5 ชุดอะไหล่รถยนต์ที่ควรมีประกันอะไหล่คุ้มครอง เครื่องยนต์แรง ค่าซ่อมรถก็แรง!

อะไหล่รถยนต์ หรือ ชิ้นส่วนรถยนต์ อาทิ เกียร์ เกียร์ออโต้ ล้อและเพลา เพลารถ ระบบไฟฟ้า หลายส่วนประกอบรวมเพื่อช่วยในการทำงานของตัวรถ ผ่านกลไกที่กำหนดขึ้นตามหลักวิศวกร พูดง่าย ๆ ว่าเป็นเทคโนโลยีการพัฒนาที่อำนวยประโยชน์ให้กับการเดินทางแก่มนุษยชาติกว่าร้อยปี พัฒนาต่อเนื่องจนเข้าใกล้สู่ช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายครั้งสำคัญอีกครั้งจากการมาของรถยนต์ไฟฟ้า

โดยเฉพาะใครที่ทำงานในเมืองใหญ่หรือพื้นที่ที่การขนส่งสาธารณะเข้าถึงยาก รถยนต์นั้นนับเป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ในการใช้ชีวิต จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่ซื้อรถยนต์เอาไว้ใช้ แต่คุณรู้ไหมว่า ? อะไหล่รถยนต์แต่ละส่วนมีอะไรบ้าง ? และถ้าหากเสื่อมสภาพจนต้อง “เปลี่ยนยกชุด” ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ กับเรื่องราวที่คนใช้รถทุกคนควรรู้ในเรื่องค่าบำรุงรักษา วันนี้ Roojai จะพาไปดูกัน

อายุการใช้งานและราคาโดยประมาณ ของอะไหล่รถยนต์ หากต้อง “เปลี่ยนยกชุด”

รถยนต์หนึ่งคันมีองค์ประกอบผสมรวมกันหลากหลาย และแต่ละส่วนมีอายุการใช้งานของมัน ไม่มีชิ้นไหนที่ใช้งานไปได้ตลอด ต้องมีเสีย ต้องมีซ่อมเมื่อเวลาผ่านไปพร้อมกับเลขไมล์ที่สูงขึ้นของตัวรถ อีกทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายของอะไหล่แต่ละชิ้นในการเปลี่ยนที่แตกต่างกัน เป็นเจ้าของรถมองข้ามไม่ได้ ไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่า ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายของอะไหล่รถยนต์แต่ละส่วนจะมีอะไรและจะทำให้คุณปาดเหงื่อได้มากน้อยแค่ไหนจากการซ่อมหากอะไหล่รถยนต์ชิ้นนั้น ๆ เสียหายขึ้นมา

1.เพลาขับหน้าและท้าย

หนึ่งในชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมา ย่อมส่งผลให้การขับขี่ไร้ความปลอดภัย แถมในส่วนของค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูงด้วยหากต้องเปลี่ยนยกชุด เนื่องด้วยชุดเพลาขับหน้าและท้ายเปรียบเหมือน “กระดูกสันหลัง” ที่ทอดยาวไปตามขนาดความยาวของตัวถังรถซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ส่งคำสั่งต่อการขับเคลื่อนชุดล้อให้รถยนต์เคลื่อนที่ไปได้

ระยะเวลาเปลี่ยน :

หากเป็นสภาพการใช้งานปกติ หัวเพลาขับ “อาจ” มีอายุการใช้งานยาวนานมาก หรือมากกว่า 100,000 กิโลเมตร แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย เช่น การบรรทุกหนัก การใช้เส้นทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อส่งผลให้อุปกรณ์เสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้น หรือแม้จะเป็นการถอด-ใส่หัวเพลาขับที่ไม่ถูกต้อง

ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง :

ความเสียหายที่เกิดจากชุดเพลาส่วนใหญ่ มักเกิดจาก “แรงกระแทก” เป็นสำคัญ เมื่อมีแรงกระแทกมหาศาลทำให้ชุดเพลาเสียหาย อาจจะส่งผลต่อความเสียหายในรายอื่น ๆ ตามมาด้วย โดยการซ่อมชุดเพลาจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 50,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงผลที่สร้างความเสียหาย ต่อชุดอะไหล่รถยนต์ตัวอื่น ๆ

2. ระบบไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้าของรถยนต์เป็นส่วนสำคัญในการทำงานของระบบควบคุมในรถยนต์ ที่มีการพัฒนาระบบควบคุมเครื่องยนต์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ครอบคลุมการทำงานของตัวรถยนต์ อาทิ ระบบเลี้ยว ระบบรองรับน้ำหนัก และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ถุงลมนิรภัย ระบบแจ้งเตือนการชน ล้วนมีระบบไฟฟ้าเข้ามามีส่วนในการทำงาน การที่ระบบไฟฟ้าจะสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ จำเป็นจะต้องมีการดูแลรักษาอุปกรณ์ไฟต่าง ๆ ให้ถูกต้องและสมบูรณ์

ระยะเวลาเปลี่ยน :

ถ้าเป็นส่วนที่ส่งกำลังไฟอย่างแบตเตอรี่จะต้องเปลี่ยนทุก 1-2 ปี เมื่อถึงระยะเวลาตามที่กำหนด แต่ถ้าเป็นส่วนอื่น ๆ ที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง จะเริ่มแสดงอาการหลังจากรถผ่านการใช้งานมา 5-10 ปี หรือเลขไมล์เข้าแตะหลัก 100,000 กิโลเมตร

ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง :

1,700-3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ ยี่ห้อแบตเตอรี่รถยนต์ ขนาดกำลังไฟ) สำหรับแค่ส่วนของแบตเตอรี่รถยนต์ที่ต้องเปลี่ยนทุก 1-2 ปี แต่ถ้าเป็นส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นส่วนประกอบของระบบการทำงานสำคัญ อาทิ ไดชาร์จ, ไดสตาร์ท เปลี่ยนยกชุดทั้งลูกจะเริ่มต้นที่ 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและปีรถ เป็นต้น

3.กลไกเครื่องยนต์

เครื่องยนต์เป็น “เครื่องจักรกล” ชนิดหนึ่ง เปลี่ยนพลังงานความร้อนให้เป็นพลังงานกลใช้ขับเคลื่อน ที่เรียกกันว่า “เครื่องยนต์ทางความร้อน” สามารถผลิตกำลังขับและรอบได้สูง ชิ้นส่วนนับร้อยประกอบเป็นเครื่องยนต์ ทำงานประสานเป็นการจุดระเบิดนำไปสู่การพละกำลังเพื่อให้รถขับเคลื่อนซึ่งต้องคอยหมั่นดูแลเบื้องต้นผ่านการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเพื่อช่วยในการหล่อลื่น

ระยะเวลาเปลี่ยน :

• น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์และไส้กรอง : ครึ่งปี หรือ 10,000 กิโลเมตร
• น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์และไส้กรอง : 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร
• สายพานขับ และสายพานเครื่องยนต์ : 2-3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
• น้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ : 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง :

กลไกเครื่องยนต์หากได้รับความเสียหายอาจส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนรถเป็นอย่างมาก หากต้องการเปลี่ยนยกชุด ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอาจทำให้คุณเหงื่อตกได้เลย เพราะค่าใช้จ่ายรวม ๆ จะอยู่ที่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ระบบที่ชิ้นส่วนเสื่อมสภาพต้องเปลี่ยน เช่น ระบบดูดอากาศ ระบบจุดระบบ ระบบระบายความร้อน ที่ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยกชุดของแต่ละระบบเป็นเงินไม่น้อยเลยทีเดียว

4. ระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์

ความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ส่วนใหญ่จะสูญเสียไปโดยการถ่ายเทความร้อนไปที่ส่วนต่าง ๆ เช่น ฝาสูบ เสื้อสูบ ลูกสูบ และลิ้นผ่านระบบหล่อเย็น หากชิ้นส่วนต่าง ๆ ไม่ได้รับการระบายความร้อนที่ดีเพียงพอก็จะทำให้ตัวชิ้นส่วนที่ว่าได้รับความเสียหายจากความร้อนสะสมเกินขีดจำกัด และนำไปสู่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมที่ไม่มีใครอยากเจอ

ระยะเวลาเปลี่ยน :

ควรทำการตรวจเช็กอยู่เสมอเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ การชำรุดเสียหายของชิ้นส่วนในการระบายความร้อน มักเกิดจากอายุการใช้งานที่ยาวนาน ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับรถเก่าที่ประมาณ 7-10 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ชุดซีลต่าง ๆ จะเริ่มเกิดการชำรุดสึกหรอและตามมาด้วยอาการรั่วซึมของน้ำในระบบหล่อเย็น การหมั่นตรวจเช็กระดับน้ำในหม้อพักน้ำเป็นประจำหรือสังเกตเกจความร้อนขณะใช้งานจะช่วงป้องกันความเสียหายรุนแรงได้

ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง :

สำหรับระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ ประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลายส่วน หากต้องการเปลี่ยนยกชุดทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง โดยเริ่มตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาทได้เลยโดยเฉพาะรถยุโรปรุ่นใหม่ ๆ

5.ระบบเกียร์ (เกียร์ออโต้ เกียร์ธรรมดา และ CVT)

ระบบเกียร์มีชิ้นส่วนประกอบที่เป็นโลหะจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ออโต้แบบทั่วไป แบบ CVT หรือแบบ Dual-clutch ซึ่งมีการเคลื่อนที่ภายในห้องเกียร์ตลอดเวลา จึงมี “อัตราการสึกหรอสูง” น้ำมันเกียร์เป็นสิ่งสำคัญในการลดการสึกหรอดังกล่าว หากใช้ไปนาน ๆ จะทำให้เกิดเศษโลหะในน้ำมันเกียร์ที่เป็นอันตรายต่อระบบเกียร์ได้

ระยะเวลาเปลี่ยน :

• น้ำมันเกียร์ธรรมดา : เมื่อผ่านไป 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร
• น้ำมันเกียร์ออโต้ : เมื่อผ่านไป 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
• เฟืองท้าย : เมื่อผ่านไป 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร

ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง :

ความเสียหายของระบบเกียร์ ทั้งเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา มักเกิดจากภาวะ “เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย” คือการขาดการซ่อมบำรุงดูแลอย่างดี เมื่อวัสดุบางตัวเสื่อมสภาพก็ฝืนใช้งานต่อไป ทำให้ชุดระบบเกียร์ต้องกระทบเสียดสีอย่างหนัก หากไม่รีบแก้ไขมีหวังได้จ่ายหนักถึงหลักแสนกันเลยทีเดียว

อะไหล่รถยนต์ราคาแพง ประกันอะไหล่รถยนต์ จากรู้ใจ ประกันออนไลน์ ช่วยคุณได้ !

รู้ใจ ประกันออนไลน์ ประกันภัยที่รู้ใจคนรักรถ! ช่วยคุ้มครองค่าเสียหาย “อะไหล่รถยนต์” ค่าซ่อมรถยนต์ และค่าแรงช่าง ช่วยให้การขับขี่ของคุณราบรื่นตลอดทุกเส้นทาง แบบไม่ต้องปาดเหงื่อกับค่าใช้จ่ายก้อนโต! ให้ความคุ้มครองอะไหล่รถยนต์ สูงสุด 119 รายการ การันตีอะไหล่แก้ 100% ที่สำคัญ! ซ่อมได้ที่ศูนย์บริการในเครือทั่วประเทศ

ประกันอะไหล่รถยนต์เหมาะกับใคร ? ราคาอยู่ที่เท่าไหร่ ?

ประกันอะไหล่รถยนต์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครอง “อะไหล่รถยนต์แท้” จากบริษัทผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ใหม่หรือรถยนต์มือสองก็ตาม ซึ่งรู้ใจ ประกันออนไลน์ มีแผนประกันอะไหล่รถยนต์ทั้งหมด 3 แผน โดยจะให้ความคุ้มครองและราคาที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. แผนสุดคุ้ม (3 กลุ่มหลัก) – เบี้ยประกันเริ่มต้น 5,500 บาท/ปี คุ้มครองอะไหล่รถยนต์ 3 กลุ่ม ได้แก่
   • เพลาขับหน้าและท้าย
   • กลไกเครื่องยนต์
   • ระบบเกียร์ (อัตโนมัติ ธรรมดา และ CVT)
2. แผนแนะนำ (5 กลุ่มหลัก) – เบี้ยประกันเริ่มต้น 6,600 บาท/ปี คุ้มครองอะไหล่รถยนต์ 5 กลุ่ม ได้แก่
   • เพลาขับหน้าและท้าย
   • กลไกเครื่องยนต์
   • ระบบเกียร์ (อัตโนมัติ ธรรมดา และ CVT)
   • ระบบไฟฟ้า
   • ระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์
3. แผนจัดเต็ม (12 กลุ่มหลัก) – เบี้ยประกันเริ่มต้น 8,500 บาท/ปี คุ้มครองอะไหล่รถยนต์ 12 กลุ่ม ได้แก่
   • เพลาขับหน้าและท้าย
   • กลไกเครื่องยนต์
   • ระบบเกียร์ (อัตโนมัติ ธรรมดา และ CVT)
   • ระบบไฟฟ้า
   • ระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์
   • ระบบปรับอากาศและทำความร้อน
   • ระบบเบรก
   • ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงและควบคุมมลภาวะ
   • ระบบเชื้อเพลิง
   • ระบบบังคับเลี้ยว
   • ระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง
   • ชิ้นส่วนไฮเทค

