Roojai

แนะนำ 5 วิธีดูแลรักษารถยนต์ไฮบริด ยืดอายุการใช้งานไปยาวๆ

Article Roojai Verified
วิธีดูแลรักษารถยนต์ไฮบริดให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพยาวๆ | รู้ใจ

หนึ่งในประเภทรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คือ รถยนต์ไฮบริด เพราะเป็นหนึ่งในทางเลือกของคนรักษ์โลก แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า แล้วมีวิธีดูแลรักษารถยนต์ยังไงให้ใช้งานไปยาว ๆ โดยเฉพาะส่วนของเครื่องยนต์ไฮบริด มาดูกันเลย

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

รถยนต์ไฮบริด คืออะไร?

ก่อนรู้วิธีดูแลรักษา มาเจาะลึกรถไฮบริดกันก่อน โดยเหตุผลที่ใครต่อใครยกให้รถยนต์ไฮบริดเป็นทางเลือกของคนรักษ์โลก เนื่องจากในตัวรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดมีระบบมอเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีทำงานเป็นตัวสร้างกระแสไฟฟ้า โดยเปลี่ยนพลังงานขณะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนมาเป็นไฟฟ้าป้อนกลับไปเก็บที่แบตเตอรี่ได้ แน่นอนว่าในส่วนของเครื่องยนต์ไฮบริดย่อมแตกต่างไปจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยมีส่วนประกอบดังนี้

  1. เครื่องยนต์แก๊สโซลีน – รถยนต์ไฮบริดถูกออกแบบมาให้ใช้เครื่องยนต์สันดาปน้ำมันที่มีขนาดเล็ก เพื่อเน้นในเรื่องของความประหยัด และลดการปล่อยแก๊สเสียออกสู่ชั้นบรรยากาศ จึงนิยมเลือกใช้เครื่องยนต์แก๊สโซลีนในเครื่องยนต์ไฮบริด
  2. มอเตอร์ไฟฟ้า – มอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ไฮบริด ไม่ใช่มอเตอร์ที่ป้อนพลังงานหล่อเลี้ยงระบบภายในห้องโดยสารเพียงอย่างเดียว แต่เป็นมอเตอร์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เนื่องจากต้องสร้างกระแสไฟฟ้าเจเนอเรเตอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้าไปพร้อม ๆ กัน
  3. ถังน้ำมัน – ถังน้ำมันของรถไฮบริด ถูกออกแบบมาให้มีขนาดพอเหมาะสำหรับเก็บน้ำมัน ไปพร้อม ๆ กับขนาดของแบตเตอรี่ให้เพียงพอต่อการใช้ขับเคลื่อนตัวรถ
  4. แบตเตอรี่ – สำหรับแบตเตอรี่ของรถไฮบริดจะเป็นแบบกักเก็บพลังงานสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า
  5. เจเนอเรเตอร์ – เหตุผลที่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดต้องมีตัวเจเนอเรเตอร์ เพราะใช้ในการสร้างกระแสไฟฟ้าป้อนกลับไปยังแบตเตอรี่ เพื่อหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ไฮบริดขณะรถยนต์ทำงาน

5 วิธีดูแลเครื่องยนต์ไฮบริด

หลายคนอาจเคยได้ยินมาพอสมควรว่าการบํารุงรักษารถยนต์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ไฮบริดมีราคาสูงมาก เมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาปทั่ว ๆ ไป ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปในอดีต เทคโนโลยีไฮบริดยังคงถูกตั้งคำถามเรื่องความทนทาน และการบํารุงรักษารถยนต์ ว่าจะมีอายุการใช้งานมากน้อยแค่ไหน หลังหมดประกันจะโดนค่าซ่อมแบบหนักหน่วงหรือไม่?

แต่จริง ๆ แล้วค่าดูแลรักษารถยนต์ไฮบริด ราคา ‘ใกล้เคียง’ กับรถยนต์ระบบน้ำมันทั่วไปเลยด้วยซ้ำ เรียกได้ว่า เทคโนโลยีรถไฮบริดนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ได้ด้วย แต่ถ้าไม่อยากปวดหัวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เรามีวิธีดูแลรถยนต์ไฮบริดมาบอกต่อ ดังนี้

1. บำรุงรักษาแบตเตอรี่

โดยทั่วไปแล้วรถยนต์ไฮบริดจะใช้ชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง เพื่อขับเคลื่อนรถระหว่างการขับขี่ ดังนั้นคุณควรชาร์จไฟไว้เสมอ เนื่องจากการชาร์จแบตเตอรี่เป็นประจำ จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าจากชุดแบตเตอรี่แรงสูงได้มากที่สุด แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมาก ๆ

วิธีดูแลเครื่องยนต์ไฮบริด | รู้ใจ

2. ดูแลระบบเบรค

การดูแลรถยนต์ไฮบริด โดยเฉพาะระบบเบรคจะเหมือนกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่ว ๆ ไปเลย โดยรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดส่วนใหญ่ จะทำการบำรุงรักษาระบบเบรคที่ 160,000 กิโลเมตร (โดยประมาณ) ขึ้นอยู่กับการใช้งานและรถยนต์ไฮบริดของคุณเป็นหลัก

เมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไปที่การบำรุงรักษารถยนต์ ในส่วนของระบบเบรคที่ระยะทาง 60,000-100,000 กิโลเมตร ทำให้รถยนต์ไฮบริดมีระยะเวลาการดูแลรักษารถยนต์ที่นานขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบและเช็คน้ำมันหล่อลื่นของเบรคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

3. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด แต่ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นประจำด้วยเช่นกัน เพราะในขณะที่รถยนต์ไฮบริดกำลังทำงาน รถไฮบริดยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่เป็นระยะ

4. การบำรุงรักษาตัวกรองแบตเตอรี่

แม้ว่ารถยนต์ไฮบริดบางรุ่นมีชุดแบตเตอรี่ระบายความร้อนได้เอง แต่บางรุ่นการระบายความร้อนต้องอาศัยตัวกรองอากาศ และสามารถถอดออกมาซ่อมบำรุงได้ด้วยเช่นกัน การดูแลรถที่ดี เหมาะสม ควรตรวจสอบตัวกรองแบตเตอรี่ และเปลี่ยนใหม่ตามระยะเวลาที่คู่มือกำหนด

5. ซ่อมบำรุงตามระยะเวลาที่คู่มือกำหนด

ส่วนประกอบของรถยนต์ไฮบริด ‘บางอย่าง’ อาจไม่ต้องการการบำรุงรักษาเป็นประจำ แต่สิ่งสำคัญของรถประเภทนี้ ที่ควรได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ คือ การตั้งศูนย์ล้อ, การดูแลยางรถยนต์, การตรวจสอบน้ำมันเบรค และอีกมากมาย

การเลือกซื้อรถยนต์สักคันโดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้หลากหลาย แถมการบํารุงรักษารถยนต์ก็ไม่ยุ่งยาก และไม่แพงอย่างที่คิดถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ แต่จะดีกว่านั้นหากคุณมีตัวช่วยที่เพิ่มความอุ่นใจได้ตลอดการเดินทาง อย่าง “ประกันภัยรถยนต์” โดยเฉพาะประกันรถที่ปรับแต่งแผนได้ ในราคาคุ้มค่า และมีบริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. หรือบริการเสริมรถทดแทนระหว่างซ่อม

Tips: เมื่อไหร่ที่ควรนำรถไฮบริดส่งซ่อมแบตเตอรี่?

ถ้ากำลังสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่ควรนำรถยนต์ไฮบริดไปตรวจเช็คสภาพรถ โดยเฉพาะในส่วนของแบตเตอรี่ แม้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถไฮบริด ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 80,000-150,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 10 ปี แต่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเพียง 3-5 ปี ซึ่งระบบจัดการความร้อนภายใน จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้

ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายข้อ ที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่โดยตรง ดังนี้

  • การบำรุงรักษา การหมั่นตรวจสภาพรถยนต์ และซ่อมแบตเตอรี่อยู่เสมอ
  • ขั้วแบตเตอรี่หลวม ทำให้จ่ายพลังงานไม่เหมาะสม
  • พฤติกรรมการใช้รถและการชาร์จแบตเตอรี่

พฤติกรรมแบบไหนอาจทำร้ายรถไฮบริดไม่รู้ตัว?

พฤติกรรมการใช้รถแบบไหนที่กำลังทำร้ายรถแบบไม่รู้ตัวอยู่บ้าง รายละเอียดมีดังนี้

1. จอดรถตากแดด หรือจอดกลางแจ้งทั้งวัน

การจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน ส่งผลต่อแบตเตอรี่รถไฮบริดค่อนข้างมาก เนื่องจากจะทำให้อุณหภูมิของแบตสูงขึ้น จากการที่แพคแบตเตอรี่ดูดซับความร้อนเก็บไว้ในตัวเอง และเมื่อแบตเริ่มทำงานความร้อนจากการใช้รถก็จะเกิดขึ้น ส่งผลให้แบตบวม ประกอบกับยิ่งทวีความร้อนมากขึ้นจนเกินมาตรฐาน (รถโอเวอร์ฮีท)

2. ฝืนเหยียบคันเร่งมากเกินไป

อธิบายเพิ่มเติมก่อนว่า รถยนต์ไฮบริดถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่อย่างนุ่มนวล ค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้าหากคุณฝืนเหยียบคันเร่งในขณะออกตัวแรก ๆ จะทำให้เกิดความร้อนภายในแพคแบตเตอรี่ ส่งผลให้แบตเสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แนะนำให้ขับรถตามรอบ และค่อย ๆ ไต่ระดับความเร็วจะดีกว่า

เมื่อไหร่ที่ควรตรวจสภาพรถยนต์ไฮบริด | รู้ใจ

3. ดับเครื่องยนต์ทันทีเมื่อถึงที่หมาย

เมื่อเดินทางจนถึงที่หมาย สิ่งที่หลายคนมักทำจนชินมือคือดับเครื่องยนต์ไฮบริดทันที แต่พฤติกรรมแบบนี้เป็นผลเสียต่อแพคแบตเตอรี่มาก ๆ เลยล่ะ เพราะถ้าหากแบตกำลังชาร์จอยู่ แล้วคุณดันดับเครื่องยนต์ในระหว่างนั้น จะถือเป็นการรบกวนกระบวนการชาร์จ ทำให้เกิด Memory Effect และทำให้แบตเสื่อมได้นั่นเอง

4. วางของขวางช่องระบายอากาศ

การวางของขวางช่องระบายอากาศ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา หมอน ผ้าห่ม ฯลฯ จะส่งผลต่อระบบแบตเตอรี่ไฮบริดโดยไม่ตั้งใจ เพราะระบบดังกล่าว จะเป็นต้องใช้ความเย็นภายในห้องโดยสาร ในการระบายความร้อนให้กับแพคแบตเตอรี่ผ่านช่องระบายอากาศ หากเผลอหรือตั้งใจนำสิ่งของไปวางขวางเอาไว้ จะทำให้แบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูงจากระบบการถ่ายเทความร้อนที่ทำงานได้ยากขึ้น แน่นอนว่าในอนาคตอาจทำให้แบตเสื่อมเร็วกว่ากำหนดก็เป็นได้

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจ และอยากจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ไฮบริดสักคัน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น ควรให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลรักษารถยนต์ การบํารุงรักษารถยนต์ และหมั่นตรวจสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถยนต์คันโปรดมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาน้อยที่สุด

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยบกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

เครื่องยนต์สันดาป เครื่องยนต์ที่มีการระเบิดหรือเผาไหม้ส่วนผสมของเชื้อเพลิง
Memory Effect ปรากฏการณ์ที่แบตเตอรี่จดจำความจุที่ต่ำกว่าของรอบการชาร์จ หรือการคายประจุที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่
previous article
< บทความก่อนหน้า

อากาศเย็น ร้อน ฝน ความชื้น ส่งผลต่อการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังไง?