Roojai

5 สไตล์ของแต่งรถยอดฮิต “ดูไว้เป็นแนวทาง”

ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง รถยนต์จะดูสวยงามได้ก็ต้องผ่านการตกแต่งให้ดูดีมีสไตล์เช่นกัน แม้ปัจจุบันรถหลายรุ่นจะถูกตกแต่งมาเสร็จให้ดูสวยงามลงตัวมาจากโชว์รูมแล้วก็ตาม การแต่งรถให้ดูโดดเด่นและแตกต่างไปจากสภาพเดิมๆก็ยังคงได้รับความนิยมเช่นเดิม ซึ่งการแต่งรถนั้นมีอยู่หลายแบบหลายสไตล์ด้วยกัน วันนี้เราได้นำ 5 สไตล์การแต่งรถที่เป็นที่นิยมในบ้านเรามาให้ดูกัน..ใครชอบแบบไหน ดูไว้เป็นแนวทางได้เลย

JDM Style :  JDM ย่อมาจากคำว่า (JAPAN DOMESTIC MARKET) ซึ่งก็คือรถยนต์ที่มีจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง สรุปแล้วการแต่งไตล์ JDM คือการทำให้รถที่มีจำหน่ายอยู่ในบ้านแปลงร่างเป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นสไตล์การแต่งที่ได้ความนิยมในบ้านเราอย่างมาก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คนไทยชอบแต่งสไตล์นี้น่าจะมาจากพื้นฐานรถยนต์ในบ้านเรามีสเปคที่ใกล้เคียงกับญี่ปุ่น จะเปลี่ยนเล็กเปลี่ยนใหญ่ หรืออัพเกรดแบบยกชุด ในบ้านเราก็มีเชียงกงให้ค้นหาอะไหล่ญี่ปุ่นอยู่หลายแห่งด้วยกัน หรือไม่ก็สั่งตรงจากพี่ยุ่นกันไปเลย ความสนุกของการแต่งรถแนวนี้คือการได้ตามหาอะไหล่ต่างๆที่บางชิ้นจัดเป็นแรร์ไอเทม (Rare Item) ไปแล้ว ยิ่งหายากยิ่งมีค่าทั้งทางจิตใจและมีมูลค่าสูง ใครหาได้มาถือว่าเทพ ตรงนี้แหละคือไฮไลท์ที่ทำให้การตกแต่งรถสไตล์ยุ่นเป็นที่นิยมมาโดยตลอด เพราะไม่ใช่แค่มีเงินจะแต่งได้ แต่ต้องมีความพยายามในการไล่ล่าหาของกันอีกด้วย

นอกจากชิ้นส่วนอะไหล่สเปคโรงงานที่บ้านเกิดแล้ว การเพิ่มของเล่นจากสำนักแต่งยุ่นแท้ๆเข้าไปถือเป็นอีกสเต็ปที่นิยมทำกัน เพราะมีของซิ่งให้เล่นมากมายทั้งอัพเครื่อง เซ็ทช่วงล่าง ไปจนถึงบอดี้พาร์ท และอื่นๆอีกเพียบแค่จัดให้ตรงรุ่นตรงแบรนด์รับรองเจ๋งสุด ที่สำคัญการตกแต่งสไตล์ JDM นั้นไม่จำกัดยี่ห้อไม่จำกัดรุ่น ไม่จำเป็นรถสปอร์ต หรือซุปเปอร์ ขอให้ศึกษาและหาของให้ตรงรุ่นพอ ซึ่งในบ้านเราจะมีสาวก Honda ที่นิยมแต่งสไตล์นี้มากที่สุด โดยเฉพาะ Civic ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มีให้เห็นเพียบ

