Roojai

แนะนำ! วิธีแจ้งความออนไลน์ ทำง่าย เร็ว สะดวก ไม่ต้องไปโรงพัก

วิธีแจ้งความโดนหลอกโอนเงินออนไลน์ | ประกันออนไลน์ | รู้ใจ

มิจฉาชีพออนไลน์เกลื่อนเมือง ต้องระวังและต้องรู้ทางหนีทีไล่เมื่อประสบเหตุต้องทำยังไง และในปัจจุบันนี้มีวธีการแจ้งความที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น ด้วยวิธีการแจ้งความออนไลน์โดยไม่ต้องไปโรงพัก เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถ ‘เชื่อมต่อ’ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ทันที ซึ่งจะมีความน่าสนใจและเป็นประโยชน์มากแค่ไหน ไปติดตามพร้อม ๆ กับ “รู้ใจ” ได้เลย

แจ้งความออนไลน์ คืออะไร?

การแจ้งความออนไลน์ คือ การแจ้งความอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินการ “แจ้งความออนไลน์” ผ่านทางเว็บไซต์ได้ทันที เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว โดยประชาชนสามารถเข้าใช้งานได้อย่างปลอดภัย ข้อมูลส่วนตัวไม่รั่วไหลแน่นอน

ขั้นตอนลงทะเบียน ก่อนแจ้งความออนไลน์

ก่อนที่คุณจะดำเนินการแจ้งความ สิ่งแรกที่ต้องทำคือลงทะเบียนสู่ระบบเพื่อยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยก่อน สิ่งที่ต้องเตรียมและจำเป็นต้องใช้คือ “บัตรประจำตัวประชาชน” จากนั้นให้ทำตามวิธีการแจ้งความออนไลน์ต่อไปนี้ได้เลย

  1. เข้าเว็บไซต์ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
  2. จากนั้นคลิก “เข้าสู่ระบบ” และคลิก “คลิกเพื่อลงทะเบียน”
  3. กรอกข้อมูลผู้ใช้ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นความจริง
  4. คำนำหน้า, ชื่อภาษาไทย, นามสกุลภาษาไทย
  5. เบอร์โทรศัพท์
  6. อีเมล (กรอกหรือไม่กรอกก็ได้)
  7. วันเดือนปีเกิด
  8. เลขประจำตัวประชาชน, Laser Code หลังบัตรประจำตัวประชาชน
  9. เลือกเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล เป็น “รหัสผู้ใช้งาน” จากนั้นกำหนดรหัสผ่านและยืนยันรหัสผ่านให้เรียบร้อย

ขั้นตอนการแจ้งความออนไลน์

หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย หรือคุณมีบัญชีอยู่ก่อนแล้ว ให้เข้ามาที่เว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการแจ้งความมิจฉาชีพออนไลน์ได้เลย โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. Log In ด้วยเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลที่ลงทะเบียนไว้
  2. คลิก “แจ้งเรื่องใหม่” ที่มุมซ้ายของหน้าจอ
  3. อ่านข้อตกลงให้ครบถ้วน จากนั้นคลิก “ยอมรับ”
  4. ตอบคำถามก่อนแจ้งความให้ครบถ้วน จากนั้นแจ้งธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีก่อนแจ้งความ พร้อมกับกรอกเลขอ้างอิงที่ได้รับ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วให้กดปุ่ม “ถัดไป”
  5. กรอกข้อมูลเกี่ยวกับการพบเจ้าพนักงาน และระบุหน่วยงานที่สะดวกไปพบพนักงานสอบสวน
  6. กรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณเพื่อใช้ในการสอบสวน
  7. กรอกข้อมูลของเรื่องหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ครบถ้วน ถูกต้อง และกดปุ่ม “ถัดไป”
  8. กรอกข้อมูลคนร้ายให้ครบถ้วนและถูกต้อง จากนั้นคลิกเพื่อเพิ่มข้อมูลคนร้าย จากนั้นกดปุ่ม “ถัดไป”
  9. คลิกเพื่อแนบไฟล์ จากนั้นกดปุ่ม “ถัดไป”
  10. คลิกเพื่อเลือกข้อมูลการกระทำความผิด จากนั้นกดปุ่ม “ถัดไป”
  11. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แล้วกด “ยืนยัน”

เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่เราบอกไปเมื่อสักครู่เสร็จแล้ว “ขั้นตอนสุดท้าย” ให้ทำการกด “ยืนยัน” การแจ้งเรื่องเข้าสู่ระบบ เพียงเท่านี้ก็ถือว่าแจ้งความออนไลน์เสร็จสิ้นแล้ว

หมายเหตุ: กรณีที่แจ้งความก่อนที่จะได้รับ “เลขอ้างอิง” จากธนาคาร สามารถเพิ่มเลขอ้างอิงในภายหลังได้

เมื่อรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อต้องทำยังไง?

กรณีที่พลาดตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรือพูดง่าย ๆ ว่า “โอนเงินให้โจร” ไปแล้ว สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก คือแจ้งธนาคารเจ้าของบัญชีที่โอนตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ธนาคารรับแจ้งและตรวจสอบยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชีของผู้เสียหาย เพื่อรับ Case ID ผ่านทางข้อความทางโทรศัพท์
  2. ธนาคารต้นทางช่วยประสานงานธนาคารปลายทางผู้รับเพื่อทำการอายัดบัญชีผู้รับโอนให้ 72 ชั่วโมง
  3. นำส่งเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ให้ธนาคาร

จากนั้นให้ดำเนินการแจ้งความโดนหลอกโอนเงินออนไลน์ภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกเอกสาร แล้วดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยการแจ้งความออนไลน์ห้ามโทร 191 เพราะเป็นหมายเลขในการแจ้งเหตุฉุกเฉินต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามความคืบหน้าได้ที่ ศูนย์ PCT โทร 081-866-3000 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

แจ้งความออนไลน์ต้องระวังเพจปลอม!

รู้มั้ย? ขนาดการแจ้งความออนไลน์ยังมีเพจปลอมมาหลอก ดังนั้นก่อนที่แจ้งความออนไลน์ โดนหลอกโอนเงินหรือให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร เช็คให้ดีก่อน เพราะการแจ้งความออนไลน์จะดำเนินการผ่านเว็บไซต์ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เท่านั้น

  • ไม่มีการรับแจ้งความออนไลน์ผ่านเพจเฟสบุ๊ก
  • ไม่มีรับแจ้งความออนไลน์ผ่านแชทแอพฯ ใด ๆ ทั้งสิ้น
  • แจ้งความเสียเงินไหม? แจ้งความออนไลน์จะไม่เสียค่าใช้จ่าย

ที่เห็นว่าทางเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีให้สแกน QR Code ก็คือสแกนไปที่หน้าเว็บไซต์ และกรณีที่ให้แอดไลน์ก็เป็นเพียงบริการให้คำปรึกษาคดี ไม่ใช่การแจ้งความออนไลน์ผ่านไลน์แต่อย่างใด ในส่วนของเพจเฟสบุ๊ก PCT Police ก็เป็นเพจที่ใช้สำหรับปรึกษา/แนะนำ/แจ้งเบาะแสเท่านั้น

ปัจจุบันมิจฉาชีพมากมายบนโลกออนไลน์ซึ่งเราทุกคนต้องระวัง เพราะแม้แต่การแจ้งความออนไลน์ยังมีมิจฉาชีพหลอกลวง แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถวางใจและอุ่นใจได้ คือประกันรถยนต์ที่รู้ใจ บริการดีลูกค้ารีวิวให้ 4.9/5 คะแนน เคลมง่ายอู่และศูนย์ซ่อมทั่วไทย ลูกค้าเคลมพอใจ รีวิวงานเคลม 4.7/5 คะแนน รู้ใจพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกการเดินทาง

คดีแบบไหนที่ต้องแจ้งความออนไลน์?

ปัจจุบันการแจ้งความออนไลน์ ยังทำได้เฉพาะการแจ้งความ ปอท. ออนไลน์หรือการแจ้งความเกี่ยวกับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เท่านั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

  • การเผยแพร่ขาวปลอม และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์
  • การหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน 
  • คดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหรือสตรีทางออนไลน์หรือค้ามนุษย์ 
  • การจำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมาย หลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 
  • การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ

กรณีที่เป็น “ความผิด” ด้านอื่น ๆ ยังจำเป็นจะต้องเดินทางไปแจ้งความที่ “สถานีตำรวจในท้องที่” เหมือนเดิม ในกรณีที่สถานีตำรวจนั้น ๆ ไม่มีอำนาจในการสอบสวน ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีการส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่มีอำนาจสอบสวนต่อไป

ไม่อยาก “ถูกหลอกโอนเงิน” ต้องทำยังไง?

ด้วยความที่ในปัจจุบัน มิจฉาชีพมี “กลลวง” เยอะแยะเต็มไปหมด หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่อยากตกเป็นเหยื่อคนกลุ่มคนเหล่านี้ รู้ใจมีทริคดี ๆ มาบอกต่อทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

วิธีการแจ้งความออนไลน์ | ประกันออนไลน์ | รู้ใจ
1. ตั้งสติ

“สติมาปัญญาเกิด” ไม่ว่าคุณคิดจะทำอะไร หรือกำลังเผชิญหน้ากับเหตุการณ์แบบไหนอยู่ “สติ” จะช่วยให้คุณผ่านพ้นเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ยังจะต้องรู้จักสังเกต ระมัดระวังตัว อย่าให้ข้อมูลกับใครง่าย ๆ ไม่ว่าจะผ่านช่องทางใด ๆ ก็ตาม 

