ประกันภัยภาคบังคับ คืออะไร?
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่รู้จักกันในชื่อ พ.ร.บ.รถยนต์ คือประกันภัยที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต้องมี ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 เพื่อให้ความคุ้มครองทางการเงินจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก
ประกันภัยประเภทนี้จะให้ความคุ้มครอง ไม่ว่าอุบัติเหตุนั้นจะเป็นความผิดของใครก็ตาม โดยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร เป็นการส่งเสริมความปลอดภัยและลดผลกระทบทางการเงินเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน แม้จะไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถหรือการโจรกรรม แต่ก็เป็นประกันภัยที่กฎหมายกำหนดให้ทำเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
ทำไมคุณถึงต้องมีประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)?
เหตุผลที่คุณจำเป็นต้องมีประกันภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. มีดังนี้
ทำตามกฎหมาย
การขับรถโดยไม่มีพ.ร.บ.รถยนต์ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนดให้เจ้าของรถทุกคนต้องทำประกันภัยภาคบังคับนี้
คุ้มครองบุคคลภายนอก
พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครองความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอกที่เกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประสบภัยทุกคนได้รับค่าชดเชยสำหรับค่ารักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม
เบี้ยประกันที่ไม่แพง
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับเป็นประกันภัยที่คุ้มค่าที่สุด ให้ความคุ้มครองพื้นฐาน ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้
ให้ความคุ้มครองทั่วไทย
ประกันรถยนต์ภาคบังคับให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั่วประเทศไทย ดังนั้นไม่ว่าจะขับรถไปไหนในไทย คุณก็ยังจะได้รับความคุ้มครอง
เลือกเพิ่มความคุ้มครอง
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จะให้ความคุ้มครองพื้นฐาน คุณสามารถหาประกันภัยเสริม (เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1) เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์มากขึ้น
ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) คุ้มครองอะไรบ้าง?
การทำความเข้าใจความคุ้มครองของประกันภาคบังคับเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้รู้ว่า เรามีความคุ้มครองมาก-น้อยแค่ไหน เพียงพอหรือไม่ โดยความคุ้มครองของ พ.ร.บ. มีดังนี้
-
ค่ารักษาพยาบาล - คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เช่น ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าธรรมเนียมแพทย์ และค่ายาตามใบสั่งแพทย์
- จำนวนเงินจำกัดความรับผิด สูงสุด 30,000 บาท สำหรับค่าเสียหายเบื้องต้น
- จำนวนเงินจำกัดความรับผิด สูงสุด 80,000 บาทต่อคน หากไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
-
การสูญเสียอวัยวะ - คุ้มครองการสูญเสียอวัยวะสำคัญจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เช่น แขน ขา ปอด ไต หรือตับ
- จำนวนเงินจำกัดความรับผิด สูงสุด 35,000 บาท สำหรับค่าเสียหายเบื้องต้น
- จำนวนเงินจำกัดความรับผิด ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หากไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
-
เสียชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง - คุ้มครองการเสียชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
- จำนวนเงินจำกัดความรับผิด สูงสุด 35,000 บาท สำหรับค่าเสียหายเบื้องต้น
- จำนวนเงินจำกัดความรับผิด สูงสุด 500,000 บาทต่อคน หากไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
-
ค่าชดเชยรายวัน - คุ้มครองค่าชดเชยรายวันเพื่อครอบคลุมค่าครองชีพของผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
- จำนวนเงิน 200 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน
ข้อจำกัดของ พ.ร.บ.
- ไม่คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ - ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณหรือรถยนต์ของคู่กรณี
- ไม่คุ้มครองการโจรกรรมหรือภัยธรรมชาติ - ความเสียหายของรถที่เกิดจากการโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับซื้อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
การซื้อประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- สำเนาเล่มทะเบียนรถ - เป็นเอกสารยืนยันว่ารถยนต์มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยจะมีรายละเอียด เช่น ยี่ห้อ รุ่น และเลขทะเบียนรถ ระบุในเอกสาร
- สำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง - หากเป็นคนไทยสามารถใช้สำเนาบัตรประชาชน และหากเป็นชาวต่างชาติสามารถใช้สำเนาหนังสือเดินทางในการยื่นซื้อ พ.ร.บ.
- สำเนาใบขับขี่ หรือเอกสารประจำตัวที่มีรูปและเลขที่บัตรประชาชน สามารถใช้ยืนยันตัวตนได้
ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ราคาเท่าไหร่?
