
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่รู้สึกว่า “รถเร่งเอง” ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เหยียบคันเร่ง หรือเหยียบแล้วคันเร่งไม่ยอมคืนตัว นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังเผชิญอยู่กับรถที่มีอาการรถคันเร่งค้าง ความอันตรายที่ต้องรู้วิธีรับมือแม้คนใช้รถทั่วไปไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ คำถามคือเมื่อเกิดขึ้นขณะขับขี่บนถนนจริง คุณจะทำยังไง? รู้ใจจะพาคุณไปทำความเข้าใจ รู้สาเหตุว่า คันเร่งค้างเกิดจากอะไร พร้อมบอกต่อวิธีรับมืออย่างปลอดภัย จะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันเลย
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
รถคันเร่งค้างเกิดจากอะไร?
อาการรถคันเร่งค้าง คือ อาการที่คันเร่งของรถไม่ตอบสนองต่อการควบคุม เร่งเองทั้งที่ไม่ได้เหยียบคันเร่ง ปล่อยคันเร่งที่เท้าแล้วตัวรถยังพุ่งไปข้างหน้า เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- พรมเข้าไปติดที่คันเร่ง หรือเข้าไปขัดเบรคทำให้เบรคไม่ได้
- รองเท้าที่ใส่ขับรถ เช่นรองเท้าส้นสูง เข้าไปขัดคันเร่ง
- สิ่งของ เช่น ขวดน้ำ แก้วน้ำ เข้าไปขัดคันเร่งหรือเบรค
- เหยียบผิด โดยเหยียบคันเร่งแทนเบรค เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดขับหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ตกใจ
- ระบบคันเร่งไฟฟ้าอาจมีปัญหา เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร, ความชื้น, ความร้อน หรือสายไฟชำรุด ทำให้ระบบทำงานผิดปกติ
ขณะขับรถหากเกิดคันเร่งค้างควรทำยังไง?
สิ่งแรกที่ควรทำมากที่สุดเมื่อรถคันเร่งค้าง คือ “ตั้งสติ” และทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
- ตั้งสติให้มั่น อย่าตื่นตระหนก เพราะการตกใจอาจทำให้คุณทำสิ่งที่ผิดพลาด เช่น เหยียบเบรกแรง ๆ หรือเลี้ยวรถกะทันหัน ซึ่งอาจทำให้รถเสียการควบคุม
- เข้าเกียร์ว่าง โดยเฉพาะในรถเกียร์ออโต้ หากคันเร่งค้าง การเข้าเกียร์ว่าง (เกียร์ N) จะช่วยตัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อ ทำให้เบรกได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องดับเครื่องยนต์ในทันที
- เหยียบเบรกค้างไว้ (อย่างมั่นคง) ใช้แรงเหยียบเบรกอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง เพื่อพยายามหยุดรถ แม้รถจะเร่งเองก็ตาม “ห้ามถอนเบรกจนกว่ารถจะหยุด” หรือความเร็วลดลงจนควบคุมได้
- นำรถเข้าข้างทางอย่างปลอดภัย เมื่อสามารถชะลอได้แล้ว ค่อย ๆ เคลื่อนรถเข้าข้างทาง เปิดไฟฉุกเฉิน ดับเครื่องยนต์ และตรวจสอบสาเหตุ
สิ่งที่ควรทำหลังจากหยุดรถได้แล้ว
หลังจากรถคันเร่งค้างแล้วสามารถนำรถเข้าข้างทาง หรือหยุดได้เรียบร้อยแล้ว อย่าเพิ่งขับรถต่อ แต่ควรทำสิ่งต่อไปนี้ก่อน
- ตรวจสอบแป้นคันเร่งว่ามีสิ่งแปลกปลอม เช่น พรมปูพื้นรถยนต์ หรือของตกใด ๆ ขวางอยู่หรือไม่
- ทดลองคันเร่งขณะดับเครื่อง ว่าแป้นคันเร่งคืนตัวปกติหรือไม่
- โทรเรียกช่างหรือนำเข้าศูนย์ อย่าขับต่อจนกว่าจะมั่นใจว่าแก้ปัญหาได้แล้วจริง ๆ
- จดบันทึกอาการเพื่อแจ้งช่าง เช่น เกิดตอนเร่งหรือเบรก เกิดตอนเปลี่ยนเกียร์ ฯลฯ จะช่วยให้ช่างวินิจฉัยปัญหาได้ง่ายขึ้น
นอกจากจะมีวิธีป้องกันรถคันเร่งค้างที่เหมาะสมแล้ว การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองครอบคลุม ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีด้วยเช่นกัน ประกันรถยนต์ที่รู้ใจ มีประกันรถให้เลือกทั้งประกันชั้น 1 2 2+ 3 และ 3+ และยังสามารถปรับแต่งแผนได้ตามใจ เช็คราคาฟรี 24 ชม.
วิธีป้องกันไม่ให้รถคันเร่งค้าง?
คันเร่งค้าง แก้ยังไง? อาการคันเร่งค้างเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงขณะขับขี่ หากผู้ขับไม่สามารถควบคุมรถได้อย่างทันท่วงที มีแนวทางแก้ไขมีดังนี้
- เลือกใช้พรมปูพื้นรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน ควรมีขนาดพอดี ไม่เลื่อนหลุดง่าย และไม่ล้ำเข้าไปใต้แป้นคันเร่งหรือเบรก
- รองเท้าที่ใส่ขับรถก็มีผล โดยเฉพาะรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าหลวม ๆ ที่อาจไปเกี่ยวกับแป้นคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ
- ตรวจเช็คระบบคันเร่งสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรถที่ใช้มานาน หรือรถที่มีระบบคันเร่งไฟฟ้า ควรเข้าศูนย์ตรวจเช็ครถตามระยะทุก 6 เดือน
- หลีกเลี่ยงการวางของใต้เบาะ โดยเฉพาะของเล็ก ๆ เช่น ขวดน้ำ เหรียญ หรือของเล่นเด็ก ที่อาจไหลไปติดใต้คันเร่งโดยไม่รู้ตัว
ทริคเลือกรองเท้าขับรถ
รองเท้าขับรถอาจเป็นสาเหตุของคันเร่งค้างไม่รู้ตัว เช่น รองเท้าส้นสูงไปขัดคันเร่ง หรือเชือกของรองเท้าผ้าใบไปเกี่ยวคันเร่ง และอาจนำพาไปสู่ปัญหาที่ไม่คาดคิด โดยรองเท้าที่ใส่ขับรถควร
- พื้นรองเท้าควรบางและยืดหยุ่น เพื่อให้สัมผัสกับแป้นคันเร่งและเบรกได้ชัดเจน ควบคุมแรงเหยียบได้
- หลีกเลี่ยงรองเท้าหลวม ๆ หรือแบบสวมที่อาจหลุดหรือขยับขณะเหยียบคันเร่ง
- หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงหรือหนาเกินไป เพราะอาจทำให้เหยียบแป้นผิดพลาด หรือควบคุมแรงเหยียบได้ไม่ดี
- ไม่ควรขับรถด้วยรองเท้าแตะ โดยเฉพาะแบบไม่มีสายรัด เพราะอาจลื่นหรือหลุดง่าย ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนบาดเจ็บได้
- รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้ากีฬาแบบเรียบ ๆ เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะกระชับและควบคุมได้ดี แต่ควรผูกเชือกรองเท้าให้รัดกุม ลดโอกาสเสี่ยงเกี่ยวคันเร่ง
รถคันเร่งค้างเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าคุณจะใช้รถเก่าหรือใหม่ รถเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้ คันเร่งค้างก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการเข้าใจว่าคันเร่งค้างเกิดจากอะไร วิธีรับมือหากเจอจริง รวมถึงแนวทางป้องกันอย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งคุณ และผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันได้เป็นอย่างดี
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)
คำจำกัดความ
คืนตัว | กลับมาสู่ภาวะเดิม หรือสภาพเดิม |
ไฟฉุกเฉิน | ไฟฉุกเฉิน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ไฟผ่าหมาก” คือไฟกระพริบสีส้มทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถยนต์ ซึ่งจะทำงานพร้อมกันทั้งสองฝั่งเมื่อผู้ขับเปิดใช้งาน โดยมีหน้าที่หลักคือ แจ้งเตือนผู้ใช้ถนนคนอื่นให้ทราบว่ารถของเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ |