Roojai

รถคันเร่งค้างกลางทาง! เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือ

Article Roojai Verified
วิธีรับมือเมื่อรถคันเร่งค้างระหว่างขับ | รู้ใจประกันรถยนต์

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่รู้สึกว่า “รถเร่งเอง” ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เหยียบคันเร่ง หรือเหยียบแล้วคันเร่งไม่ยอมคืนตัว นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังเผชิญอยู่กับรถที่มีอาการรถคันเร่งค้าง ความอันตรายที่ต้องรู้วิธีรับมือแม้คนใช้รถทั่วไปไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ คำถามคือเมื่อเกิดขึ้นขณะขับขี่บนถนนจริง คุณจะทำยังไง? รู้ใจจะพาคุณไปทำความเข้าใจ รู้สาเหตุว่า คันเร่งค้างเกิดจากอะไร พร้อมบอกต่อวิธีรับมืออย่างปลอดภัย จะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันเลย

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

รถคันเร่งค้างเกิดจากอะไร?

อาการรถคันเร่งค้าง คือ อาการที่คันเร่งของรถไม่ตอบสนองต่อการควบคุม เร่งเองทั้งที่ไม่ได้เหยียบคันเร่ง ปล่อยคันเร่งที่เท้าแล้วตัวรถยังพุ่งไปข้างหน้า เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  1. พรมเข้าไปติดที่คันเร่ง หรือเข้าไปขัดเบรคทำให้เบรคไม่ได้
  2. รองเท้าที่ใส่ขับรถ เช่นรองเท้าส้นสูง เข้าไปขัดคันเร่ง
  3. สิ่งของ เช่น ขวดน้ำ แก้วน้ำ เข้าไปขัดคันเร่งหรือเบรค
  4. เหยียบผิด โดยเหยียบคันเร่งแทนเบรค เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดขับหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ตกใจ
  5. ระบบคันเร่งไฟฟ้าอาจมีปัญหา เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร, ความชื้น, ความร้อน หรือสายไฟชำรุด ทำให้ระบบทำงานผิดปกติ
เปิดสาเหตุ รถคันเร่งค้างเกิดจากอะไรได้บ้าง | รู้ใจประกันรถยนต์

ขณะขับรถหากเกิดคันเร่งค้างควรทำยังไง?

สิ่งแรกที่ควรทำมากที่สุดเมื่อรถคันเร่งค้าง คือ “ตั้งสติ” และทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

  1. ตั้งสติให้มั่น อย่าตื่นตระหนก เพราะการตกใจอาจทำให้คุณทำสิ่งที่ผิดพลาด เช่น เหยียบเบรกแรง ๆ หรือเลี้ยวรถกะทันหัน ซึ่งอาจทำให้รถเสียการควบคุม
  2. เข้าเกียร์ว่าง โดยเฉพาะในรถเกียร์ออโต้ หากคันเร่งค้าง การเข้าเกียร์ว่าง (เกียร์ N) จะช่วยตัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อ ทำให้เบรกได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องดับเครื่องยนต์ในทันที
  3. เหยียบเบรกค้างไว้ (อย่างมั่นคง) ใช้แรงเหยียบเบรกอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง เพื่อพยายามหยุดรถ แม้รถจะเร่งเองก็ตาม “ห้ามถอนเบรกจนกว่ารถจะหยุด” หรือความเร็วลดลงจนควบคุมได้
  4. นำรถเข้าข้างทางอย่างปลอดภัย เมื่อสามารถชะลอได้แล้ว ค่อย ๆ เคลื่อนรถเข้าข้างทาง เปิดไฟฉุกเฉิน ดับเครื่องยนต์ และตรวจสอบสาเหตุ
สิ่งที่ควรทำหลังจากหยุดรถได้แล้ว

หลังจากรถคันเร่งค้างแล้วสามารถนำรถเข้าข้างทาง หรือหยุดได้เรียบร้อยแล้ว อย่าเพิ่งขับรถต่อ แต่ควรทำสิ่งต่อไปนี้ก่อน

  • ตรวจสอบแป้นคันเร่งว่ามีสิ่งแปลกปลอม เช่น พรมปูพื้นรถยนต์ หรือของตกใด ๆ ขวางอยู่หรือไม่
  • ทดลองคันเร่งขณะดับเครื่อง ว่าแป้นคันเร่งคืนตัวปกติหรือไม่
  • โทรเรียกช่างหรือนำเข้าศูนย์ อย่าขับต่อจนกว่าจะมั่นใจว่าแก้ปัญหาได้แล้วจริง ๆ
  • จดบันทึกอาการเพื่อแจ้งช่าง เช่น เกิดตอนเร่งหรือเบรก เกิดตอนเปลี่ยนเกียร์ ฯลฯ จะช่วยให้ช่างวินิจฉัยปัญหาได้ง่ายขึ้น

นอกจากจะมีวิธีป้องกันรถคันเร่งค้างที่เหมาะสมแล้ว การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองครอบคลุม ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีด้วยเช่นกัน ประกันรถยนต์ที่รู้ใจ มีประกันรถให้เลือกทั้งประกันชั้น 1 2 2+ 3 และ 3+ และยังสามารถปรับแต่งแผนได้ตามใจ เช็คราคาฟรี 24 ชม.