ในกรณีที่มิจฉาชีพแฝงตัวมาในรูปแบบข้อความทางโทรศัพท์ของธนาคารต่าง ๆ หรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ อย่าได้รีบร้อนทำธุรกรรมทางการเงิน (โอนเงิน) เด็ดขาด จนกว่าจะตรวจสอบจนกว่าจะมั่นใจ แต่ตามปกติแล้วธนาคารหรือองค์กรต่าง ๆ ไม่มีนโยบายส่งข้อความให้โอนเงินผ่านข้อความทางโทรศัพท์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อเจอเหตุการณ์ซึ่งหน้า อย่าได้ตกใจจนลืมนึกถึงข้อนี้เด็ดขาด

2. อย่ากรอกข้อมูลในทันที

“ข้อมูลส่วนตัว” หรือข้อมูลใด ๆ ก็ตาม ทางธนาคารหรือองค์กรต่าง ๆ ก็ไม่มีนโยบายส่ง ข้อความทางโทรศัพท์เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร เลขที่บัตรเครดิต/เดบิต หรืออื่น ๆ กรณีที่ไม่แน่ใจ แนะนำให้สอบถามทางธนาคารหรือองค์กรนั้น ๆ ด้วยตัวเองจะดีที่สุด

3. สังเกต ‘ลิงก์’ ที่แนบมากับข้อความให้ดี

หากข้อความทางโทรศัพท์หรือข้อความจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ส่งเข้ามาให้คุณ มีการแนบ “ลิงก์” เข้ามาด้วย เช่น มิจฉาชีพอ้างว่าตัวเองมาจากธนาคาร xxx พร้อมแนบลิงก์ให้คุณกดดำเนินการต่อ ให้สังเกตลิงก์ให้ดี เพราะปกติแล้วจะขึ้นต้นด้วย https:// เท่านั้น รวมถึงมี “สัญลักษณ์รูปกุญแจ” อยู่ด้านหน้าชื่อ นอกจากนี้ยังจำเป็นจะต้องตรวจสอบชื่อลิงค์เว็บให้ดีด้วยว่าถูกต้องหรือไม่

4. ไม่ใช้ Wi-Fi สาธารณะ

การใช้ Wi-Fi สาธารณะ ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องโหว่” ที่ทำให้คุณตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ง่าย เพราะกลุ่มมิจฉาชีพ ‘อาจ’ ใช้สัญญาณ Wi-Fi ในการเจาะข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น Username และ Password ในการเข้าไปขโมยเงินบัญชีของคุณได้

5. จำกัดวงเงินเบิกถอนต่อวัน

กรณีที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องเบิกถอนเงินต่อวันมากมายอะไร แนะนำให้ “จำกัดวงเงิน” เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเงินจำนวนมาก และในปัจจุบันก็สามารถดำเนินการ “เปลี่ยนวงเงิน” เบิกถอนต่อวันผ่านทางแอปพลิเคชันได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไปดำเนินการที่ธนาคาร

6. รีบเปลี่ยนรหัส

กรณีที่พลาดให้ข้อมูลต่าง ๆ ไปแล้ว ให้รีบเปลี่ยนรหัสในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ทันที พร้อมกับรีบติดต่อธนาคารเพื่อ “อายัดบัญชี” และแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

7. แชร์ความรู้ต่อ

เพื่อป้องกันไม่ให้เพื่อน คนรอบตัว ครอบครัว หรือคนอื่น ๆ ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต่อไป แนะนำให้แชร์ความรู้ และวิธีการรับมือ เพื่อให้พวกเขารู้เท่าทันและไม่พลาดท่าให้กับแก๊งมิจฉาชีพ

เป็นยังไงกันบ้าง? สำหรับรายละเอียดของวิธีการรับมือเมื่อโดนหลอกให้โอนเงินและการแจ้งความออนไลน์ ที่เรานำมาบอกต่อในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์มาก ๆ เลย แต่ไม่ว่าคุณจะกำลังโดนหลอกหรือพลาดท่าตกเป็นเหยื่อไปแล้ว “สติ” คือสิ่งที่สำคัญมาก ๆ พยายามเรียกสติของตัวเองกลับมาให้เร็วที่สุด และดำเนินการแจ้งอายัดบัญชี ขอ Bank Case ID และแจ้งความทันที

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)

คำจำกัดความ

Bank Case ID การขอรหัสตัวเลขหรือตัวอักษรใช้ระบุหมายเลขคดีจากธนาคาร แล้วนำไปแจ้งความกับตำรวจต่อไป
ธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินหรือสินทรัพย์ทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นจ่ายค่าสินค้า ถอนเงิน โอนเงิน ลงทุน ไปจนถึงการกู้ยืม
อาชญากรรมทางเทคโนโลยี การกระทำผิดกฎหมายที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด