Roojai

แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีถนอมแบตให้นานที่สุด

Article Roojai Verified
ทำไมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าถึงเสื่อมลง | ประกันรถยนต์ไฟฟ้า รู้ใจ

รู้หรือไม่ว่า.. หนึ่งในประเด็นที่คนมีรถไฟฟ้า EV กังวลไม่น้อยเมื่อครอบครองรถไฟฟ้าคือเรื่อง แบตเตอรี่เสื่อม รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยตรงกับแบตเตอรี่รถไฟฟ้า เนื่องจากราคาแบตของรถไฟฟ้าค่อนข้างสูง เมื่อเป็นแบบนี้แล้วอะไรที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น หากไม่อยากเสียเงินเปลี่ยนมีวิธีป้องกันหรือไม่? บทความนี้มีคำตอบ

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

แบตรถไฟฟ้า EV ใช้ได้กี่ปี?

ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออน (Lithium ion)ซึ่งปกติจะค่อย ๆ มีการเสื่อมสภาพลง จากปัจจัยดังต่อไปนี้

  1. อุณหภูมิ อุณหภูมิมีผลต่อคุณภาพของแบตรถไฟฟ้า ยิ่งอุณหภูมิสูง (เกินระดับที่แบตเตอรี่รถไฟฟ้าสามารถทำงานได้เป็นปกติ) ก็ยิ่งส่งผลเสียต่ออายุการใช้งาน นอกจากนี้ความร้อนสะสมในแบตเตอรี่รถไฟฟ้ายังอาจทำให้แบตลุกไหม้ได้อีกด้วย
  2. รอบการใช้งาน หรือรอบการชาร์จ (Cycle time) คือ การชาร์จแบตรถไฟฟ้าจนเต็ม 100% ต่อครั้ง (ชาร์จเต็ม 100% ครั้งหนึ่ง = การใช้ 1 รอบการชาร์จ) เมื่อใช้ไปนาน ๆ Cycle time ยิ่งมากครั้ง แบตรถไฟฟ้าจะเก็บไฟได้น้อยลงตามอายุการใช้งาน โดยเฉลี่ยแบตเตอรี่รถไฟฟ้าลิเธียมไอออน ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 3,000 รอบการชาร์จขึ้นไป หรือตีเป็นอายุการใช้งานจริงคร่าว ๆ ตั้งแต่ 10-20 ปี
วิธีป้องกันรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เสื่อม | ประกันรถยนต์ไฟฟ้า รู้ใจ

สาเหตุที่ทำให้รถไฟฟ้า แบตเตอรี่เสื่อมมีอะไรบ้าง?

สำหรับอาการที่เจ้าของรถไฟฟ้า EV หลายคนเป็นกังวลอย่างแบตเตอรี่เสื่อม จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ มีทั้งควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ โดยสาเหตุแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมที่เรานำมาบอกต่อ ล้วนเกิดจากพฤติกรรมการขับขี่ รวมถึงพฤติกรรมการใช้รถที่ไม่เหมาะสม แน่นอนว่าเป็นสาเหตุที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนี้

1. ปล่อยให้แบตเตอรี่รถไฟฟ้าเหลือน้อย

เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดมากขึ้น แบตรถไฟฟ้าเปรียบเสมือนแบตเตอรี่มือถือ หากบ่อยให้เหลือน้อยกว่า 20% บ่อย ๆ แบตเตอรี่เสื่อมไวกว่ากำหนดแน่นอน เนื่องจากการที่แบตเตอรี่มีประจุไฟฟ้าต่ำมาก ๆ จะทำให้เกิดความเครียดกับเซลล์แบต แถมยังอาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรได้อีกด้วย แนะนำให้รักษาระดับแบตเตอรี่รถไฟฟ้าให้อยู่ในช่วง 40% – 80% จะดีที่สุด

2. ชาร์จเร็วบ่อยเกินจำเป็น

การเลือกที่ชาร์จรถไฟฟ้าแบบเร็วหรือ DC Fast Charging แน่นอนว่าทั้งสะดวกและรวดเร็ว แต่ถ้าเลือกวิธีชาร์จรถไฟฟ้าแบบนี้บ่อย ๆ จะส่งผลเสียต่อแบตรถไฟฟ้าได้ เนื่องจากการชาร์จแบบนี้จะใช้กระแสไฟฟ้าสูงกว่าปกติ ทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในแบต ผลที่ตามมาคือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างรวดเร็ว ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นนั่นเอง

3. พฤติกรรมการใช้รถที่ไม่เหมาะสม

หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อน ว่าพฤติกรรมการขับขี่ก็ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ชอบขับรถพลังงานไฟฟ้าแบบกระชาก ชอบเร่งและเบรคแรงบ่อย ๆ รวมถึงชอบบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด แบบนี้จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าทำงานหนักเกินจำเป็น ทำให้เกิดความร้อนสะสม และเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น

4. จอดรถไฟฟ้า EV ทิ้งไว้นานเกินไป

หากคุณมีรถหลายคัน หรือไม่ค่อยได้ใช้งานรถไฟฟ้า EV บ่อย จอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน หรือไม่มีการชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้าเลย จะทำให้แบตคายประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อตัวแบตเสียประจุมากก็จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วขึ้น 

ถ้าจะให้ดี แนะนำให้ชาร์จแบตรถไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมก่อน หรือประมาณ 40% – 60% แล้วค่อยจอดทิ้งเอาไว้ รวมถึงควรนำรถไฟฟ้าไปใช้งานทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น

5. ชอบจอดรถยนต์ไฟฟ้าไว้กลางแจ้งบ่อย ๆ

เมื่อนำรถพลังงานไฟฟ้าไปจอดทิ้งไว้กลางแจ้ง โดยไม่คำนึงถึงพื้นที่จอดรถหรือระยะที่จอดรถ ปล่อยให้สัมผัสกับแสงแดดร้อนจัดอยู่บ่อย ๆ จะทำให้แบตรถไฟฟ้าได้รับความร้อนสูง ส่งผลให้เซลล์แบตเตอรี่เสื่อม มีอายุการใช้งานที่สั้นลง และยังอาจทำให้ความจุแบตเตอรี่ลดลงอย่างกะทันหัน แนะนำให้จอดรถในอาคาร หรือเลือกพื้นที่จอดรถที่มีหลังคาคอยบังแดดจะดีกว่า

Tips: แบบไหนคือสัญญาณรถ EV แบตเสื่อม?

หากกำลังสงสัยว่า “แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เสื่อม” มาดูสัญญาณเตือนแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมมาให้แล้ว สังเกตกันสักหน่อยดีกว่า

  • ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ‘ลดลง’ อย่างชัดเจน เช่น ชาร์จเต็ม 1 ครั้งเคยวิ่งได้ 400 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันวิ่งได้เพียง 300 กิโลเมตรหรือน้อยกว่า
  • แบตเตอรี่รถไฟฟ้ามีอุณหภูมิสูงผิดปกติขณะใช้งานหรือชาร์จไฟ
  • มีพฤติกรรมการขับขี่ลักษณะเดิม แต่เปอร์เซ็นต์แบตรถไฟฟ้าลดลงเร็วผิดปกติ
  • ใช้เวลาในการชาร์จนานขึ้น หรือบางครั้งชาร์จเต็มเร็วผิดปกติ (เป็นสัญญาณความผิดปกติของความจุแบตเตอรี่)

ป้องกันแบตรถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมได้อย่างไร?

