Roojai

สัญลักษณ์บนท้องถนนที่บางทีคุณอาจไม่รู้จัก

นอกจากความไม่ประมาทแล้ว ที่จะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ การปฏิบัติตามกฎจราจรก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ผู้ขับขี่หลาย ๆ คนรู้จักกฎจราจรเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น โดยเฉพาะป้ายจราจร ส่วนใหญ่จะรู้กันตอนไปเรียนขับรถเพื่อไปสอบใบขับขี่ หลังจากนั้นก็ลืมเลือนกันไป นาน ๆ เจอทีทำให้เกิดความสับสน ตัดสินใจผิดทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เครื่องหมายจราจรเป็นป้ายทางการควบคุมการจราจร แบ่งออกเป็นสามประเภท

ป้ายบังคับ มักจะมีพื้นสีขาว ขอบสีแดง เป็นป้ายกำหนด ต้องทำตาม เช่น ห้ามเลี้ยวขวา
ป้ายเตือน มักจะมีพื้นสีขาว ขอบสีดำ จะเป็นป้ายแจ้งเตือนว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า
ป้ายแนะนำ เป็นป้ายที่แนะนำการเดินทางต่างๆ อาทิ ทางลัด ป้ายบอกระยะทาง เป็นต้น

เรามาทำความรู้จักป้ายจราจรที่เจอกันไม่บ่อย แต่ถ้าเจอแล้วต้องรู้จักและเข้าใจกัน

ป้ายห้ามเลี้ยวขวาหรือกลับรถ

1. ป้ายห้ามเลี้ยวขวาหรือกลับรถ หมายถึงห้ามมิให้เลี้ยวรถไปทางขวา หรือห้ามกลับ

ป้ายห้ามเลี้ยวซ้ายหรือกลับรถ

2. ป้ายห้ามเลี้ยวซ้ายหรือกลับรถ หมายถึงห้ามมิให้เลี้ยวรถไปทางซ้าย หรือห้ามกลับรถ

ป้ายห้ามใช้เสียง

3. ป้ายห้ามใช้เสียง หมายถึงห้ามให้ใช้เสียงสัญญาณ หรือทำให้เกิดเสียง ที่ก่อการรบกวนด้วยประการใด ๆ ในเขตที่ติดตั้งป้าย

ป้ายห้ามจอดรถ

4. ป้ายห้ามจอดรถ หมายถึงห้ามให้จอดรถทุกชนิดระหว่างแนวนั้น เว้นแต่การหยุดรับส่งคนหรือสิ่งของชั่วขณะ ซึ่งต้องกระทำโดยมิชักช้า

ป้ายห้ามหยุดรถ

5. ป้ายห้ามหยุดรถ หมายถึงห้ามให้หยุดหรือจอดรถทุกชนิดตรงแนวนั้นเป็นอันขาด

ป้ายสุดเขตบังคับ

6. สุดเขตบังคับ หมายถึงพ้นสุดระยะที่บังคับตามความหมายของป้ายบังคับที่ติดตั้งไว้ก่อน

ป้ายให้ไปทางซ้ายหรือทางขวา

7. ให้ไปทางซ้ายหรือทางขวา หมายถึงให้ขับรถผ่านไปทางด้านซ้ายหรือทางด้านขวาของป้าย

ป้ายทางคดเคี้ยวเริ่มซ้าย

8. ทางคดเคี้ยวเริ่มซ้าย หมายถึงทางข้างหน้าเป็นทางคดเคี้ยวโดยเริ่มไปทางซ้าย ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควรและเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง

ป้ายทางคดเคี้ยวเริ่มขวา

9. ทางคดเคี้ยวเริ่มขวา หมายถึงทางข้างหน้าเป็นทางคดเคี้ยวโดยเริ่มไปทางขวา ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควรและเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง

ป้ายทางโทแยกทางเอกเยื้องกันเริ่มซ้าย

10. ทางโทแยกทางเอกเยื้องกันเริ่มซ้าย หมายถึงทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางซ้ายและหลังจากนั้นมีทางโทแยกไปทางขวา ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง

ป้ายทางโทแยกทางเอกเยื้องกันเริ่มขวา

11. ทางโทแยกทางเอกเยื้องกันเริ่มขวา หมายถึงทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางขวาและหลังจากนั้นมีทางโทแยกไปทางซ้าย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง

ป้ายทางข้ามทางรถไฟไม่มีเครื่องกั้นทาง

12. ทางข้ามทางรถไฟไม่มีเครื่องกั้นทาง หมายถึงทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่านและไม่มีเครื่องกั้นทาง ให้ขับรถให้ช้าลงให้มาก และสังเกตดูรถไฟทั้งทางขวาและทางซ้าย ถ้ามีรถไฟกำลังจะผ่านมาให้หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร แล้วรอคอยจนกว่ารถไฟนั้นผ่านพ้นไปและปลอดภัยแล้ว จึงเคลื่อนรถต่อไปได้ ห้ามมิให้ขับรถตัดหน้ารถไฟในระยะที่อาจจะเกิดอันตรายได้เป็นอันขาด

ป้ายทางข้ามทางรถไฟมีเครื่องกั้นทาง

13. ทางข้ามทางรถไฟมีเครื่องกั้นทาง หมายถึงทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่านและมีรั้วหรือมีเครื่องกีดขวางกั้นทาง ก่อนที่จะขับรถผ่านป้ายนี้ ให้ขับรถให้ช้าลงและพร้อมที่จะหยุดรถได้เมื่อมีเสียงสัญญาณของเจ้าหน้าที่ดังขึ้น หรือเจ้าหน้าที่ได้กั้นทาง หรือมีเครื่องกั้นทางปิดกั้น ถ้ามีรถข้างหน้าหยุดรออยู่ก่อนก็ให้หยุดรถถัดต่อมาตามลำดับ เมื่อเปิดเครื่องกั้นทางแล้วให้รถที่หยุดรอเคลื่อนที่ตามกันได้

ป้ายผิวทางร่วน

14. ผิวทางร่วน หมายถึงทางข้างหน้ามีวัสดุผิวทางหลุดกระเด็นเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงให้ขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังอันตราย อันอาจเกิดจากวัสดุผิวทาง

ป้ายสำรวจทาง

15.สำรวจทาง หมายถึงทางข้างหน้ามีเจ้าหน้าที่กำลังทำการสำรวจทางอยู่บนผิวจราจรหรือใกล้ชิดกับผิวจราจร

ลองศึกษาและทำความเข้าใจกับป้ายจราจรเหล่านี้ให้ดีกัน ถ้าเจอจะได้ใช้ความระมัดระวังได้อย่างถูกต้อง และจะช่วยลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี