การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราทำการเก็บรวบรวมจากคุณจะขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคุณในขณะนั้น โดยประเภทของข้อมูลที่อาจถูกเก็บรวบรวมมีหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ เอกสาร รูปภาพ และวิดีโอ
โดยความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล กับข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมสามารถอธิบายได้ดังนี้:
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากผู้มุ่งหวังเข้ารับบริการ (“ผู้มุ่งหวัง”) อาจประกอบด้วย:
- ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- ข้อมูลเฉพาะบุคคล: ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วัน/เดือน/ปีเกิด, เพศ, สถานภาพสมรส
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, Line ID เป็นต้น
- ข้อมูลด้านธุรกรรมประกันภัย: ประวัติการซื้อประกันภัย, ประวัติการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เป็นต้น
- ข้อมูลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP, ที่อยู่ MAC, รหัสคุกกี้, หมายเลขประจำเครื่อง (Serial Number)
- ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
เชื้อชาติ, ศาสนา, ประวัติความพิการ, ประวัติสุขภาพ, ประวัติทางการแพทย์, ประวัติการบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ, ประวัติการใช้ยา
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากลูกค้าและบุคคลที่เกี่ยวข้องภายใต้สัญญาประกันภัย และ/หรือสัญญาการให้บริการอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงลูกค้าบริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ผู้เอาประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์ และ/หรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (“ลูกค้าและบุคคลที่เกี่ยวข้อง”) อาจประกอบด้วย:
- ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- ข้อมูลเฉพาะบุคคล: ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วัน/เดือน/ปีเกิด, เพศ, สถานภาพสมรส, หมายเลขบัตรประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, หมายเลขใบอนุญาตขับขี่, สัญชาติ, หมายเลขผู้เสียภาษี, หมายเลขคนต่างด้าว, หมายเลขใบอนุญาตทำงาน, ตำแหน่งงาน, หมายเลขข้าราชการ, ลายเซ็น, รูปถ่าย เป็นต้น
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่, ที่อยู่ที่ทำงาน, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, Line ID เป็นต้น
- ข้อมูลด้านการเงิน: หมายเลขบัญชีธนาคารและชื่อบัญชี, หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต, รายได้, ประวัติทางการเงิน, ข้อมูลเงินกู้, ข้อมูลการลงทุน, ข้อมูลการล้มละลาย, ข้อมูลการปฏิบัติตามภาษีต่างประเทศ เป็นต้น
- ข้อมูลธุรกรรมด้านประกันภัย: ประวัติการซื้อประกันภัย, ประวัติการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน, ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย, ประวัติการถูกปฏิเสธการรับประกันภัย, หมายเลขกรมธรรม์ เป็นต้น
- ข้อมูลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP, ที่อยู่ MAC, รหัสคุกกี้, หมายเลขประจำเครื่อง (Serial Number)
- ข้อมูลอื่น ๆ : เสียง, ภาพ, วิดีโอ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บรวบรวมและใช้เพื่อการพิจารณารับประกันภัย, การพิจารณาการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน, กิจกรรมด้านประกันภัยอื่น ๆ, ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล, ทะเบียนรถยนต์/จักรยานยนต์, หมายเลขตัวถัง, หมายเลขเครื่องยนต์, ตำแหน่งของทรัพย์สินที่เอาประกันภัย, โฉนดที่ดิน, สำเนาทะเบียนรถ, หมายเลขใบสมัคร เป็นต้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
เชื้อชาติ, ศาสนา, ประวัติความพิการ, ประวัติสุขภาพ, ประวัติทางการแพทย์, ประวัติการบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ, ประวัติการใช้ยา, สำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ, ความเห็นของพนักงานสอบสวน, ใบรับรองแพทย์, ผลการตรวจทางการแพทย์, ลายนิ้วมือ, ภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอของการบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ, ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลเกี่ยวกับการฟอกเงินหรือการสนับสนุนการก่อการร้ายและการแพร่กระจายอาวุธทำลายล้างสูง เป็นต้น
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากคู่ค้า ผู้ให้บริการ ตัวแทน นายหน้า พยานในสัญญาทุกประเภท (“คู่ค้า”) อาจประกอบด้วย:
- ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- ข้อมูลเฉพาะบุคคล: ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วัน/เดือน/ปีเกิด, เพศ, สถานภาพสมรส, หมายเลขบัตรประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, หมายเลขใบอนุญาตขับขี่, สัญชาติ, หมายเลขผู้เสียภาษี, หมายเลขใบอนุญาตทำงาน, ตำแหน่งงาน, ลายเซ็น, รูปถ่าย, ใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้า เป็นต้น