*หมายเหตุ : เบี้ยประกันขึ้นอยู่กับข้อมูลรถยนต์ และแผนประกันรถยนต์

ประกันอะไหล่รถยนต์ “ไม่คุ้มครอง” อะไรบ้าง ?

ประกันอะไหล่รถยนต์แตกต่างจากประกันรถยนต์อย่างสิ้นเชิง พูดง่าย ๆ ว่าประกันอะไหล่รถยนต์ จะไม่ให้ความคุ้มครองที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และอะไหล่รถยนต์ที่สึกหรอหรือเสื่อมสภาพตามการใช้งาน แต่จะให้ความคุ้มครองที่เกิดจากการขัดข้องหรือเสียหายจากการใช้งานตามปกติ สำหรับอะไหล่ที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองมีดังนี้

• รถแต่งที่มีการปรับแต่งหรือดัดแปลงรถยนต์เพิ่มเติมจากรายละเอียด และมาตรฐานที่กำหนดโดยผู้ผลิตรถยนต์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เจ้าของรถติดตั้งด้วยตัวเอง
• เสียงของอะไหล่รถยนต์ที่เกิดจากการใช้งานตามปกติและเสื่อมสภาพ
• ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่เสื่อมสภาพ หรือสึกหรอจากการใช้งาน โช้คอัพ ลูกปืนล้อ และอะไหล่รถยนต์ที่มีส่วนประกอบเป็นยาง
• การซ่อมรถโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์หรือการซ่อมรถที่ไม่ได้รับอนุมัติจากผู้ผลิตรถยนต์
• การเสื่อมสภาพการใช้งาน หรือเสียหายตามธรรมชาติ หรือการกัดแทะของสัตว์
• การซ่อมบำรุงรักษารถยนต์จากการใช้งานตามปกติ เช่น เช็กระยะ เปลี่ยนยางรถยนต์ เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ และอะไหล่รถยนต์ที่สิ้นเปลืองต่าง ๆ อาทิ ที่ปัดน้ำฝน ไส้กรองอากาศ น้ำมันเครื่อง รวมถึงการเปลี่ยนเครื่องเสียงและระบบเสียงภายในรถยนต์ อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง หรืออะไหล่รถยนต์ที่ไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาประกันภัย และไม่ได้รับความคุ้มครองจากผู้ผลิตรถยนต์

ด้วยลักษณะการใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวัน คุณจะไม่สามารถรับรู้ได้ล่วงหน้าว่า อะไหล่ชิ้นไหนจะเกิดการสึกหรอบ้าง แถมอะไหล่แต่ละชิ้นล้วนสัมพันธ์กันหมด หากชิ้นหนึ่งเกิดความเสียหายและปล่อยไว้นาน มักจะพาลให้ชิ้นอื่น ๆ เสียหายตามไปด้วย ในส่วนของค่าใช้จ่ายไม่ต้องพูดถึง เพราะราคาสูงจนต้องปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว แต่ถ้าหากคุณซื้อประกันอะไหล่รถยนต์กับรู้ใจ ประกันออนไลน์แล้วล่ะก็ ค่าใช้จ่ายก้อนโตของคุณจะหายไปในชั่วพริบตาเลยล่ะ

ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์หรือประกันอะไหล่รถยนต์ เลือกให้รู้ใจช่วยดูแล เพราะเราพร้อมมอบกรมธรรม์สำหรับการทำประกันอะไหล่รถยนต์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม. ดูแลทุกที่ทุกเวลา ให้การเดินทางของคุณอุ่นใจ ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ประกันภัยที่ซื้อง่าย ราคาดี และเชื่อถือได้

ติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และสุขภาพ รวมถึงโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจ ประกันออนไลน์ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือ Official Line ID: @roojai ได้เลย