ราคาของเบี้ยประกันภัยพ.ร.บ.ภาคบังคับ จะขึ้นอยู่กับประเภทของรถที่ต้องการทำประกัน โดยราคาเบี้ยตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนด มีดังนี้
ประเภทรถ | เบี้ยรายปี |
---|---|
รถจักรยานยนต์ | 323.14 - 645.21 บาท |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล | 645.21 บาท |
รถยนต์ไฟฟ้า | 645.21 บาท |
รถกระบะ 2 ประตู | 967.28 บาท |
รถตู้ | 1,182.35 บาท |
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ติดตามได้ที่เว็บไซต์ของคปภ.หรือ ติดต่อทีมงานของเรา
วิธีเคลมประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
ขั้นตอนการยื่นเคลมประกัน ให้ติดต่อบริษัทประกันภัยทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นเตรียมเอกสารที่จำเป็น ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนรถ
- สำเนาใบขับขี่
- ใบแจ้งความ หรือ บันทึกประจำวัน จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- สำเนาประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ถ้ามี)
- ใบรับรองค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ (ถ้ามี)
- ใบมรณบัตร (ถ้ามี)
- ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
ต่อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ออนไลน์ยังไง?
คุณสามารถต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ออนไลน์ พร้อมกับต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ได้ง่าย ๆ ที่ DLT e-Service โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เตรียมข้อมูลรถยนต์ให้พร้อม - เตรียมคู่มือรถยนต์ สมุดทะเบียนรถ หมายเลขทะเบียนรถ และวันหมดอายุของประกันภัยปัจจุบันของคุณ
- เปิดเว็บไซต์ DLT e-Service - เลือกลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบที่ DLT e-Service
- เลือกชำระภาษีประจำปี - คลิก “ชำระภาษีประจำปี” กรอกข้อมูล ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วกด “ยื่นชำระภาษี”
- กดซื้อพ.ร.บ. - ระบบจะเข้าสู่หน้าชำระภาษี ให้กดเลือก “ข้อมูล พ.ร.บ.” กด “ไม่มี (ซื้อผ่านระบบ)” และเลือก “ต้องการซื้อ พ.ร.บ. ใหม่”
- ซื้อพ.ร.บ. เรียบร้อยแล้ว - หลังจากกรอกข้อมูลรถ ชำระเงิน ก็รอรับเอกสารพ.ร.บ.รถยนต์ตามที่อยู่จัดส่งที่กรอกไว้ได้เลย
*คุณสามารถต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ ล่วงหน้าได้ 90 วันก่อนหมดอายุความคุ้มครอง
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
ชาวต่างชาติสามารถซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับได้หรือไม่?
ได้ ชาวต่างชาติจำเป็นต้องซื้อพ.ร.บ.รถยนต์หรือพ.ร.บ.มอเตอร์ไซค์ หากเป็นเจ้าของรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย
ไม่ซื้อประกันรถยนต์ภาคบังคับได้มั้ย?
รถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกคัน ต้องมีประกันภัยภาคบังคับและต้องต่ออายุทุกปี เพราะเป็นเอกสารที่ต้องใช้เพื่อจ่ายภาษีรถยนต์-รถจักรยานยนต์ หากฝ่าฝืนไม่ทำพ.ร.บ.มีโทษปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท
ความคุ้มครองของ พ.ร.บ. เพียงพอหรือไม่?
ทั้งพ.ร.บ.รถยนต์ และพ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ จะให้ความคุ้มครองทางการเงินพื้นฐานสำหรับผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนน แต่ความคุ้มครองมีจำกัด ไม่คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อประกันภัยรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติม คุณสามารถเปรียบเทียบประเภทของประกันภัยรถยนต์ได้ง่าย ๆ บนเว็บไซต์ของเรา
พ.ร.บ. หมดอายุ ต้องทำยังไง?
หากพ.ร.บ.ขาด จะต้องต่ออายุโดยเร็วที่สุด เพราะการขับรถโดยไม่มี พ.ร.บ. ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษปรับ โดยสามารถซื้อ พ.ร.บ.ออนไลน์ได้ทาง DLT e-Service หรือที่บริษัทประกันภัย
Tips ประกันภาคบังคับ
- เก็บเอกสาร พ.ร.บ.รถยนต์ ไว้กับตัวรถตลอดเวลา เพราะคุณอาจถูกขอให้แสดงพ.ร.บ. เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
- พิจารณาซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ชั้น 1, 2+, 3+, 2 และ 3 เพื่อรับความคุ้มครองที่สูงขึ้น
คำจำกัดความ
ผู้ประสบภัยจากรถยนต์ | บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ |
กรมการขนส่งทางบก | หน่วยงานของรัฐในประเทศไทยที่รับผิดชอบด้านการจดทะเบียนและควบคุมยานพาหนะตลอดจนการออกใบขับขี่รถยนต์ |
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) | รับผิดชอบในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมประกันภัยของประเทศไทย ให้เป็นไปตามมาตรฐานทางกฎหมายและส่งเสริมการพัฒนาภาคส่วน สังกัดภายใต้กระทรวงการคลัง |
คู่มือรถ | เอกสารที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ การดูแลรักษา หรือการซ่อม |
ค่าเสียหายเบื้องต้น | การชำระเงินเบื้องต้นที่บริษัทประกันภัยจ่ายให้แก่ผู้ประสบเหตุ เพื่อช่วยเหลือทางการเงินอย่างรวดเร็วหลังเกิดอุบัติเหตุ โดยไม่ต้องรอการพิจารณาความผิด |
อัปเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2568