Roojai

5 กฎจราจรที่คุณอาจทำผิดอยู่โดยไม่รู้ตัว

บนพื้นฐานของทุกสังคม ล้วนมีกฎมีระเบียบให้เราได้ยึดถือปฏิบัติ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยไม่สร้างความเดือดร้อนหรือเบียดเบียนซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับสังคมบนท้องถนน ต่างก็ถูกกำหนดให้มี

ถึงประเทศไทยมีตัวบทกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าความเป็นจริง สิ่งที่เราพบเห็นเป็นประจำบนท้องถนน คือมีหลายคนมองข้ามและไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรบ่อยครั้ง ทำกันจนเป็นความเคยชิน ทั้งที่เกิดจากความตั้งใจหรือความไม่ใส่ใจก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วก็มีเหตุการณ์บานปลายเกิดขึ้นทั้งอุบัติเหตุและการทะเลาะวิวาท เป็นข่าวแทบไม่เว้นวัน วันนี้เลยขอยกตัวอย่าง 5 กฎจราจรที่หลายคนมักทำผิดหรือฝ่าฝืนกันเป็นประจำ

1. ขับผ่านทางม้าลายโดยไม่จอดหรือชะลอขณะมีคนรอข้าม จากที่เคยมีข่าวสาวถูกรถบรรทุกชนเสียชีวิตคาที่ ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายหน้าตึกแกรมมี่ ย่านอโศกกันได้ หลายคนอาจไม่ทราบว่าเลยว่า ตามกฎหมายระบุไว้ชัด คนเดินเท้าที่กำลังเดินข้ามถนนในทางม้าลายมีสิทธิไปก่อนรถ เพราะตามกฎหมายต้องหยุดให้คนข้ามถนนในทางข้ามทาง แต่จะต้องระวังให้โอกาสแก่รถที่ชะลอความเร็วและหยุดไม่ทัน ก่อนที่จะก้าวลงไป มีการกำหนดโทษไว้ตามมาตรา 152 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

2. ขับช้าบนช่องทางด้านขวา กรณีนี้เรียกว่าสร้างความหงุดหงิดให้ผู้ใช้รถใช้ถนนอยู่เป็นประจำ บางคนขับช้าแบบไม่สนหน้าอินหน้าพรหมเสมือนเป็นถนนของข้าคนเดียว คันหลังขับจี้ก้น กระพริบไฟเตือนก็ยังไม่หลบ นอกจากบังคับให้รถที่เร็วกว่าต้องแซงซ้ายแล้ว ก็ยังทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดเป็นทางยาวอีกด้วย ซึ่งหลายคนมักคิดว่า ขับแช่ขวาไม่เป็นไร เพราะคิดว่าใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด (บนทางหลวง รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน  90 กม./ชม. ส่วนในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล สำหรับรถบรรทุกที่มีน้ำหนักรถรวมทั้งน้ำหนักบรรทุกเกิน 1,200 กก. หรือรถบรรทุกคนโดยสาร ให้ขับในเขต ไม่เกิน  60 กม./ชม. หรือนอกเขตดังกล่าวให้ขับไม่เกิน 80 กม./ชม.) นับเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ตามกฎหมายจราจร ผู้ขับในลักษณะนี้มีความผิด 2 กระทง คือ มาตรา 34 บัญญัติไว้ว่าถนนที่มีการแบ่งเส้นจราจรมากกว่า 2 เลนขึ้นไป ผู้ขับขี่ต้องขับชิดขอบทางด้านซ้าย หากไม่ปฏิบัติตามอาจโดนโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และอีกข้อ คือ การขับรถกีดขวางทางจราจร มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท

3. เปิดไฟตัดหมอกผิดที่ผิดเวลา เรียกว่าพบกันเห็นบ่อยๆ รถบางคันเปิดแบบไม่รู้ตัวโดยเฉพาะมือใหม่ หรือบางคนก็ไม่ทราบว่าสวิทช์ไฟตัดหมอกสามารถเปิด-ปิดได้ ไฟชนิดนี้มีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งด้านหลังส่วนใหญ่เป็นสีแดง มีความเข้มข้นของแสงมากกว่าไฟทั่วไป สามารถแยงตาให้รถที่ขับตามหลังมาได้เป็นระยะไกล ยิ่งเมื่อขับเข้าใกล้ก็ยิ่งทวีความจ้ามากขึ้น ซึ่งตามกฎหมายอนุญาตเปิดได้ในกรณีที่มีหมอกหนาเท่านั้น หรือกรณีทัศนวิสัยไม่ดี หากเปิดพร่ำเพรื่อ มีความผิดปรับไม่เกิน 500 บาท

4. จอดในที่ห้ามจอด เรียกว่าเป็นอีกปัญหาที่พบเห็นกันมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความมักง่าย เห็นคนอื่นทำได้ก็ทำบ้าง เช่น จอดซื้อของ จอดแวะรับคน หรือจอดนำสัมภาระหรือนำสิ่งของรถ โดยเฉพาะบริเวณตลาด เขตชุมชน หรือซอยทางลัดที่ทางแคบเป็นเลนสวน ป้ายเตือนก็มี แถมที่ฟุตบาทก็มีสีขาว-แดงเตือน ก็เห็นจอดกันแบบไม่เกรงกลัว

5. เบียดแซงเส้นทึบเพื่อขึ้นสะพาน เป็นอีกหนึ่งกรณีที่พบเห็นบ่อย ทั้งที่ขับรถหลายคนอดทนต่อแถวกันมายาวเหยียด แต่พวกเห็นแก่ตัวก็มาเบียดปาดตรงเส้นทึบแซงขึ้นสะพานไปแบบหน้าตาเฉย แถมบางทีผู้ที่ขับต่อแถวอยู่ในช่องเลนถูกต้องไม่ยอมให้เข้า คนพวกนี้ยังแสดงทีท่าความไม่พอใจ เปิดกระจกด่าทอว่าไร้น้ำใจ ทั้งที่ตัวเองคือผู้กระทำผิดแท้ๆ

ลองถามตัวเองว่าเคยทำผิดหรือยังทำผิดกฎจราจรเหล่านี้หรือไม่ เรื่องแบบนี้เตือนหรือบังคับกันไม่ได้ เพราะขนาดมีกฎมีระเบียบก็ยังฝ่าฝืนกัน ซึ่งคงได้แต่คาดหวังว่าจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมจะบังเกิดขึ้นกับทุกคน ที่สำคัญตอนนี้ทางตำรวจจราจรได้ติดกล้องเพื่อบันทึกภาพผู้กระทำผิดมากขึ้น การทำผิดกฎจราจรก็อาจมีความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น