ก่อนจะต้องเสียเงินเปลี่ยนแบตรถไฟฟ้า EV แค่รู้วิธีป้องกันแบตเตอรี่เสื่อม พร้อมทำตามอย่างเคร่งครัด ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้นได้ โดยมีวิธีป้องกันดังนี้

1. ไม่ชาร์จแบตรถไฟฟ้านานเกินไป

ต้องบอกก่อนว่าวิธีชาร์จรถไฟฟ้าที่ถูกต้อง ‘ไม่จำเป็น’ ต้องชาร์จให้เต็ม 100% เสมอไป เพราะการชาร์จในลักษณะดังกล่าวบ่อย ๆ ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เช่นกัน ซึ่งระดับที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 20% – 80%

2. ไม่ปล่อยให้แบตเตอรี่รถไฟฟ้าต่ำจนเกินไป

ถ้าจะให้ดีไม่ค่อยปล่อยให้ระดับแบตรถไฟฟ้าต่ำกว่า 20% หรือปล่อยทิ้งไว้จนแบตใกล้หมดแล้วค่อยชาร์จ เพราะพฤติกรรมแบบนี้จะส่งผลให้คุณภาพของแบตเตอรี่รถไฟฟ้าเสื่อมเร็วขึ้น หรือทำให้อายุการใช้งานที่สั้นลงได้

วิธีใช้งานแบตเตอรี่ให้มีสิทธิภาพดีให้ได้นานที่สุด | ประกันรถยนต์ไฟฟ้า รู้ใจ

3. ไม่จอดรถไฟฟ้าไว้กลางแจ้งบ่อย ๆ

ความร้อนจากแสงแดดสามารถสร้างความเสียหายต่อแบตรถไฟฟ้าได้มากกว่าที่คิด เพราะการจอดรถ EV กลางแจ้งบ่อย ๆ จะทำให้รถพลังงานไฟฟ้าได้รับความร้อนจากแสงแดดโดยตรง อาจส่งผลให้เซลล์ได้รับความเสียหาย และทำให้อายุการใช้งานสั้นลง แถมยังส่งผลให้สูญเสียความจุอย่างกะทันหันได้ด้วยเช่นกัน

4. ไม่ใช้ที่ชาร์จรถไฟฟ้าแบบ DC เป็นประจำ

วิธีชาร์จรถไฟฟ้าแบบ DC เป็นการ ‘อัด’ ประจุไฟฟ้าเข้าไปเป็นจำนวนมากในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสะสม ส่งผลให้แบตเตอรี่ รถยนต์ เสื่อมไวมากขึ้น ดังนั้นการสลับไปใช้ที่ชาร์จรถไฟฟ้าแบบ AC จะถือเป็นการช่วยถนอม และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องของพฤติกรรมการขับขี่ พื้นที่จอดรถ รวมถึงวิธีชาร์จรถไฟฟ้าแล้ว “ประกันรถยนต์ไฟฟ้า” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะประกันรถไฟฟ้า EV ก็ให้ความคุ้มครองแบตเตอรี่  โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดกับรถ ทั้งจากอุบัติเหตุ รถหาย น้ำท่วม ฯลฯ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ทั้งหมดนี้คือประเด็นสำคัญที่คนมีรถไฟฟ้า EV จะเป็นต้องรู้เอาไว้หน่อย เนื่องจากแบตเตอรี่รถไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องทะนุถนอม แถมมีราคาแพง หากไม่อยากเสียเงินเปลี่ยนแบต ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม รวมถึงเรียนรู้วิธีชาร์จรถไฟฟ้าที่ถูกต้อง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงแบตเตอรี่เสื่อมได้อย่างอยู่หมัดแล้วล่ะ

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

เซลล์แบต เป็นเซลล์ไฟฟ้าเคมีเซลล์เดียวที่มีขั้วบวกและขั้วลบ เป็นส่วนประกอบพื้นฐานที่สุดของแบตเตอรี่
การเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดสารชนิดใหม่ และไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นสารเดิมได้
previous article
< บทความก่อนหน้า

4 พฤติกรรมการใช้รถ ช่วยถนอมและยืดอายุผ้าเบรครถยนต์