VIP Style : คือ การตกแต่งรถแนวเลิศหรูอลังการณ์ โหลดเตี้ยล้อโต..พร้อมประเคนออฟชั่นแบบเว่อร์วัง ซึ่งเป็นอีกสไตล์การตกแต่งที่ในบ้านเรานิยมมาก อันจะเห็นได้จากเหล่าสมาชิก VIP Club ที่แตกแขนงกันออกมาทั้งรถเล็กและรถใหญ่ คอนเซ็ปของการตกแต่งสไตล์นี้มีต้นตำหรับมาจากแดนปลาดิบ ซึ่งรถที่นำมาแต่งส่วนใหญ่จะเป็นรถขนาดใหญ่พวก Midsize Sedan เช่น Honda Accord, Toyota Camry หรือ Nissan Teana ไปจนถึงพวก Luxury Saloon อย่างพวก Lexus GS เป็นต้น ซึ่งในบ้านเราได้นำแนวการแต่ แบบ VIP มาทำกันในรถทุกขนาดไซด์แบบไม่จำกัด

รถที่แต่งแนว VIP ที่เน้นอย่างแรกคือสีตัวถังถ้าไม่เน้นสีที่เรียบหรูดูดีมีสไตล์ ก็ต้องสีเจ็บๆเงาๆเหมือบมุขเยอะ สียิ่งแปลกยิ่งโดน ภายในห้องโดยสารต้องหรูสมกับ VIP ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังหรือขนสัตว์ ประดับด้วยคริสตัล Swarovski สักหน่อย หรือจะเพิ่ม TV ตู้เย็น และออฟชั่นระดับไฮคลาสเข้าไปยิ่งดูเริ้ด..สำหรับการแต่งรถแนวนี้

สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ ล้อต้องใหญ่และแววับ จะเป็นล้อโครเมี่ยมหรือปัดเงาก็เลือกเอาตามสะดวก แต่ขนาดไซด์ต้องสัก 20-22 นิ้วกำลังสวย บวกกับตัวถังที่ต้องเตี้ยเลี่ยดิน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนช่วงเป็นแบบถุงลมเพื่อให้ปรับระดับความสูงได้ บวกกับชุดบอดี้พาร์ทชัดใหญ่สักชุด เวลาจอดกองอยู่กับพื้นยิ่งดูเท่มากๆสำหรับการแต่งรถสไตล์ VIP

Flush Style : เป็นการแต่งรถสไตล์ Flush จะเน้นที่การจัดวางล้อ หรือ Stant N’ Fitment ให้พอดีกับตัวถังโดยไม่ยื่นออกมานอกซุ้มล้อ ซึ่งแตกออกมาได้หลายแบบขึ้นอยู่กับขนาดและออฟเซ็ทของล้อแม็ก ขนาดยาง ความเตี้ยของตัวรถ ไปจนถึงมุมองศาของล้อที่ทำการ Fitment ที่แตกต่างกัน

การแต่งรถแนว Flush คือการใช้ล้อหน้ากว้างบวกกับยางหน้าแคบ หรือที่เรียกกันว่า “ล้อกว้าง ยางดึง” ซึ่งทำให้ขอบแม็กล้นออกมาเลยขอบยาง แล้วทำการโหลดให้ขอบยางด้านนอกลงมาเฉียดกับซุ้มล้อด้านใน โดยการปรับองศาล้อ หรือ มุมแคมเบอร์ช่วย

– Hella Flush จะเป็นการแต่งที่นิยมมากที่สุดในกลุ่ม Flush ซึ่งจะโหลดกับล้อหน้ากว้างมากๆรัดด้วยยางหน้าแคบ แล้วโหลดลงมาให้เตี้ยจนยางเบียดกับซุ้มล้อให้มากที่สุด โดยใช้การแบะล้อช่วยในกรณีที่ล้อยื่นออกมานอกรถ (ยิ่งเฉียด ยิ่งแบะ ยิ่งเท่)

– Hella Fail จะเป็นการโหลดคล้ายๆกับ Hella Flush แต่จะแบะล้อให้เอียงมากกว่า ไปจนถึงเอียงแบบสุดๆ บางงคันโหลดจนดูเหมือนจะแบนราบไปกับพื้นเลยทีเดียว แบบนี้จะนิยมทำกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

– Maxi Flush คือการใส่ล้อผิดออฟเซ็ทเข้ากับยางหน้ากว้างและทำให้ล้อยื่นออกมานอกตัวถัง ทำให้ไม่สามารถ Fitment ได้ ซึ่งการโลหดลักษณะนี้ที่จริงและไม่ถือว่าเป็นสไตล์ Flush แต่จะออกแนวรถแดร็ก หรือพวกแต่งแนว Retro มากกว่า

ส่วนพวกที่โหลดโดยใส่ล้อที่มีความสูงและออฟเซ็ทเท่าขนาดแสตนดาร์ด (Storck) และไม่มีการปรับองศาล้อแต่อย่างใดนั้น แบ่งออกเป็นการโหลดแบบ Dropped ซึ่งคือการโหลดด้วยสปริงค์โหลด แบบนี้ตัวรถจะเตี้ยลงมาเล็กน้อยประมาณ 1.5 – 2 นิ้ว

แบบโหลดด้วยโช็คอัพแบบสตรัท ซึ่งโหลดลงมาให้เตี้ยกว่าแบบแรกแต่ไม่มากนัก ซุ้มล้อจะปริ่มขอบยางเล็กน้อย แบบนี้เรียกว่า (Dropped) เช่นกัน แต่ถ้าปรับโหลดให้เตี้ยลงมาแบบสุดๆ จนซุ้มล้อลงมาระดับขอบแม็กโดยที่มุมล้อยังตั้งตรงอยู่ แบบนี้จะเรียกว่า (Slammed)

USDM Style : คือการแต่งรถ “สไตล์อเมริกา” (UNITED STATED DOMESTIC MARKET) ที่เน้นสีสันและความคลีนของตัวรถและห้องเครื่อง ซึ่งคอนเซ็ปการปรับแต่งก็จะคล้ายกับ JDM แต่เป็นการทำรถตามแบบรถสเปคอเมริกา โดยการแต่งรถสไตล์นี้ อะไหล่ที่เปลี่ยนแต่ละชิ้นต้องเป็นสเปคอเมริกา บวกความตัวรถที่โหลดเตี้ย และตัวถังที่เน้นความเรียบหรูดูสะอาดตา ไปจนถึงเครื่องยนต์ที่ต้องเก็บงานได้อย่างเรียบร้อยและลงตัวไม่รกตา เพียงเท่านี้คุณสามารถแปลงกายรถคุณให้ดูดีมีสไตล์ได้ไม่ยากเย็น จึงเป็นสไตล์แต่งรถที่นิยมอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน

Street Weapon :  ถือเป็นสไตล์การแต่งรถที่เพิ่งได้รับความนิยมในบ้านเราและต่างแดนได้ไม่นาน แต่กระแสเปรี้ยงปร้างไม่แพ้การแต่งรถแนวอื่น การแต่งรถสไตล์นี้จะเน้นไปที่บอดี้พาร์ทสไตล์รถสนาม โดยเฉพาะหางหลัง (Rear Wing) ขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งแบบแต่งสวยดุเพื่อใช้งานปกติ (Street Use Weapon) อันนี้ขอแค่ชุดพาร์ทโหดๆกับแม็กและยางซอฟท์อวบๆเท่านี้ก็หล่อแล้ว กับสายแรงที่ชอบวัดกันด้วยความแรงเท่านั้นไม่พอ ต้องขอแต่งเต็มไว้เผื่อโดดลงสนามในวันว่าง อันนี้เครื่องต้องสุด ช่วงล่างต้องหนึบ ตัวถังล้อและยางต้องรีดน้ำหนักให้เบาสไตล์ตัวแข่งถึงจะเรียกว่า Street weapon ตัวจริง

ที่มารูปภาพ : www.sntrl.com, radracerblog, automobilio.info

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรถ 5 สไตล์นี้แบบไหนตอบโจทย์คุณลองค่อยขยับดูจากน้อยไปมากตามงบเลยนะครับ ที่สำคัญเมื่อรถสวยแล้วอย่าลืมให้ ”รู้ใจ” ช่วยดูแลรถที่คุณรัก ด้วยประกันรถแสนดี (หากสงสัยว่าชุดแต่งรถเสียหาย ประกันจ่ายหรือเปล่า สามารถคลิกอ่านได้ที่นี่)