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่, ที่อยู่ที่ทำงาน, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, Line ID เป็นต้น
- ข้อมูลด้านการเงิน: หมายเลขบัญชีธนาคารและชื่อบัญชี, ประวัติทางการเงิน, ข้อมูลการล้มละลาย, คะแนนเครดิต เป็นต้น
- ข้อมูลอื่น ๆ : ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องประมวลผลเพื่อให้เป็นไปตามข้อผูกพันตามสัญญา เช่น ประวัติการขาย, ประวัติการฝึกอบรม เป็นต้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
ศาสนา, ประวัติอาชญากรรม, ประวัติการฟอกเงิน, ประวัติการสนับสนุนการก่อการร้ายและการแพร่กระจายอาวุธทำลายล้างสูง เป็นต้น
เราเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกรวบรวมและจัดเก็บไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมเมื่อ (ก) คุณเข้าสู่เว็บไซต์ของเรา (ข) คุณเปิดเผยต่อเรา (ค) บุคคลใด ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคุณหรือได้รับการแต่งตั้งโดยคุณ (ทั้งนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะคู่สมรส หรือสมาชิกในครอบครัวของคุณ บุคคลที่มีชื่อร่วมภายใต้กรมธรรม์เดียวกันกับคุณ และบุคคลอื่นใด ภายใต้วัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการกรอกใบคำขอเอาผลิตภัณฑ์ การเคลม และการจ่ายค่าชดเชย) เปิดเผยข้อมูลต่อเรา และ (ง) บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง (ทั้งนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ คู่ค้าของเรา, บริษัทประกันภัย,สถาบันการเงิน หน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กรมสรรพากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือแหล่งที่มาอื่นอันเชื่อถือได้ เช่น สมาคมประกันวินาศภัยไทย) เปิดเผยข้อมูลให้แก่เรา ในกรณีของ (ค) เมื่อข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เปิดเผยข้อมูล (“เจ้าของข้อมูล”) ได้ถูกเปิดเผยมายังเรา ให้เป็นความรับผิดชอบของผู้เปิดเผยข้อมูลแต่เพียงผู้เดียว ที่จะต้องขอความยินยอมและแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเขา รวมทั้งข้อกำหนดและเงื่อนไขของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
เหตุผลที่เราเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีการใช้ และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
ในฐานะลูกค้าและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เราจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
- เพื่อให้บริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทแก่คุณ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการตามสัญญาที่เกี่ยวข้อง (ฐานการปฏิบัติตามสัญญา) ดังนี้
- ก.) เพื่อใช้ในการติดต่อเกี่ยวกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัย
- ข.) เพื่อดำเนินการตามสิทธิหรือหน้าที่ภายใต้สัญญาประกันภัย เช่น การพิจารณารับประกันภัย การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เป็นต้น
- ค.) เพื่อให้บริการสำรวจความเสี่ยง การประเมินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การปรับค่าสินไหม และบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
- ง.) เพื่อดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ในกรณีที่มีความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก หรือการใช้สิทธิไล่เบี้ย
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย) เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และข้อกำหนดของหน่วยงานที่มีอำนาจ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และ/หรือ กฎหมายประกันวินาศภัยและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง กรมสรรพากร กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร คำสั่งของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและการแพร่กระจายอาวุธทำลายล้างสูง กฎหมายว่าด้วยการเงิน พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการล้มละลาย และกฎหมายหรือข้อบังคับอื่นใดที่ใช้บังคับกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงคำสั่งของศาล
- เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นอันเกิดจากฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท หรือของบุคคลธรรมดา หรือของนิติบุคคลอื่น โดยต้องอยู่ภายใต้ความคาดหมายที่สมเหตุสมผลของคุณ และไม่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของคุณ (ฐานประโยชน์อันชอบธรรม)
- ก.) พิจารณาและเสนอแนะผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เหมาะสมแก่ลูกค้าที่มีแนวโน้มจะใช้บริการ