วิธีป้องกันไม่ให้รถคันเร่งค้าง?

คันเร่งค้าง แก้ยังไง? อาการคันเร่งค้างเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงขณะขับขี่ หากผู้ขับไม่สามารถควบคุมรถได้อย่างทันท่วงที มีแนวทางแก้ไขมีดังนี้

  • เลือกใช้พรมปูพื้นรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน ควรมีขนาดพอดี ไม่เลื่อนหลุดง่าย และไม่ล้ำเข้าไปใต้แป้นคันเร่งหรือเบรก
  • รองเท้าที่ใส่ขับรถก็มีผล โดยเฉพาะรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าหลวม ๆ ที่อาจไปเกี่ยวกับแป้นคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ
  • ตรวจเช็คระบบคันเร่งสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรถที่ใช้มานาน หรือรถที่มีระบบคันเร่งไฟฟ้า ควรเข้าศูนย์ตรวจเช็ครถตามระยะทุก 6 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการวางของใต้เบาะ โดยเฉพาะของเล็ก ๆ เช่น ขวดน้ำ เหรียญ หรือของเล่นเด็ก ที่อาจไหลไปติดใต้คันเร่งโดยไม่รู้ตัว

ทริคเลือกรองเท้าขับรถ

รองเท้าขับรถอาจเป็นสาเหตุของคันเร่งค้างไม่รู้ตัว เช่น รองเท้าส้นสูงไปขัดคันเร่ง หรือเชือกของรองเท้าผ้าใบไปเกี่ยวคันเร่ง และอาจนำพาไปสู่ปัญหาที่ไม่คาดคิด โดยรองเท้าที่ใส่ขับรถควร

  • พื้นรองเท้าควรบางและยืดหยุ่น เพื่อให้สัมผัสกับแป้นคันเร่งและเบรกได้ชัดเจน ควบคุมแรงเหยียบได้
  • หลีกเลี่ยงรองเท้าหลวม ๆ หรือแบบสวมที่อาจหลุดหรือขยับขณะเหยียบคันเร่ง
  • หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงหรือหนาเกินไป เพราะอาจทำให้เหยียบแป้นผิดพลาด หรือควบคุมแรงเหยียบได้ไม่ดี
  • ไม่ควรขับรถด้วยรองเท้าแตะ โดยเฉพาะแบบไม่มีสายรัด เพราะอาจลื่นหรือหลุดง่าย ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนบาดเจ็บได้
  • รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้ากีฬาแบบเรียบ ๆ เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะกระชับและควบคุมได้ดี แต่ควรผูกเชือกรองเท้าให้รัดกุม ลดโอกาสเสี่ยงเกี่ยวคันเร่ง

รถคันเร่งค้างเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าคุณจะใช้รถเก่าหรือใหม่ รถเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้ คันเร่งค้างก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการเข้าใจว่าคันเร่งค้างเกิดจากอะไร วิธีรับมือหากเจอจริง รวมถึงแนวทางป้องกันอย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งคุณ และผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันได้เป็นอย่างดี

​​สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ​ประกันภัย​ต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือ​เพิ่มเพื่อนทาง LINE​ ได้เลย (Official LINE ID: @roojai) 

คำจำกัดความ

คืนตัวกลับมาสู่ภาวะเดิม หรือสภาพเดิม
ไฟฉุกเฉินไฟฉุกเฉิน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ไฟผ่าหมาก” คือไฟกระพริบสีส้มทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถยนต์ ซึ่งจะทำงานพร้อมกันทั้งสองฝั่งเมื่อผู้ขับเปิดใช้งาน โดยมีหน้าที่หลักคือ แจ้งเตือนผู้ใช้ถนนคนอื่นให้ทราบว่ารถของเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ
previous article
< บทความก่อนหน้า

ใบรับรองแพทย์ทำใบขับขี่ ขอที่ไหน อายุกี่วัน ราคา-ตรวจอะไรบ้าง?