Roojai

หน้าฝนนี้ดูให้ดี รถคุณมีอะไรต้องเปลี่ยนบ้าง

เป็นที่รู้กันดีแล้วว่าตอนนี้ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ช่วงฤดูฝนอย่างเต็มตัวแล้ว ฉะนั้นการเดินทางสัญจรไปไหนมาไหนก็ควรต้องเตรียมตัวเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะยานพาหนะอย่างรถยนต์ ก็ควรต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย และวันนี้ทีมงาน Roojai.com ก็มีเคล็ดไม่ลับมาบอกกล่าว เกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ของรถ ว่ามีจุดใดบ้างที่ควรตรวจเช็คให้มีความสมบูรณ์รองรับการใช้งานในฤดูฝน เพื่อให้คุณไม่ต้องประสบปัญหาอันน่าปวดหัวในระหว่างการเดินทาง

ยางปัดน้ำฝน นับเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ประจำรถที่ค่อนข้างมีความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน เพราะด้วยระหว่างการเดินทางซึ่งคุณต้องเผชิญกับสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา ย่อมส่งผลต่อทัศนะวิสัยในการมองของคุณอย่างแน่นอน ซึ่งหากที่ปัดน้ำฝนไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้ ด้วยสาเหตุจากอายุการใช้งานอันยาวนาน หรือมีเกิดชำรุดเสียหายก็ย่อมส่งผลต่อการกวาดน้ำออกจากแผ่นกระจก ฉะนั้นตรวจเช็คให้ดี ถ้ามีสภาพแข็งแห้งแตกกรอบ ก็ควรเปลี่ยนทันทีครับ

ยาง เป็นอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสกับพื้นผิวถนนต่อตลอดเวลา ผู้ขับจึงควรหมั่นตรวจเช็คยางว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการใช้งานหรือไม่ ซึ่งหลายครั้งเราก็เห็นบางคนดึงดื้อฝืนใช้ทั้งที่ถึงกำหนดต้องเปลี่ยน ทำให้โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนก็มีความเป็นไปได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนถนนย่อมมีความลื่นมากกกว่าปกติ และหากดอกยางสึกหรอ ก็ย่อมส่งผลต่อการยึดเกาะถนนและการเบรก

ไฟสัญญาณและไฟแสงสว่าง แน่นอนว่าอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ต้องรอว่าต้องเปลี่ยนหรือตรวจเช็คในฤดูฝน เพราะหากไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้หรือมีการชำรุดเสียหาย ก็ย่อมส่งผลต่อการใช้งานบนท้องถนนทั้งสิ้น แต่จะยิ่งอันตรายขึ้นหากเกิดในช่วงหน้าฝนโดยเฉพาะทัศนะวิสัยผลต่อการมองเห็น ยกตัวอย่าง ไฟเลี้ยวหากชำรุดหรือไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รถคันที่ตามหลังมาหรือฝั่งสวนทางมา ย่อมไม่รู้ว่าเราต้องการจะเลี้ยวเมื่อไหร่ ซึ่งก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ยางขอบกระจก โดยยางขอบกระจกนี้มีทั้งบานหน้า ด้านข้างและท้าย ซึ่งหลายคนอาจมองข้ามหรือไม่ใส่ใจเท่าไรนัก และส่วนใหญ่มักจะส่งผลกระทบต่อรถที่มีอายุอานามพอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดการชำรุดเสียหาย แห้งแตกกรอบ ไม่สามารถยึดแนบสนิทกับบานกระจกได้ และเมื่อต้องมาเจอกับสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา โอกาสที่น้ำจะรั่วซึมเข้ามาภายในรถก็เป็นไปได้สูง

รอยรั่วซึมใต้เครื่องยนต์ จุดบกพร่องเหล่านี้หลายคนไม่ทราบหรือสังเกต วิธีตรวจเช็คคือนำรถเข้าศูนย์บริการ อู่ซ่อม หรือดูร่องรอยของเหลวในบริเวณที่เราจอดประจำ ซึ่งจะมีคราบเลอะกับพื้นให้เราเห็นอย่างแน่นอน แล้วถามว่าสำคัญหรือมีผลอย่างไรกับฤดูฝน ขอบยกตัวอย่างในกรณีประเก็นเกียร์รั่วหรือประเก็นอ่างน้ำมันเครื่องรั่ว หากเราบังเอิญต้องขับผ่านไปในจุดที่มีน้ำท่วมขังหรือเจอกับน้ำรอการระบาย โอกาสที่น้ำเหล่านี้จะซึมผ่านเข้าไปในชุดเกียร์หรืออ่างน้ำมันเครื่องและส่งผลต่อเนื่องให้เครื่องยนต์เสียหายก็เป็นไปได้สูงครับ

สุดท้ายนี้ก็ขอย้ำหรือฝากเตือนไปถึงผู้ใช้รถ เพื่อให้ใช้รถได้อย่างคุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพ ก็ควรหมั่นตรวจเช็ครถและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเป็นประจำ หากพบว่ามีการชำรุดเสียหายก็ควรรีบแก้ไขซ่อมแซมทัน จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวเจ็บใจทีหลัง ว่ารู้แบบนี้ซ่อมซะตอนนั้นเสียดีกว่า เช่นเดียวกันกับการทำประกันภัยรถยนต์ หากพบว่าขาดหรือหมดอายุก็ควรรีบต่อทันที ที่สำคัญควรเลือกประกันที่น่าเชื่อถือ อย่าลืมให้ Roojai.com ดูแลคุณ ด้วยประกันแสนดีและคุ้มค่า

ไม่ว่าจะแดดเปรี้ยงหรือฝนเท ก็ขับรถสบายใจ ไรักังวัล ซื้อประกันรถชั้น 1 กับ Roojai.com