Roojai

ใช้เบาะเด็กให้ถูก..คุณหนูๆจะปลอดภัย

ปัจจุบันบรรดาคุณพ่อคุณแม่ต่างให้ความสำคัญด้านปลอดภัยต่อลูกน้อย เมื่อเดินทางด้วยรถยนต์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กเล็กๆ จึงมีการนำ ‘เบาะสำหรับเด็กบนรถยนต์โดยเฉพาะหรือคาร์ซีท’ มาติดตั้งขณะที่เดินทางไปไหนมาไหน จากในอดีตหลายคนอาจไม่คำนึงถึงและมักมองข้ามเรื่องราวเหล่านี้ไป ส่วนใหญ่ก็มักอุ้มไว้บนตักหรือให้นั่ง-นอนบนรถเบาะรถ แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นโอกาสที่เด็กจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็เป็นไปได้สูง เพราะโดยมากเด็กจะอยู่ตรงกลางระหว่างรถกับคุณแม่ เมื่อเกิดแรงกระแทกน้องมีโอกาสที่จะกระเด็นหลุดออกจากอ้อมกอดคุณแม่ได้ในขณะที่ตัวคุณแม่นั้นมีเข็มขัดนิรภัยรัดอยู่ แต่หากมีการติดตั้งคาร์ซีท เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยปกป้องน้องๆ หนูๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ติดตั้งคาร์ซีทดีแล้วอย่างไร ประโยชน์คือช่วยลดระดับความรุนแรงจากอุบัติเหตุ และลดการบาดเจ็บของร่างกายของลูกน้อยได้หากได้รับการติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธี สำหรับการติดตั้งคาร์ซีทต้องติดตั้งในจุดที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด คือ จุดกึ่งกลางของเบาะหลัง หรือติดตั้งคาร์ซีทที่บริเวณใกล้เคียงตรงกลางรถให้มากที่สุด เพราะการติดตั้งคาร์ซีทจะช่วยลดการกระแทกที่เข้ามาด้านข้างรถได้ และไม่ควรติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะด้านหน้า ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุการทำงานของถุงลมนิรภัยจะทำให้ลูกน้อยเป็นอันตรายได้ เพื่อความปลอดภัยจึงควรเป็นการติดตั้งที่เบาะด้านหลังจะดีกว่า ที่สำคัญศึกษาคู่มือการติดตั้งและการใช้คาร์ซีทอย่างละเอียด ว่ามีจุดยึดที่ตัวคาร์ซีทกับเข็มขัดนิรภัยอย่างไร จากนั้นดึงเข็มขัดนิรภัยให้สุด สอดสายคาดเอวเข็มขัดยึดไว้กับตัวล็อคคาร์ซีทด้านล่างเบาะรถ

สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ ควรเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับวัยและน้ำหนักของเด็ก เด็กแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 12 เดือน หรือ 1 ปี และเด็กที่น้ำหนักตัวไม่เกิน 10 กก. ต้องใช้คาร์ซีทสำหรับทารก หรือคาร์ซีทสำหรับทารก-เด็กเล็ก รวมทั้งต้องเป็นคาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถ สามารถปรับเอนไปกับที่นั่งได้ประมาณ 45 องศา โดยคาร์ซีทรูปแบบนี้สามารถปกป้องหัวของเด็ก ลำคอ และกระดูกสันหลังได้ดีที่สุด

ส่วนเด็กที่มีอายุมากกว่า 12 เดือน หรือ 1 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี หรือน้ำหนัก 10-28 กก. ควรใช้คาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถ เด็กที่มีน้ำหนักตัว 15-18 กก. ควรใช้คาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลัง ส่วนเด็กที่มีน้ำหนักตัว 22-25 กก. หรือเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปสามารถนั่งตัวตรงได้ ควรใช้คาร์ซีทแบบไม่มีพนักพิงด้านหลัง

สำหรับการใช้สายล็อคนั้น ต้องใส่สายล็อคคล้องด้านบนด้วย ไม่งั้นหัวเด็กจะกระแทกได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ลองดูตัวอย่างคลิปแสดงแบบจำลองระหว่างการใช้สายล็อคด้านบนกับไม่ใช้ จะส่งผลกับหัวเด็กกระแทกอย่างไร

เชื่อว่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคงจะเห็นความสำคัญและความจำเป็นของเจ้าคาร์ซีทแล้วใช่ไหมครับ ซึ่งไม่เพียงเป็นการช่วยป้องกันและเสริมความปลอดภัยให้กับลูกน้อยในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันแล้ว ก็ยังช่วยให้ทุกการเดินทางของคุณและครอบครัวเต็มไปด้วยความอุ่นใจอีกด้วย