพจะหลอกลวงให้คนตกลงไป

2. โดนหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว

จำไว้ว่าไม่มีบริษัทประกันภัยบริษัทไหนที่เรียกเก็บเบี้ยผ่านบัญชีของตัวแทนหรือนายหน้า ต้องโอนเข้าบริษัทเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วตัวแทนหรือนายหน้าที่ให้โอนเข้าบัญชีส่วนตัวของตัวเอง หรือของบุคคลที่ไม่ใช่บริษัทประกันภัย ให้ เอ๊ะ! ไว้ก่อน อย่าเพิ่งโอน ข้ออ้างของมิจฉาชีพจะไม่พ้นเรื่องความสะดวก สบายของลูกค้า เช่น นาย A หลอกให้ น.ส.B (ผู้เอาประกัน) โอนค่าเบี้ยเข้าบัญชีตนเอง โดยอ้างว่า ตนเองกำลังจะเข้าบริษัทอยู่แล้ว โอนมาได้เลยเดี๋ยวจัดการออกเอกสารให้ เมื่อผู้เอาประกันหลงเชื่อและโอนค่าเบี้ยไป ส่วนใหญ่แล้วเบี้ยจะไม่ถูกโอนเข้าบริษัทประกัน นั่นหมายความว่า ตัวแทนหรือนายหน้าคนนั้นได้เงินไปแล้วก็บิดหนี ก่อนการโอนค่าเบี้ยประกันทุกครั้ง แนะนำให้โทรสอบถามไปยังต้นสังกัดหรือบริษัทที่คุณกำลังจะซื้อประกัน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนโดนหลอก

3. โดนหลอกให้จ่ายค่าเบี้ยแต่ไม่ได้รับกรมธรรม์

อีกหนึ่งวิธีที่เกี่ยวกับค่าเบี้ยประกันที่มิจฉาชีพส่วนใหญ่ใช้หลอกลวง คือ การแอบอ้างบริษัทประกันภัยต่าง ๆ และวิธีที่เหยื่อมักจะถูกหลอกคือ การขายประกันผ่านทางโทรศัพท์ มิจฉาชีพจะชักแม่น้ำทั้ง 5 มาโน้มน้าวให้คุณใจอ่อน ดังกรณีที่เป็นข่าว ที่มีการโทรชวนซื้อประกันรถยนต์ โดยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นตัวแทนของบริษัทหนึ่ง โดยให้โอนเงินค่าเบี้ยประกันรถยนต์ เคสนั้นมีผู้เสียหายกว่า 150 ราย นับเป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้านบาท ผู้ที่โดนหลอกเสียทั้งเงินและไม่ได้รับความคุ้มครองอีกด้วย

4. มีกรมธรรม์ประกันแต่เคลมไม่ได้

อีกกรณีที่พบได้บ่อยคือ ตัวแทนที่มาในคราบมิจฉาชีพ รับหน้าที่ในการต่อประกันรถยนต์ให้ทุกปี โดยที่ผู้เอาประกันเชื่อใจ และไม่เคยเช็คอะไรใด ๆ เพราะเห็นว่ามีกรมธรรม์อยู่กับตัว แต่พอเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องทำการเคลมประกัน กลับถูกปฏิเสธการเคลมเพราะตรวจพบว่ากรมธรรม์เล่มนี้ ขาดไปตั้งแต่ปีแรกแล้ว นั่นหมายความว่า มิจฉาชีพอาจหลอกคุณให้ชำระเบี้ยผ่านตัวเอง แต่ตัวเองไม่ได้นำเบี้ยนั้นไปต่อประกันให้ ทำให้กรมธรรม์ขาดความคุ้มครอง หรืออีกกรณี คือ ตัวแทนคนนั้นได้ลาออกจากบริษัทแล้ว แต่ยังไปตามเก็บเบี้ยลูกค้า กรณีเช่นนี้ก็มีเช่นกัน

5. ตัวแทน นายหน้าหรือโบรกเกอร์ประกันภัยปกปิดข้อมูลสำคัญ

ก่อนการเสนอขายประกันทุกครั้ง ตัวแทน นายหน้า มักจะต้องแสดงหลักฐาน เช่น ใบอนุญาตในการเป็นตัวแทน หรือต้องยอมให้ลูกค้าผู้ที่กำลังจะซื้อประกันนั้นตรวจเช็คข้อมูลที่ต้องมีการรับรองจาก คปภ. ถึงจะมีสิทธิ์ในการขายประกันได้ ยกตัวอย่าง กรณีที่มีตัวแทนประกันภัยไปหลอกขายประกันรถยนต์ โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งตรวจพบภายหลังว่าตัวแทนคนดังกล่าว ไม่มีใบอนุญาตในการขายประกันวินาศภัย

เราได้รู้ทั้ง 5 กลลวงของมิจฉาชีพที่นิยมใช้กันแล้ว จริง ๆ มันยังมีวิธีอีกมากมายที่พวกมิจฉาชีพพยายามจะหลอกเรา จึงมีวิธีรับมือเหล่ากลลวง ดังต่อไปนี้

วิธีตรวจสอบโบรคเกอร์นายหน้าประกันภัย | รู้ใจ ประกันภัย

มีวิธีตรวจสอบมิจฉาชีพหลอกขายประกันยังไงบ้าง?

1. ตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์และใบอนุญาตของตัวแทน

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เห็นว่าการซื้อประกันประเภทต่าง ๆ ผ่านโบรกเกอร์และตัวแทนเป็นสิ่งที่สะดวก แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตของโบรกเกอร์/ตัวแทน ซึ่งทำได้ด้วยตัวเอง ผ่านทางเว็บไซต์ของ คปภ. โดยเมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์แล้วให้เลือก บริการอิเล็กทรอนิกส์ > สำหรับผู้บบริโภค > ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (OIC E-Servie) หรือกดตรวจสอบตัวแทน/นายหน้าเลย เพื่อให้มั่นใจว่า ใบอนุญาตนี้ยังไม่ถูกเพิกถอน และยังไม่หมดอายุ

2. การชำระเบี้ยประกัน ต้องชำระผ่านบัญชีของบริษัทประกันเท่านั้น

จำไว้ว่าการชำระเบี้ยประกันไม่ว่าจะปีแรกหรือปีไหน ต้องชำระผ่านบัญชีของบริษัทประกันภัยที่คุณเลือกไว้เท่านั้น หากไม่แน่ใจหรือกลัวว่าจะเป็นเลขบัญชีส่วนตัว แต่ตัวแทนอ้างว่าเป็นของบริษัท แนะนำให้โทรกลับไปเช็คที่บริษัทต้นสังกัดก่อนโอนเงินว่าใช้เลขที่บัญชีนี้อยู่ใช่หรือไม่ ห้ามโอนเข้าบัญชีส่วนตัว หรือบัญชีที่มีความน่าสงสัยว่าจะไม่ใช่บัญชีบริษัทประกัน

3. ตรวจสอบความคุ้มครองกับบริษัทประกันโดยตรง

หลังจากที่ชำระเบี้ยประกันเรียบร้อยแล้ว ภายในวันรุ่งขึ้นแนะนำให้โทรสอบถามเช็คความคุ้มครองประกันกับบริษัทที่คุณได้ทำประกันเอาไว้ เพื่อให้เรามั่นใจว่าได้ความคุ้มครองครบถ้วนและถูกต้อง

4. หากพบความผิดปกติ สามารถร้องเรียนเรื่องได้ที่ คปภ.

หากผู้เอาประกันภัยไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าจะกรณีใดก็ตามจากตัวแทน นายหน้า หรือโบรกเกอร์ ผู้เอาประกันสามารถยื่นเรื่องเรียกร้องไปยัง คปภ. ได้ผ่านเว็บไซต์

Tips : ร้องเรียนกับ คปภ. ต้องทำยังไงบ้าง?

ในกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรม ตัวแทนหรือนายหน้า ไม่แจ้งงานประกัน ถ้าเรียกร้องไปยังบริษัทโบรคเกอร์ไม่ได้ ให้ร้องเรียนไปที่ คปภ. ได้ด้วยวิธีดังนี้

  1. ยื่นเรื่องด้วยตัวเองที่สำนักงาน คปภ. ในส่วนกลาง หรือสำนักงาน คปภ. ภาค/เขต/จังหวัดในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ
  2. ส่งหนังสือร้องเรียนผ่านไปรษณีย์มายังสำนักงาน คปภ.
  3. ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนด้านการประกันภัย (Insurance Complaint Center: ICC): ติดต่อเบอร์ 0-2515-3999 ต่อ 1015, 1016 หรือ 1017
  4. สายด่วน คปภ. 1186 เพื่อขอคำแนะนำและยื่นเรื่องร้องเรียน
  5. ร้องเรียนออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์์ของคปภ.

แนะนำว่าหากเพื่อนผู้อ่านอยากจะซื้อประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยประเภทต่าง ๆ การหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัทประกันที่สนใจ จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่า และหากไม่แน่ใจในตัวแทนขายหรือโบรกเกอร์ที่มานำเสนอ แนะนำว่าให้โทรตรวจสอบสถานภาพของตัวแทนหรือโบรกเกอร์รายนั้นจากบริษัทประกันภัย หรือตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของคปภ.เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่โดนหลอก

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

ผู้เอาประกัน ผู้ที่ทำประกันและได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือเสียชีวิต โดยจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกเอาไว้
มิจฉาชีพ บุคคลที่มีพฤติกรรมหรือการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ถูกต้อง โดยมีเจตนาที่จะหลอกลวงหรือเอาเปรียบผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
ประกันวินาศภัย ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินหรือการสูญเสียทางการเงินที่เกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ประกันรถยนต์ ประกันบ้าน เป็นต้น
previous article
< บทความก่อนหน้า

เวนคืนกรมธรรม์ประกันโรคร้ายแรง-ประกันมะเร็ง ได้เงินคืนเท่าไหร่?