- ข.) พิจารณาการรับประกันภัยเมื่อคุณยื่นใบคำขอเอาประกันภัยและเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงใบเสนอราคาและ/หรือข้อเสนอต่าง ๆ
- ค.) รักษาความสัมพันธ์กับคุณ เช่น การติดต่อ การจัดการข้อร้องเรียน การสำรวจความพึงพอใจ เป็นต้น
- ง.) แจ้งเตือนการต่ออายุกรมธรรม์ และ/หรือเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ หรือโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เดิมของคุณเพื่อประโยชน์ของตัวคุณ
- จ.) เสนอโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ โฆษณา และ/หรือการขายต่อเนื่องหรือการขายเพิ่มเติม (ที่เป็นไปตามกฎหมาย) และ/หรือการสำรวจเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ (เพื่อการตลาด)
- ฉ.) จัดทำสัญญาประกันภัยร่วม หรือสัญญาประกันภัยต่อ
- ช.) สำรวจและรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติหรือการวิจัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การคำนวณเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยง และการตรวจสอบการฉ้อโกง
- ซ.) ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการตรวจสอบและการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย
- ฌ.) เปิดเผยข้อมูลภายในกลุ่มบริษัท ตัวแทน ผู้รับจ้าง บริษัทประกันภัยต่อ หรือผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการด้านธุรการ โทรคมนาคม การชำระเงิน การประมวลผลข้อมูล หรือบริการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท
- ญ.) ป้องกัน ตอบสนอง และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ หรือการละเมิดกฎหมาย
- ฎ.) บันทึกการติดต่อ เสียง หรือภาพระหว่างการประชุม สัมมนา หรือกิจกรรมบูธ
- ฏ.) ให้บริการหรือสิทธิประโยชน์แก่ผู้รับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย
- ฐ.) เพื่อการบริหารจัดการเว็บไซต์และการดำเนินธุรกิจ
- ฑ.) ให้บริการตามที่คุณร้องขอ
- ฒ.) ดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
- เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นอันเกิดจากประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์สาธารณะที่มีสาระสำคัญ ได้แก่:
- ก.) จัดทำสถิติเพื่อคำนวณเบี้ยประกันภัยตามระดับความเสี่ยง และเพื่อการตรวจสอบหรือป้องกันการฉ้อโกงด้านประกันภัย
- ข.) ปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ภายใต้สัญญาประกันภัยบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอ่อนไหว เช่น กระบวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรืออุบัติเหตุ
- ค.) ให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่สมาคมประกันวินาศภัยไทย (TGIA), กองทุนประกันวินาศภัย (RVP) หรือหน่วยงานหรือสมาคมที่เกี่ยวข้อง
- ง.) ดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
ในฐานะที่คุณเป็นคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัท บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
- เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้ข้อตกลงหรือสัญญาระหว่างบริษัทกับคู่ค้าทางธุรกิจ
- เพื่อดำเนินธุรกรรมทางการเงินตามข้อตกลงระหว่างบริษัทกับคู่ค้าทางธุรกิจ
- เพื่อรับหรือให้คำปรึกษาหรือบริการตามที่บริษัทและคู่ค้าทางธุรกิจตกลงร่วมกัน
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (หน้าที่ตามกฎหมาย)
- เพื่อยืนยันตัวตนและอำนาจของคุณก่อนเข้าทำสัญญา
- เพื่อพัฒนาและปรับปรุงบริการตามที่คู่สัญญาตกลงกันไว้
- เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการตรวจสอบและการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย
- เพื่อดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย
- เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับคู่ค้า เช่น การติดต่อ การสำรวจความพึงพอใจ การมอบรางวัล เป็นต้น
- เพื่อให้บริการตามที่คุณร้องขอ
- เพื่อดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลของคุณ เราได้ดำเนินมาตรการดังต่อไปนี้: (ก) ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล (encryption) และการแปลงข้อมูล (tokenisation) เพื่อปกป้องข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น หมายเลขบัตรเครดิต ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น (ข) จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเฉพาะพนักงานของบริษัทที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว (ค) ป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยการอัปเดตเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอ (ง) ลบข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ระยะเวลาที่เราเก็บรักษาข้อมูล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตราบเท่าที่จำเป็นต่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูล เว้นแต่กฎหมายที่ใช้บังคับจะกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาไว้เป็นระยะเวลานานกว่านั้น โดยทั่วไป บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่สิ้นสุดสัญญา หรือวันที่มีการยกเลิกกรมธรรม์ เว้นแต่กฎหมายกำหนดให้ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลานานกว่านั้น เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย หรือแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (anonymisation) โดยใช้วิธีการที่ปลอดภัย
การเข้าถึงบุคคลภายนอก
เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญาที่มีต่อคุณ หรือข้อผูกพันตามกฎหมายที่มีต่อหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานของรัฐ บริษัทอาจเปิดเผย และ/หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่บุคคลภายนอกเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้เท่านั้น โดยบุคคลภายนอกดังกล่าวอาจประกอบด้วย:
- หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), กรมสรรพากร เป็นต้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
- สมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย เช่น สมาคมประกันวินาศภัยไทย, สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย
- คู่ค้าทางธุรกิจหรือบุคคลที่เป็นพันธมิตรของบริษัทในการให้บริการ เช่น นายหน้า ตัวแทน นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ผู้สำรวจความเสียหาย ผู้พิจารณาการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน อู่ซ่อมรถ ผู้บริหารจัดการบุคคลที่สาม (TPA), กองทุนประกันวินาศภัย (RVP), โรงพยาบาล ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้สอบบัญชี บริษัทประกันภัยต่อ และ/หรือบริษัทประกันภัยร่วม ไปรษณีย์ สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการทางการเงิน ผู้ให้บริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัย การดำเนินธุรกิจ หรือกระบวนการทางกฎหมายตามความจำเป็น
- บุคคลภายนอกที่ทำธุรกรรมกับบริษัทในนามของคุณ หรือกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรมกับบริษัท เช่น ผู้ถือกรมธรรม์ในกรมธรรม์กลุ่ม
- บุคคลภายนอกที่มีความสัมพันธ์กับคุณและเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขหรือสิทธิประโยชน์ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัย เช่น ผู้ให้บริการเช่าซื้อ ผู้ให้กู้ ผู้ให้เช่า/ผู้เช่า ผู้รับผลประโยชน์ ผู้เอาประกันภัยร่วม เป็นต้น
เพื่อการดำเนินธุรกิจนั้น ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราไม่ได้มีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจถูกเปิดเผยหรือเผยแพร่ต่อบริษัทในกลุ่มของเรา รวมถึงบุคคลภายนอก เช่น ผู้ตรวจสอบ ที่ปรึกษา ผู้ให้บริการสำรวจ/วิเคราะห์ข้อมูล และนักลงทุน
ทั้งนี้ เราจะไม่เปิดเผยและ/หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่บุคคลอื่นใด นอกเหนือจากกรณีที่ระบุไว้ในสองย่อหน้าข้างต้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากคุณ ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้: (ก) เป็นกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูล; (ข) เป็นกรณีที่จำเป็นเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินหรือเพื่อคุ้มครองบุคคลอื่นจากอันตราย; และ (ค) เป็นกรณีเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ในกรณีที่เราเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อบุคคลภายนอก เราจะแจ้งต่อบุคคลภายนอกเหล่านั้นถึงลักษณะอันเป็นความลับและหน้าที่ของพวกเขาในการจำกัดการใช้ข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาตตามความจำเป็นเท่านั้นและจัดการข้อมูลอย่างเหมาะสมตามนโยบายความเป็นส่วนตัวและพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
การโอนข้อมูลระหว่างประเทศ
เพื่อการให้บริการต่อคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดเก็บข้อมูลและเอกสารนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจถูกเก็บในต่างประเทศ ซึ่งมาตรฐานการปกป้องความเป็นส่วนตัวอาจมีมาตรฐานที่ต่างไปจากพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยหรือมาตรฐานของเรา อย่างไรก็ดีเราจะปฏิบัติตามมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกจัดเก็บอย่างเหมาะสมและปลอดภัย
สิทธิของคุณในฐานะเจ้าของข้อมูล
ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ คุณมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ดังต่อไปนี้:
สิทธิในการเพิกถอน
คุณมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมของคุณที่ให้ไว้กับเราในการเก็บรักษา ใช้ หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรืออนุญาตให้ผู้ให้บริการภายนอกของเราทำเช่นเดียวกันกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
สิทธิในการเข้าถึง
