Roojai

รถยนต์ไฮบริดคืออะไร? เลือกประกันรถไฮบริดยังไงให้คุ้มที่สุด!

รถยนต์ไฮบริด | ประกันรถไฮบริด | รู้ใจ

รถยนต์ไฮบริด เป็นอีกหนึ่งยนตรกรรมที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการมาของรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากรถยนต์ไฮบริดเป็นเทคโนโลยีผสมผสานเพื่อประหยัดพลังงานให้กับผู้ขับขี่ทุกคน แต่กับคำถามสำคัญคือจะมองหาประกันรถไฮบริดได้จากที่ไหน และการเลือกซื้อกรมธรรม์สำหรับรถไฮบริดนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติหรือเปล่า เบี้ยประกันแพงมั้ย แตกต่างจากการเลือกประกันรถน้ำมันหรือประกันรถไฟฟ้าหรือไม่ รู้ใจ เตรียมคำตอบเอาไว้ให้คุณแล้วเพื่อความเข้าใจและช่วยให้คุณได้พบกับกรมธรรม์ที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์คันโปรดของคุณ

รถยนต์ไฮบริด รถ Hybrid คืออะไร?

รถยนต์ไฮบริด หรือ Hybrid Electric Vehicle (HEV) ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบหนึ่ง เป็นรถยนต์ที่ถูกสร้างออกมาเพื่อใช้พลังงานสำหรับการขับเคลื่อนในรูปแบบผสมผสานระหว่างน้ำมันกับไฟฟ้า โดยระบบการทำงานคือเครื่องยนต์จะมีระบบการทำงานทั้งในรูปแบบของการสันดาปภายในและระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมกำลังขับเคลื่อน โดยเป็นการทำงานสนับสนุนการเบรกแบบผันกลับ (Regenerative Braking) เพื่อใช้ในการเก็บสำรองไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์สำหรับการขับเคลื่อนรถยนต์ไปข้างหน้า 

ในปัจจุบันรถยนต์เทคโนโลยีไฮบริดในบางแบบสามารถขับเคลื่อนด้วยการประจุไฟฟ้าด้วยตัวเอง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังต้องพึ่งพาพลังงานน้ำมันสำหรับการจุดสันดาปเพื่อการขับเคลื่อนรถในช่วงแรกอยู่เล็กน้อย เพราะความพิเศษที่ไม่เหมือนใครทำให้รถไฮบริดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่บ้าง และข้อจำกัดในบางรูปแบบนี่เองที่มีผลต่อการคิดอัตราเบี้ยประกันให้กับรถไฮบริดเอง ซึ่งรู้ใจขอสรุปเป็นจุดเด่นและข้อสังเกตของรถไฮบริดดังต่อไปนี้

จุดเด่นของรถยนต์ไฮบริด

1. ไม่ต้องชาร์จไฟฟ้า

สิ่งที่เหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้า คือ การไม่ต้องเสียเวลาชาร์จแบตรถยนต์ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องหาแหล่งจ่ายพลังงานเฉพาะอีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้าที่ยาวนานมาก บางครั้งอาจต้องใช้เวลาถึง 7-8 ชั่วโมงกันเลย แต่เทคโนโลยีไฮบริดนั้นเป็นการปั่นกระแสไฟฟ้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับขี่รถ จึงทำให้มีการเติมพลังงานเข้ามากักเป็นอยู่ในชุดแบตเตอรี่อยู่เสมอ

2. ใช้งานได้สะดวกทั้งระบบน้ำมันและไฟฟ้า

ด้วยระบบการประจุพลังงานในรูปแบบ Regenerative Braking ทำให้รถไฮบริดสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกจังหวะการประจุไฟ และที่สำคัญหากแบตเตอรี่ที่ใช้ในการขับขี่เริ่มอ่อนแรงรถระบบของรถจะช่วยให้คุณตัดกลับไปใช้น้ำมันสำหรับการขับเคลื่อนได้ และทำให้การเก็บประจุพลังงานสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง เรียกว่าพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ชนิดที่แบตเตอรี่พลังงานหมดก็ยังคงสามารถวิ่งรถต่อไปได้

3. การตอบสนองของเครื่องยนต์

การขับเคลื่อนเครื่องยนต์ยังคงเป็นรูปแบบผสมผสานจึงทำให้การขับขี่เป็นไปได้ด้วยความนุ่มนวลเรียบง่าย อัตราเร่ง การแซง และการขับขี่ทางไกลยังให้ประสิทธิภาพและคุณภาพไม่ต่างจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมัน และยังมีความประหยัดในรูปแบบเดียวกันกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหากเทียบจากจำนวนซีซีของรถแบบเดิมที่ใช้พลังงานน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 13 กิโลเมตรต่อลิตร การใช้รถยนต์แบบ e:HEV สามารถใช้พลังงานน้ำมันร่วมกับไฟฟ้าและทำให้อัตราการใช้น้ำมันลดลงและทำระยะทางได้ถึง 23 กิโลเมตรต่อลิตรได้เลย

รถไฮบริด | ประกันรถไฮบริด | รู้ใจ

จุดสังเกตของรถยนต์ไฮบริด

1. ศูนย์ซ่อมบำรุงที่ยังมีอยู่อย่างจำกัด

เช่นเดียวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริดก็มีปัญหาที่ไม่แตกต่างกันมากนักนั่นคือยังมีจำนวนพื้นที่สำหรับการซ่อมบำรุงไม่กว้างขวางนัก สำหรับในเมืองใหญ่อาจไม่ใช่ปัญหาแต่กับพื้นที่ห่างไกลที่ยังมีช่างผู้ชำนาญการไม่มากนัก การหาที่ซ่อมรถอาจจะยากลำบาก และหลายคนคิดว่าการจ่ายเบี้ยประกันสำหรับรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ต้องจ่ายในอัตราที่สูงขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้การตัดสินใจใช้รถยนต์พลังงานไฮบริดจึงยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนักทั้งที่ข้อดีต่าง ๆ มีให้คุณได้พิจารณาอย่างไม่จำกัด

2. การเรียนรู้วิธีการขับขี่เพื่อการประจุไฟ

การขับรถยนต์เทคโนโลยีไฮบริดคือการเปลี่ยนจังหวะการขับขี่ให้เปลี่ยนจากพลังงานน้ำมันมาสู่การใช้งานและกาประจุไฟเข้าสู่มอเตอร์ไฟฟ้า สิ่งที่ตามมาคือหากผู้ขับไม่รู้จังหวะการขับขี่ที่เหมาะสมย่อมทำให้ระบบการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่สมบูรณ์และไม่อาจประจุไฟเข้าไปได้ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงต้องเรียนรู้กับจังหวะการขับรถที่ละเอียดขึ้นไปอีกนิดไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักลงสู่คันเร่ง การเร่งแซง การเหยียบเบรค ทั้งหมดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการประจุไฟเข้าไปยังแบตเตอรี่รถยนต์ทั้งสิ้น

3. ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ยังมีราคาที่สูงมาก

เช่นเดียวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์พลังงานไฮบริดแม้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่อยู่คู่โลกยนตรกรรมมาระยะเวลาหนึ่ง แต่การปรับตัวแบบก้าวกระโดดเพื่อให้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อนนั้นหมายถึงการออกแบบชุดอะไหล่รถยนต์และเครื่องยนต์ใหม่แทบทั้งหมด ปัญหาที่ตามมาคือราคาของอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมแซมและซ่อมบำรุงจึงมีราคาที่สูงมาก ดังนั้นการทำประกันภัยเพื่อการคุ้มครองจึงต้องพิจารณากันเป็นพิเศษ รวมไปถึงการเข้าศูนย์ซ่อมบำรุงในแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายที่มากเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ประกันแบบไหนให้รถยนต์ไฮบริดดี?

จากจุดเด่นและข้อด้อยที่ได้กล่าวมาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกการทำประกันภัยรถยนต์ให้กับรถไฮบริดในแต่ละแบบ แล้วประกันภัยแบบไหนที่ครอบคลุมการดูแลรถยนต์พลังงานไฮบริด คำตอบของคำถามนี้คือ ประกันภัยทุกประเภทครอบคลุมการดูแลรักษาขั้นพื้นฐานในการใช้งานรถประเภทนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันชั้น 2, 2+, 3 หรือ 3+ ก็ตามก็จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันและข้อกำหนดของกรมธรรม์ได้อย่างครบถ้วน เพียงแต่ว่า! ค่าใช้จ่ายในส่วนของเบี้ย ประกันนั้นอาจสูงขึ้นมาอีกสักนิด แต่ก็ยังเป็นราคาที่ไม่หนักจนเกินไป

รถยนต์ไฮบริดเป็นนวัตกรรมสำหรับการใช้รถยนต์ที่มีความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมทั้งยังประหยัดน้ำมันลงไปได้มากอีกด้วย ที่รู้ใจมีประกันรถที่คุ้มครองรถไฮบริดให้คุณเลือก ปรับแผนได้ตามใจ เลือกความคุ้มครองได้เองครบ จบ ทุกไลฟ์สไตล์ แถมประหยัดสูงสุด 30% เช็คราคาออนไลน์รู้ผลทันที ไม่ต้องโทร

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)