Roojai

ทุนประกันรถยนต์ คิดยังไง? ทุนประกันสูงดีจริงมั้ย?

วิธีที่บริษัทประกันภัยคำนวณทุนประกันรถยนต์ | รู้ใจ

ใช้รถต้องเลือกซื้อประกันรถยนต์ เรื่องทุนประกันรถยนต์ คืออะไร ต้องรู้หน่อย เพราะมันมีผลต่อค่าเบี้ย แต่หลายคนอาจเข้าใจแค่ในแง่ของ “ความหมาย” พื้นฐาน แต่ในเชิงลึกเช่นเรื่องทุนประกันรถยนต์ คิดยังไง จะช่วยให้คุณได้รับ “ประโยชน์” ใด ๆ จากเรื่องนี้บ้าง  ถ้าอย่างนั้น เราไปดูวิธีคำนวณเบี้ยประกัน เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองอย่างคุ้มค่ากันเลยดีกว่า อะไรบ้างที่คุณต้องรู้เรื่องเช็คทุนประกันรถยนต์ รู้ใจ จะเล่าให้ฟัง

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

ทุนประกันรถยนต์ คืออะไร?

เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจกันก่อน ว่าทุนประกัน หมายถึงอะไร? ทุนประกันรถยนต์ คือค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายให้กับผู้เอาประกัน เมื่อรถยนต์คันที่เอาประกันได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นรถหาย ไฟไหม้ อุบัติเหตุ ฯลฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประเภทประกันรถยนต์ด้วย

แล้ว “ทุนประกันรถยนต์ ดูตรงไหน?” คำตอบคือ บริษัทประกันภัยจะคำนวณทุนประกันให้คุณตั้งแต่ก่อนซื้อกรมธรรม์ หากตกลงทำประกันตามทุนประกันที่บริษัทเสนอมา เราก็ถึงจะทำประกันรถกับบริษัทประกันภัยนั้น แต่หากใครทำประกันแล้วลืมว่าทุนประกันเท่าไหร่ เราสามารถเช็คทุนประกันรถยนต์ได้จากเล่มกรมธรรม์หรือใน e-Policy

ทุนประกันส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์มั้ย?

การคำนวณเบี้ยประกันรถยนต์ถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย โดยจะมีการการประเมินจากความเสี่ยง รวมถึงลักษณะการใช้รถใช้ถนน เช่น ใช้รถบ่อยแค่ไหน เส้นทางหลักที่เดินทางบ่อย ๆ เป็นยังไง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งทุนประกันด้วย ดังนั้นสรุปได้ว่า ยิ่งทุนประกันสูงเบี้ยประกันก็สูงตาม แต่ก็มีปัจจัยอื่น ๆ มาพิจารณาร่วมด้วยเช่นกัน

ทุนประกันรถยนต์ คืออะไร ทุนประกันสูงดีจริงหรือไม่ รู้ใจมีคำตอบ

ทุนประกันรถยนต์ คิดยังไง?

สำหรับการคำนวณทุนประกันรถยนต์ชั้น 1 รวมถึงประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ปกติจะคำนวณจาก 80% ของ “ราคากลาง” ของตลาดรถยนต์ ซึ่งรถยนต์แต่ละคันจะมีจำนวนวงเงินทุนประกันที่ต่างกันออกไป เนื่องจากเป็นการคำนวณจากยี่ห้อ และรุ่นรถยนต์ โดยมีตัวอย่างการคำนวณดังนี้

ตัวอย่างการคำนวณทุนประกันรถยนต์

กรณีที่คุณซื้อรถยนต์มือใหม่ป้ายแดงมาใหม่ และอยากรู้ว่าประกันชั้น 1 ทุนประกันเท่าไหร่ จากการคำนวณด้วยตัวเองคร่าว ๆ เรามีวิธีคำนวณมาบอกต่อ ดังนี้

  • รถยนต์ราคา 1,000,000 บาท
  • ทุนประกัน 80% คิดเป็น 1,000,000×80% = 800,000 บาท

หมายความว่าในปีที่ 1 รถยนต์คันนี้จะมีวงเงินทุนประกัน จำนวน 800,000 บาท หากมีการต่อประกันรถยนต์ในปีถัดไป จะ “คำนวณจาก 80% ของทุนประกันในปีแรก” ดังนี้

  • ทุนประกันรถยนต์ในปีแรก คือ 800,000 บาท
  • ทุนประกันรถยนต์ปีที่ 2 คิดเป็น 80% ของปีแรก คิดเป็น 800,000×80% = 640,000 บาท

คงพอจะดูออกคร่าว ๆ แล้วว่าทุนประกันรถยนต์ คิดยังไง แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าสูตรการคำนวณ รวมถึงจำนวนเปอร์เซ็นต์ของแต่ละบริษัทประกันภัย จะมีจำนวนที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ราคากลางในตลาด ณ ช่วงเวลานั้น ๆ แต่ส่วนใหญ่รถใหม่มักจะได้ทุนประกันอยู่ที่ 80-85% ของราคากลาง และลดลงปีละ 10% ไปเรื่อย ๆ

วิธีเช็คทุนประกันรถยนต์ | รู้ใจ

ทำไมทุนประกันรถยนต์ถึงลดลงทุกปี?

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญซึ่งก็คือประเด็น “ทุนประกันลดลงทุกปี” ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า “ทุนประกันเป็นตัวบอกราคารถยนต์ในแต่ละปีที่ทำประกัน” เช่น ทุนประกัน 1 ล้านบาท มูลค่าราคารถยนต์ในปีแรกจะประมาณ 1,250,000 บาท

นอกจากนั้นรถยนต์ยังมี “ค่าเสื่อม” ตามกาลเวลา และมีราคาลดลงจากปีที่ซื้อ พูดง่าย ๆ ว่ารถยนต์มีอายุการใช้งานที่มากขึ้น มูลค่าราคาในการซื้อ-ขายก็จะลดลงตามไปด้วย ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ “ทุนประกัน” ลดลงทุกปี หากเป็นรถรุ่นฮิต รุ่นที่มีความต้องการในตลาดสูง จะลดลงประมาณ 10% ตามราคาตลาด แต่บางรุ่นที่ราคาตกเยอะ ทุนประกันก็มีโอกาสที่จะลดลงมากกว่า 10% นั่นเอง

เลือกทุนประกันเท่าไหร่ ถึงตอบโจทย์ได้ดีที่สุด?

เลือกทุนประกันสูงหรือต่ำแบบไหนตอบโจทย์มากกว่า? แน่นอนว่า “ตัวเลข” ที่ระบุไว้ในส่วนของทุนประกัน ย่อมส่งผลต่อการได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการซ่อม

คงจะดีไม่ใช่น้อย หากมีใครสักคนคอยให้คำปรึกษากับคุณ ว่าควรเลือกทุนประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันชั้นอื่น ๆ ในราคาที่เท่าไหร่ดี เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุด “รู้ใจ” ยินดีเป็นคนคนนั้นให้คุณแล้ว ซึ่งมี 2 ประเด็นหลัก ๆ ที่คุณจำเป็นต้องรู้ ดังนี้

ทุนประกันส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์หรือไม่ รู้ใจมีคำตอบ

1. ทุนประกันสูง คุ้มครองสูง จ่ายแพง

อธิบายให้เข้าใจแบบง่าย ๆ คือ “วงเงินทุนประกันสูง จะทำให้รถยนต์ได้รับความคุ้มครองสูงตามไปด้วย และค่าเบี้ยประกันก็จะสูงด้วยเช่นกัน” ข้อดีคือมันจะครอบคลุมการซ่อม และการชดเชยในกรณีต่าง ๆ ที่ผู้เอาประกันแทบไม่ต้องควักจ่ายเพิ่มเลย

จึงเกิดคำถามตามมา ว่าทุนประกันสูง คุ้มครองสูง จ่ายแพงแบบนี้ เหมาะกับใครบ้าง? คำตอบคือเหมาะกับรถใหม่ป้ายแดง, ผู้ที่ต้องการให้รถยนต์ได้รับความคุ้มครองสูงที่สุด และผู้ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการขับรถ (เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง)

เบี้ยประกันแพง เพราะทุนประกันสูง มีวิธีลดค่าเบี้ยมั้ย?

ปัจจัยที่ทำให้ผู้ซื้อประกันตัดสินใจไม่เลือกซื้อประกันรถยนต์ที่มีทุนประกันสูง ๆ ก็คือ “ค่าเบี้ยประกันค่อนข้างแพง” เนื่องจากไม่รู้ว่าจริง ๆ สามารถขอรับส่วนลดจากบริษัทประกันรถยนต์ได้หลายทาง เช่น

  1. ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ – บางคนแทบไม่รู้เลยว่าการระบุชื่อผู้ขับขี่ ซึ่งตามปกติสามารถระบุได้ 2-5 คน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไชแต่ละบริษัท) จะช่วยลดค่าเบี้ยประกันได้
  2. ส่วนลดประเภทรถยนต์ – บริษัทประกันรถยนต์หลาย ๆ แห่ง มีการจัดอันดับ “ความปลอดภัย” ของรถยนต์ในแต่ละรุ่น ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การถูกโจรกรรม  หากรถยนต์ของคุณไม่เข้าข่ายรถยนต์ที่มีความเสี่ยง ก็อาจจะได้รับค่าเบี้ยประกันที่ถูกลง
  3. ส่วนลดประวัติดี – หากคุณมีประวัติการขับขี่ที่ดี จะทำให้ได้รับ “ส่วนลดประวัติการขับขี่ดี” โดยดูจากการเคลมในปีก่อน ๆ หน้าว่าเคลมบ่อยมั้ย การเคลมแต่ละครั้งเป็นฝ่ายถูกหรือผิด
  4. ส่วนลดโปรโมชั่นอื่น ๆ จากบริษัทประกันภัยรถยนต์ หรือโบรคเกอร์ – โบรคเกอร์ หรือบริษัทประกันภัยรถยนต์ มักเสนอโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษต่าง ๆ เพื่อมอบให้กับผู้เอาประกันเป็นกรณีพิเศษ

2. ทุนประกันต่ำ คุ้มครองน้อย จ่ายน้อย

ทุนประกันรูปแบบนี้ เหมาะสำหรับรถยนต์เก่าที่ใช้งานมานาน หรือไม่ได้ใช้งานบ่อย รวมถึงผู้ขับขี่มีความชำนาญ ต้องการลดค่าใช้จ่าย นอกจากจะคุ้มครองน้อยแล้ว อุบัติเหตุบางกรณีก็อาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองด้วย  แนะนำให้อ่านรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง รวมถึง “ข้อยกเว้น” ให้ดีก่อนตัดสินใจ

คนที่จะสามารถตอบคำถามได้ดีที่สุดในสมการนี้ เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “ผู้เอาประกัน” เอง แนะนำให้เช็คทุนประกันรถยนต์ ประกอบกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตัวเองให้ดี ไม่ว่าจะเป็นทุนประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้นไหน ๆ ก็ตาม เพื่อให้รถยนต์คู่ใจของคุณได้รับความคุ้มครองคุ้มค่า และตอบโจทย์มากที่สุด

ทั้งหมดนี้น่าจะช่วยให้คุณได้รู้จักเรื่องทุนประกันรถยนต์ คิดยังไง มากขึ้น รู้ว่าคำนวณมาจากส่วนใดบ้าง ทั้งการคำนวณอายุรถยนต์ การคำนวณราคากลางรถยนต์ ที่ส่งผลต่อ “ค่าเบี้ยประกัน” เสมอ ไม่ว่าจะเลือกทุนสูงหรือต่ำ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามแนะนำให้เลือกทุนประกันที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยอย่างคุ้มค่า ตอบโจทย์มากที่สุด

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)

คำจำกัดความ

ค่าสินไหมทดแทน การเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิด เพื่อให้ผู้เสียหายกลับสู่ฐานะเดิมเสมือนไม่มีการละเมิด หรือกลับคืนใกล้เคียงฐานะเดิมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ราคากลาง ราคาเพื่อใช้เป็นฐานสำหรับเปรียบเทียบราคาที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ยื่น เสนอไว้ซึ่งสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้จริง
e-Policy กรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Policy) คือ กรมธรรม์ประกันภัยที่ส่งกรมธรรม์ให้กับผู้เอาประกันผ่านอีเมล แทนการส่งด้วยกระดาษแบบเล่มเอกสารกรมธรรม์แบบกระดาษ