คุณมีสิทธิที่จะได้รับการยืนยันจากเราว่าได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้หรือไม่ และหากมี คุณมีสิทธิขอรับรองที่อยู่การจัดเก็บข้อมูลของคุณ วิธีการประมวลผล และวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล รวมถึงขอรับสำเนาข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
สิทธิในการคัดค้าน
คุณสามารถคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ทุกเมื่อ หากการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายที่ไม่เกินความคาดหมายโดยสมเหตุสมผลของคุณ หรือเป็นไปตามฐานอื่นที่กฎหมายกำหนด เราจะดำเนินการต่อเมื่อสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีฐานทางกฎหมายที่สำคัญกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของคุณ หรือเพื่อยืนยันสิทธิทางกฎหมาย ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี
สิทธิในการแก้ไข
ในกรณีที่คุณพบว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคุณนั้นไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ และไม่เป็นปัจจุบัน คุณมีสิทธิที่จะขอแก้ไขความดังกล่าวให้ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
สิทธิในการโอนข้อมูล
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกประมวลผลโดยอัตโนมัติ คุณมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น ๆ
สิทธิในการจำกัดการประมวลผลหรือล้างข้อมูล
คุณมีสิทธิที่จะขอให้เราระงับ หรือจำกัดการใช้งาน หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างถาวร
การเพิกถอนความยินยอมของคุณ การจำกัด การระงับ หรือการลบข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ อาจทำให้เราไม่สามารถให้บริการและ/หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อคุณได้อย่างเต็มที่ หากคุณประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว กรุณาติดต่อบริษัทผ่านช่องทางที่กำหนด
ติดต่อเราเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
คุณสามารถส่งคำถาม ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว หรือหากต้องการใช้สิทธิของคุณ กรุณากรอกแบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Request Form) ส่งมาที่:
ที่อยู่: บริษัท รู้ใจประกันภัย จำกัด (มหาชน) เลขที่ 44/1 อาคารรุ่งโรจน์ธนกุล ชั้น 12 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
อีเมล: DPO@roojai.com
โดยกระบวนการอาจใช้เวลาสูงสุดถึง 30 วันนับจากวันที่คุณส่งคำร้อง
คุณสามารถกดเพื่อดาวน์โหลดแบบคําขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
คุกกี้
คุกกี้คืออะไร
คุกกี้คือข้อมูลขนาดเล็กที่ส่งจากเว็บไซต์เพื่อที่จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณ ซึ่งคุกกี้ทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำอุปกรณ์ของคุณและรวบรวมข้อมูลเพื่อปรับปรุงเนื้อหาเว็บไซต์ให้เป็นไปตามความต้องการของคุณ เราใช้คุกกี้ผ่านผู้ให้บริการภายนอกเพื่อให้ประสบการณ์การใช้เว็บไซต์ของคุณดีขึ้น
เราใช้คุกกี้ประเภทไหนบ้าง
เราใช้งานคุกกี้ตามประเภท ดังนี้
คุกกี้ที่จำเป็น
บรรดาคุกกี้เหล่านี้ติดตามตัวตนของโปรไฟล์ Facebook ของคุณ และใช้ความมีตัวตนดังกล่าวเป็นข้อมูลอ้างอิงเมื่อคุณโพสต์บนเว็บไซต์ของเราเพื่อแลกรับ Roojai Rewards ภายหลังจากการซื้อของคุณ ซึ่งมีระยะเวลาในการเก็บหนึ่งปี (ต่อเนื่อง)
คุกกี้เพื่อการเก็บสถิติ
บรรดาคุกกี้เหล่านี้ติดตามพฤติกรรมการใช้งานของคุณ เพื่อที่จะได้ทราบถึงจำนวนครั้งการเข้าใช้งานฟังก์ชันต่างๆหรือการใช้งานอื่นของคุณบนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งมีระยะเวลาในการเก็บหนึ่งปีถึงสองปี (ต่อเนื่องกัน)
ในบางกรณีเราอาจใช้คุกกี้ทั้งสองประเภทโดยผ่านผู้ให้บริการภายนอก
การบริหารจัดการคุกกี้
คุณสามารถจัดการ ปิดกั้น และลบคุกกี้บนเบราว์เซอร์ของคุณ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ รวมถึงวิธีการจัดการโดยสามารถคลิกAllaboutcookies
การเชื่อมโยงภายนอก
เว็บไซต์นี้อาจเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นซึ่งเราไม่สามารถรับรองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณได้ ดังนั้นเราไม่รับประกันว่าเว็บไซต์อื่นจะจัดให้มีการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ได้มาตรฐานตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
เราขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบ "วันที่อัปเดตล่าสุด" ของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
นโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชั่น iSafeDrive
บริษัท รู้ใจ เซอร์วิส จำกัด (“เรา”) เคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของคุณ และมีความมุ่งมั่นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบายฯ”) ซึ่งนโยบายฯ นี้ระบุถึงประเภทของข้อมูลที่เราอาจเก็บรวบรวมจากคุณ หรือที่คุณอาจให้ไว้ผ่านแอปพลิเคชั่น iSafeDrive (“แอปพลิเคชั่น”) รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา คุ้มครอง และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
