6 สิ่งใกล้ตัวที่ทำให้สีรถเสียสภาพและวิธีแก้ไข

เพราะรถจะดูเก่าลงหรือยังดูใหม่ไม่เปลี่ยน “สีรถบอกได้” ดังนั้น การดูแลสภาพสีรถจึงสำคัญ และนี่คือ 6 สิ่งใกล้ตัวที่อาจทำให้สีรถเสียสภาพได้ บางอย่างหลายคนอาจคาดไม่ถึง โดยมาพร้อมวิธีการแก้ไขและหลีกเลี่ยง

1. ยางไม้ จากต้นไม้

ยางไม้จากต้นไม้ เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้สีรถเสื่อมสภาพได้ จึงไม่ควรให้มียางไม้เกาะติดบนรถยนต์ของคุณเด็ดขาด

ทำความเสียหาย : ยางไม้จะเกาะติดแน่นบนรถ เอาออกยาก และกินสีรถทำให้สีซีดจางลงอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่คุณควรทำ : เช็ดขจัดคราบยางไม้ออกด้วยสารกำจัดน้ำมันดิน จากนั้นล้างรถให้สะอาด และลงแว็กซ์เป็นลำดับต่อไป
ข้อแนะนำ : ควรเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดคราบยางไม้นั่นเอง

2. ฟองน้ำ

ฟองน้ำล้างรถ หากมีสิ่งสกปรกติดอยู่โดยที่เราไม่รู้ เมื่อนำมาใช้ก็จะทำให้สีรถเสียสภาพได้เหมือนกัน ดังนั้นการล้างรถจึงควรสังเกตฟองน้ำและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ให้ดีก่อนเสมอ

ทำความเสียหาย : อาจมีสิ่งสกปรกติดอยู่ เช่น หินกรวดเล็กๆ เมื่อนำมาถูรถยนต์ จึงทำให้เกิดรอยขีดข่วนและสีรถถลอกได้
สิ่งที่คุณควรทำ : เลือกใช้ฟองน้ำล้างรถที่มีความสะอาด ตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีหินหรือทรายติดอยู่
ข้อแนะนำ : ตรวจสอบฟองน้ำที่จะนำมาใช้ล้างรถให้ดีก่อน หรืออาจนำรถยนต์ไปล้างกับสถานที่รับล้างรถโดยตรง

3. น้ำจากสปริงเกิ้ล

น้ำจากสปริงเกิ้ลมีแร่ธาตุบางอย่างที่อาจสร้างร่องรอยให้กับสีรถได้ บางครั้งยากที่จะกำจัด

ทำความเสียหาย : ในน้ำมีแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมกับแมกนีเซียม เรียกว่า Hard Water ที่จะแข็งตัวบนพื้นผิวต่างๆ ซึ่งจะทำให้สีรถเกิดคราบเป็นจุดด่างๆ ได้
สิ่งที่คุณควรทำ : ห้ามจอดรถใกล้กับสปริงเกิ้ล หากรถยนต์โดนน้ำจากสปริงเกิ้ล ก็ให้ล้างรถด้วยน้ำสะอาดทันที
ข้อแนะนำ : หลีกเลี่ยงไม่ให้รถยนต์สัมผัสกับน้ำที่มาจากสปริงเกิ้ล

4. ขี้นก

ขี้นก ไม่เพียงแต่จะทำให้รถสกปรกเท่านั้น แต่ยังทำให้สีรถเสียสภาพลงอีกด้วย

ทำความเสียหาย : ขี้นก มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งจะกัดสีรถให้เป็นจุดเป็นด่าง และทำลายความเงางามของรถได้
สิ่งที่คุณควรทำ : รีบล้างรถให้สะอาดทันที เมื่อมีขี้นกมาติดอยู่บนรถยนต์ของคุณ หากปล่อยไว้นาน จะขัดออกลำบาก
ข้อแนะนำ : เลี่ยงการจอดรถบริเวณที่มีนกอยู่เยอะ หรือตามใต้ต้นไม้หากต้องจอดเป็นเวลานาน และควรคลุมด้วยผ้าคลุมรถทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน

5. คราบแมลง

แมลง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวร้ายของสีรถเลยทีเดียว แถมติดแน่นและกำจัดยากอีกด้วย

ทำความเสียหาย : เกาะติดแน่นกับสีรถ ทำให้สีรถซีดจาง และหลุดลอกออกได้
สิ่งที่คุณควรทำ : ทาตรงที่เป็นคราบแมลงด้วยครีมกำจัดคราบเอนกประสงค์ และเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
ข้อแนะนำ : ระวังอย่าจอดรถบริเวณที่มีแมลงเยอะและหากมีแมลงมาชนรถจนเป็นคราบ ให้รีบเช็ดทำความสะอาดทันที

6. คราบน้ำมัน

น้ำมันเชื้อเพลิงรถ ก็เป็นตัวการร้ายที่ทำให้สีรถเสื่อมสภาพได้เหมือนกัน จึงควรระมัดระวังให้ดี

ทำความเสียหาย : น้ำมันที่หกโดนรถ จะฝังแน่นกับสีรถแบบถาวร และทำให้สีรถค่อยๆ เสื่อมสภาพไป
สิ่งที่คุณควรทำ : เช็ดออกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ แล้วค่อยๆ ลูบทำความสะอาดตรงที่น้ำมันหกใส่ทันทีที่พบเห็น
ข้อแนะนำ : เมื่อไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม คอยสังเกตว่ามีน้ำมันหกโดนรถหรือไม่ ถ้ามีให้รีบเช็ดทันที

นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้สีรถของคุณเสียหาย เสื่อมสภาพไปจากเดิมนั่นเอง ควรระวังและหลีกเลี่ยงเมื่อทำได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางการดูแลรถเพื่อคนรักรถอย่างแท้จริง และเพื่อยกระดับการดูแลรถยนต์ เลือกประกันรถยนต์จาก Roojai.com