รถชนอย่าตกใจ Roojai มีวิธีช่วยให้ทำตามนี้

อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดอย่างรวดเร็ว และหากเป็นกรณีความเสียหายรุนแรง หรือมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ไม่ว่าใครก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา สติ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เรามาเรียนรู้วิธีการรับมือสถานการณ์แบบนี้กัน

แม้จะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ง่ายๆ สำหรับการมีสติในภาวะขับขันหรือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ก็คงต้องบอกและย้ำกันอีกครั้งว่าหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในขณะที่ขับรถ สิ่งที่ดีที่สุดและควรทำเป็นลำดับแรกคือการตั้ง “สติ”

เมื่อมีสติก็จะช่วยให้การตัดสินใจและทำสิ่งที่ควรทำในตอนนั้นได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ต้องทำหลังจากที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง Roojai จะแนะนำขั้นตอนปฏิบัติให้ทราบกันเพื่อให้ผู้ใช้รถสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นได้โดยสวัสดิภาพ

ทั้งนี้ขั้นตอนปฏิบัติที่จะแนะนำเป็นกรณีของอุบัติเหตุที่ผู้ขับไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ยังสามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น อย่างที่บอกไปตอนต้น “ตั้งสติ” จากนั้นให้ทำสิ่งต่างๆ ตามนี้

1. สำรวจสภาพโดยรอบ

สำรวจลักษณะของอุบัติเหตุและพิจารณาว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร พื้นที่ตรงนั้นเป็นทางตรง ทางร่วม ทางแยก เราและคู่กรณีขับมาอย่างไรจากทางไหนบ้าง

2. บันทึกหลักฐาน

ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แนะนำให้ถ่ายภาพขณะที่นั่งอยู่ในรถก่อน และจากนั้นลงไปบันทึกภาพภายนอกรถโดยรอบไว้เป็นหลักฐาน (แต่หากเป็นสุภาพสตรีอาจยังไม่ต้องลงจากรถโดยเฉพาะในทางเปลี่ยวหรือเวลากลางคืน)

3. นำรถเข้าไหล่ทาง

ถ้ารถสามารถขับได้ ให้นำรถหลบเข้าไหล่ทางในจุดที่ปลอดภัย เพื่อหลบเลี่ยงการจราจรให้กับผู้อื่นและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

4. เจรจากับคู่กรณี

อาจจะคุยกับคู่กรณีก่อนที่จะนำรถหลบเข้าไหล่ทาง การคุยในเบื้องต้นให้สอบถามถึงเรื่องของประกันภัยและแนะนำให้ต่างฝ่ายต่างโทรหาบริษัทที่ดูแลประกันภัยของตน (อย่าเพิ่งโทษกันนะว่าใครผิดใครถูก เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ)

5. ติดต่อ Roojai

คุณลูกค้าติดต่อ Roojai ได้เลยครับ จะโทรมาที่เบอร์ 02-080-9194 หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน Roojai Mobile App ก็ได้ สำหรับข้อมูลที่ต้องเตรียมในการแจ้งกับพนักงาน ได้แก่ ชื่อผู้แจ้ง หมายเลขกรมธรรม์ หมายเลขทะเบียนรถ ยี่ห้อหรือรุ่นรถยนต์ วัน เวลา โดยหากแจ้งเคลมผ่านแอปพลิเคชันระบบของ Roojai จะสามารถระบุสถานที่เกิดเหตุได้อย่างแม่นยำ สะดวกต่อเจ้าหน้าที่สำรวจภัยที่จะเดินทางมาถึงได้รวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่มีจุดสังเกต หรือผู้ขับขี่ไม่คุ้นชิน

6. แจ้งตำรวจ

หลังเกิดเหตุควรแจ้งตำรวจทุกครั้งแม้เป็นอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย หรืออีกฝ่ายยอมรับผิดก็ตาม เพื่อแสดงเจตนาว่าเราไม่ได้จงใจหลบหนีหรือไม่รับผิดชอบ การลงชื่อควรยืนยันทั้งสองฝ่าย มีเจ้าหน้าที่เป็นพยาน จะถือเป็นหลักฐานที่สำคัญได้

7. หาพยาน

เมื่อเกิดเหตุแล้ว มีบุคคลใกล้เคียง หรือรถที่น่าจะเห็นเหตุการณ์ ควรจะขอข้อมูลติดต่อไว้บ้างเผื่อต้องใช้เป็นพยานหรือหลักฐาน

ง่ายๆ เพียงเท่านี้เราก็จะผ่านพ้นจากอุบัติเหตุครั้งนั้นไปได้ ในการใช้รถใช้ถนนอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นอย่าร้อนใจจนทำให้เหตุการณ์บนท้องถนน ณ จุดเกิดเหตุต้องบานปลายไปกว่าที่ควรจะเป็นเหมือนที่เห็นกันในโซเชียลมีเดีย หากคุณมีประกันรถอยู่แล้วความเสียหายของรถยนต์ที่เกิดขึ้น Roojai จะดูแลให้เองด้วยอู่ซ่อมมาตรฐานในเครือกว่า 250 แห่งทั่วประเทศ จึงไม่ต้องกังวลหรือหัวเสีย หากรถจะเป็นรอย กระจกแตก รถยุบหรือเสียหายหนักก็ตาม เพราะนี่แหละคือเวลาที่ประกันรถยนต์สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้คุณได้

รวมถึงการขอรับบริการส่งรถซ่อมเสร็จแล้วถึงที่บ้านหรือที่ทำงานได้ด้วย  อุ่นใจขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องกังวลเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วนะ แต่อย่างไรก็ตาม Roojai ขอให้ผู้ขับขี่ทุกท่าน ใช้รถใช้ถนนกันอย่างระมัดระวัง ไม่ขับที่ความเร็วมากเกินไป ไปเร็วกว่านี้ก็ติดไฟแดงหน้าเหมือนกัน เอาเป็นว่าไปถึงจุดหมายปลอดภัยดีกว่านะ