นโยบายฯ ยังกล่าวถึงสิทธิในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ รวมถึงช่องทางการเข้าถึงและแก้ไขข้อมูลดังกล่าว โดยการเข้าใช้งานและใช้บริการแอปพลิเคชั่นนี้ ถือว่าคุณได้อ่าน ทำความเข้าใจ และตกลงที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดของนโยบายฯ นี้
รายละเอียดนโยบายความเป็นส่วนตัว
- การทำความเข้าใจเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นของเรา
- วัตถุประสงค์
- ภาพรวมของแอปพลิเคชั่น
- การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- รูปแบบการใช้ข้อมูลของคุณ
- ระยะเวลาที่เราเก็บรักษา
- การเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลภายนอก
- การโอนข้อมูลระหว่างประเทศ
- สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
- การติดต่อเราเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
1. การทำความเข้าใจเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นของเรา
แอปพลิเคชั่นของเราเป็นเครื่องมือสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลการขับขี่ของผู้ถือกรมธรรม์ โดยใช้อุปกรณ์สมาร์ตโฟนของผู้ถือกรมธรรม์ในการบันทึกข้อมูล ซึ่งครอบคลุมถึงรายละเอียดการเดินทางและพฤติกรรมการขับขี่ ข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมประกอบด้วยพิกัดตำแหน่งผ่านระบบ GPS รวมถึงข้อมูลจากเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เช่น เครื่องวัดความเร่งและไจโรสโคป ซึ่งช่วยให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึก เช่น ความเร็ว ความเร่ง การเบรก และระยะทางที่เดินทาง
2. วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์หลักของแอปพลิเคชั่น คือเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการขับขี่ปลอดภัย โดยการมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้งานที่มีพฤติกรรมการขับขี่ปลอดภัย รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ให้แก่บริษัท รู้ใจ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) (“บริษัทประกันภัย”) ซึ่งจะช่วยให้บริษัทประกันภัยสามารถคำนวณเบี้ยประกันภัยได้อย่างเหมาะสมตามพฤติกรรมการขับขี่ (“วัตถุประสงค์ของแอปพลิเคชั่น”) โดยข้อมูลนี้จะถูกรวมเข้ากับข้อมูลลูกค้า เช่น ประเภทรถ อายุ และเพศ เพื่อสร้างชุดข้อมูลที่ครอบคลุมสำหรับการประเมินและกำหนดระดับความเสี่ยงของผู้ขับขี่อย่างเหมาะสม
3. ภาพรวมของแอปพลิเคชั่น
การดำเนินงานของระบบ
แอปพลิเคชั่น ทำงานโดยการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนของคุณเข้ากับบลูทูธของรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชั่นของเรา ด้วยการเชื่อมต่อนี้ ข้อมูลทางภูมิศาสตร์อาจถูกส่งต่อไปยังผู้ให้บริการภายนอกของเรา เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการเปรียบเทียบความเร็วกับการจำกัดความเร็วบนถนน เพื่อประเมินพฤติกรรมการขับขี่ของคุณ
การร้องขอสิทธิ์การเข้าถึงระบบ
เพื่อให้แอปพลิเคชั่นสามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ เราจำเป็นต้องขอสิทธิ์การเข้าถึงระบบจากผู้ใช้งาน ดังนี้:
- การเชื่อมต่อบลูทูธ: เพื่อให้แอปพลิเคชั่นสามารถสร้างและรักษาการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์มือถือของคุณกับระบบบลูทูธของรถยนต์ได้ ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานตามวัตถุประสงค์ของแอปพลิเคชั่น
- ตำแหน่งที่แม่นยำ: ในขณะที่คุณไม่ได้เปิดใช้งานแอปโดยตรง แอปพลิเคชั่นจะยังเก็บข้อมูลตำแหน่งโดยใช้พิกัดละติจูด/ลองจิจูด เพื่อให้มีการจัดเก็บข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแอปพลิเคชั่น
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อคุณมีเริ่มการใช้งานแอปพลิเคชั่นของเรา เราอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลบางประเภทจากคุณ หรือเกี่ยวกับคุณ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยประกอบด้วย:
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- รายละเอียดบัญชีผู้ใช้งาน: เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ฯลฯ
- ข้อมูลอุปกรณ์: รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือของคุณ เช่น รุ่น ระบบปฏิบัติการ รหัสประจำเครื่อง และข้อมูลเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ
- ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์: รายละเอียดตำแหน่งที่แม่นยำของรถยนต์และเวลา รวมถึงพฤติกรรมการขับขี่ เช่น ความเร็ว การเร่ง การเบรก และตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ข้อมูลการใช้งาน: รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชั่นของคุณ เช่น ฟีเจอร์ที่เข้าถึง การดำเนินการที่เกิดขึ้น และระยะเวลาการใช้งานในแต่ละช่วง
5. รูปแบบการใช้ข้อมูลของคุณ
เราให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการจัดการข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ โดยข้อมูลที่เก็บรวบรวมผ่านแอปพลิเคชั่นของเรา จะมีการนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
การวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่
ข้อมูลการขับขี่ที่เราเก็บรวบรวม เช่น เส้นทางการเดินทางและพฤติกรรมการขับขี่ จะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและช่วยให้เรามีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะการขับขี่ ซึ่งรวมถึงรูปแบบความเร็ว การเร่งเครื่อง การเบรก และการเข้าโค้ง
การประเมินเพื่อการรับประกันภัย
โดยความยินยอมของผู้เอาประกันภัย ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกส่งต่อให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงของผู้เอาประกันภัยอย่างถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งบริษัทประกันภัยอาจมีการพิจารณาปรับอัตราเบี้ยประกันภัยตามพฤติกรรมการขับขี่ของผู้เอาประกันภัย
การปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปพลิเคชั่น
เราใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวม เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการทำงานและประสิทธิภาพของแอปพลิเคชั่น โดยวิเคราะห์รูปแบบการใช้งานของตัวแอป เพื่อให้เราเห็นจุดที่ควรปรับปรุงและทำการแก้ไข เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น
การวิจัยและพัฒนา
เราอาจใช้ข้อมูลการขับขี่ที่ผ่านการรวบรวมและถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยและพัฒนา โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยให้บริษัทสามารถวิเคราะห์แนวโน้ม ปรับปรุงบริการ และพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สิทธิประโยชน์และรางวัล
เราใช้ข้อมูลที่เก็บมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแลกคะแนนโบนัสที่ได้จากพฤติกรรมการขับขี่อย่างปลอดภัยเป็นรางวัลจาก Roojai Rewards โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและจูงใจให้เกิดพฤติกรรมการขับขี่ที่ดีในผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่น
การปฏิบัติตามกฎหมาย
เราใช้ข้อมูลที่เก็บมาเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ เช่น การทำตามคำร้องขอทางกฎหมายหรือการสอบสวนจากหน่วยงานที่มีอำนาจ และการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายประกันภัย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายประกันภัย สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานคปภ.
6. ระยะเวลาที่เราเก็บรักษา
เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์สำหรับการเก็บและใช้ เว้นแต่เป็นข้อกำหนดหรือเป็นการอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ ซึ่งสำหรับกรณีส่วนใหญ่นั้นข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นเวลาสิบปีภายหลังวันที่สิ้นสุดกรมธรรม์ประกันภัยหรือมีการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยของคุณ
7. การเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลภายนอก
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการใช้งานแอปพลิเคชั่น ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจถูกเปิดเผย และ/หรือเผยแพร่ต่อบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ตามที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งบุคคลภายนอกอาจรวมถึงบริษัทประกันภัย คู่ค้าทางธุรกิจ สถาบันการเงิน หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) หน่วยงานราชการ เช่น กรมสรรพากร และผู้ให้บริการอื่น ๆ เช่น ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูล
เพื่อการดำเนินธุรกิจนั้น การใช้ข้อมูลภายใต้ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของเราไม่ได้มีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจถูกเปิดเผยหรือเผยแพร่ต่อบริษัทในกลุ่มของเรา รวมถึงบุคคลภายนอก เช่น ผู้ตรวจสอบ ที่ปรึกษา ผู้ให้บริการสำรวจ/วิเคราะห์ข้อมูล และนักลงทุนไม่ว่าในกรณีใดๆ
ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะไม่ถูกเปิดเผย และ/หรือเผยแพร่ต่อบุคคลอื่นโดยปราศจากความยินยอมของคุณ เว้นแต่กรณีตามสองวรรคก่อนหน้าและยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้ (ก) ตามเงื่อนไขของกฎหมายที่ใช้บังคับ (ข) ตามความจำเป็นเพื่อการป้องกันเหตุฉุกเฉินหรือเพื่อปกป้องผู้อื่นจากอันตราย และ (ค) เพื่อสาธารณประโยชน์
ในกรณีที่เราเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อบุคคลภายนอก เราจะแจ้งต่อบุคคลภายนอกเหล่านั้นถึงลักษณะอันเป็นความลับและหน้าที่ของพวกเขาในการจำกัดการใช้ข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาตตามความจำเป็นเท่านั้นและจัดการข้อมูลอย่างเหมาะสมตามนโยบายความเป็นส่วนตัวและพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA)
8. การโอนข้อมูลระหว่างประเทศ
ในการให้บริการแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดเก็บข้อมูลและเอกสารนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจถูกจัดเก็บไว้ในต่างประเทศ ซึ่งมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศปลายทางนั้นอาจแตกต่างจากพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) หรือมาตรฐานของเราอย่างไรก็ดีเราจะปฏิบัติตามมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกจัดเก็บอย่างเหมาะสมและปลอดภัย
9. สิทธิของคุณในฐานะเจ้าของข้อมูล
ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนั้น การใช้บริการแอปพลิเคชั่นของเรา คุณมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคุณที่เราได้รับมา ดังนี้:
สิทธิในการเพิกถอน
คุณมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมของคุณที่ให้ไว้กับเราในการเก็บรักษา ใช้ หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรืออนุญาตให้ผู้ให้บริการภายนอกของเราทำเช่นเดียวกันกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
สิทธิในการเข้าถึง
คุณมีสิทธิที่จะได้รับการยืนยันจากเราว่าได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้หรือไม่ ซึ่งหากเราได้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณดังกล่าว เราจะยืนยันให้คุณทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกจัดเก็บไว้ที่ใด และ/หรือนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด ทั้งนี้คุณมีสิทธิขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณดังกล่าวได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
สิทธิในการคัดค้าน
คุณมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าการใช้ข้อมูลนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเป็นไปตามฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายที่ไม่เกินความคาดหมายของคุณ หรือมีเหตุผลตามกฎหมายอื่น ๆ บริษัทอาจยังคงเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลของคุณได้ แต่ต้องมีเหตุผลทางกฎหมายที่ชัดเจน เช่น เพื่อปกป้องสิทธิทางกฎหมายของบริษัท เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อใช้ในการดำเนินคดี ทั้งนี้จะพิจารณาเป็นกรณีไปตามสถานการณ์
สิทธิในการแก้ไข
ในกรณีที่คุณพบว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคุณนั้นไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ และไม่เป็นปัจจุบัน คุณมีสิทธิที่จะขอแก้ไขความไม่ถูกต้อง ความไม่สมบูรณ์ และความไม่เป็นปัจจุบันของข้อมูลดังกล่าวได้
สิทธิในการส่งต่อข้อมูล
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับคุณกำลังถูกประมวลผลด้วยวิธีการอัตโนมัติ คุณมีสิทธิที่จะขอให้เราส่งต่อข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่น ๆ
สิทธิในการจำกัดการประมวลผลหรือล้างข้อมูล
คุณมีสิทธิที่จะขอให้เราระงับ หรือจำกัดการใช้งาน หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างถาวร
การเพิกถอนความยินยอมของคุณ การจำกัด การระงับ หรือการลบข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ อาจทำให้เราไม่สามารถให้บริการและ/หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อคุณได้อย่างเต็มที่
10. การลิงก์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก
แอปพลิเคชั่นนี้อาจมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ภายนอก ซึ่งเราไม่สามารถรับประกันมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ความปลอดภัย หรือความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ดังกล่าวได้ เราไม่สามารถรับประกันว่าเว็บไซต์เหล่านั้นจะมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับเดียวกันกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
11. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
เราขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบ "วันที่ปรับปรุงล่าสุด" ของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นระยะ
12. ติดต่อเราเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
หากคุณมีคำถาม ข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว หรือหากคุณต้องการใช้สิทธิของคุณตามกฎหมาย PDPA กรุณาส่งคำร้องหรือแบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิ (PDPA Data Subject Request Form) มาที่:
ที่อยู่: บริษัท รู้ใจ เซอร์วิส จำกัด อาคารรุ่งโรจน์ธนกุล ชั้น 12 ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
อีเมล: DPO@roojai.com
โดยกระบวนการอาจใช้เวลาสูงสุดถึง 30 วันนับจากวันที่คุณส่งคำร้อง
คุณสามารถกดเพื่อดาวน์โหลดแบบคําขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
*อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568