ทำไมฝนตกถึงเกิดอุบัติเหตุรถชนง่าย? พร้อมวิธีป้องกันอุบัติเหตุช่วงฝนตก

อุบัติเหตุรถชน สถานการณ์อันไม่เป็นใจสำหรับการขับขี่รถยนต์ในแต่ละครั้ง ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนเป็นประจำคือสถานการณ์ที่สร้างความสุ่มเสี่ยงในการขับรถ หนึ่งในสถานการณ์นั้นคือการขับรถขณะที่ฝนตก มักมีอุบัติเหตุรถชนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

เพื่อให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยอยู่เสมอ รู้ใจจึงอยากพาคุณไปดูสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อขับรถขณะฝนตก เพื่อเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง เพราะแม้ว่าเราจะป้องกันตัวเองได้ดีเพียงไหนก็ตาม แต่บ่อยครั้งที่อุบัติเหตุรถชนเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้อื่นขณะใช้รถตอนฝนตก การรู้จักระวังป้องกันให้รอบด้านคือความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด จะมีสถานการณ์อะไรบ้าง ตามไปดูกัน

รวม 7 สถานการณ์ที่ก่อให้อุบัติเหตุรถชนช่วงฝนตก มีอะไรบ้าง?

อุบัติเหตุรถชนบนท้องถนนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดและไม่มีใครตั้งตัวกับสถานการณ์เหล่านี้ หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชน คือการพาตัวเองเข้าไปสู่สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น

หนึ่งในนั้นคือการขับรถในช่วงเวลาที่ฝนตก ซึ่งทำให้ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ พร้อมประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ลดลง รวมไปถึงสภาพของพื้นที่การขับขี่ที่เปลี่ยนไป ย่อมทำให้เป็นอุปสรรคในการขับรถมากยิ่งขึ้นด้วย นำไปสู่ความเสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุรถชนมากขึ้นตามไปด้วย รู้ใจขอนำเสนอ “7 สถานการณ์เสี่ยง” ที่เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนเวลาฝนตกไว้ดังต่อไปนี้

1. ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลง

ถือเป็นตัวการสำคัญสำหรับการทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนท่ามกลางสายฝนเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อฝนตกมาครั้งใด ทัศนวิสัยในการมองเห็นย่อมลดลง จากแต่เดิมที่อาจเคยมองเห็นได้ไกลมากกว่า 100 เมตร อาจเหลือเพียงแค่ไม่กี่สิบเมตร ซึ่งถ้ายังคงขับรถด้วยรูปแบบปกติเหมือนว่าขับรถในอากาศที่แจ่มใส่ ย่อมหมายถึงความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุรถชนที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ส่วนใหญ่แล้วข้อกำหนดสำหรับการขับรถในเวลาฝนตก (หนัก) ผู้ขับขี่ทุกคนต้องเปิดไฟหน้าและไฟท้ายในการส่งสัญญาณบอกตำแหน่งให้กับรถคันอื่นที่ใช้ถนนร่วมกันด้วย

2. สภาพพื้นผิวถนนที่เปลี่ยนไป

เมื่อใดก็ตามที่ฝนตก ไม่ว่าฝนตกธรรมดาหรือฝนตกหนักมาก ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือสภาพของถนนที่เปลี่ยนไป เพราะเมื่อฝนตกในแต่ละครั้งสิ่งที่ตามมาคือ การชะล้างผิวหน้าถนนที่มักเคลือบไปด้วยน้ำมันหรือสิ่งสกปรก เปรอะเปื้อนในรูปแบบต่าง ๆ

เมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกชะล้างด้วยน้ำแล้วจะแยกชั้นกันอยู่ ทำให้สภาพพื้นผิวถนนนั้นลื่นกว่าเดิมมาก ทำให้พลังในการยึดเกาะถนนของล้อเปลี่ยนไป ระยะการเบรครถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถ้ายังคงขับรถด้วยความเร็วปกติย่อมก่อให้เกิดอุบัติเหตุรถชนเนื่องจากไม่สามารถควบคุมรถจากสภาพผิวถนนที่เปลี่ยนไปได้ ทั้งจากระยะเบรครถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น คือการเข้าโค้งด้วยองศาและความเร็วที่ไม่สัมพันธ์กับการยึดเกาะถนนนั่นเอง

3. “แอ่งน้ำท่วมขัง” ภัยแฝงที่ (อาจ) มองไม่เห็น

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุรถชนบนท้องถนนในเวลาฝนตก นั่นคือ สภาพถนนบางแห่งที่ไม่มีความราบเรียบทั้งในรูปแบบของผิวถนนที่เป็นลอนคลื่น หรือมีลักษณะเป็นหลุมเป็นบ่อ

แล้วต่อมาเมื่อมีฝนตกทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังบนช่องทางจราจร ปัญหาสำคัญคือ ผู้ขับทุกคนมองเห็นผิวน้ำที่ท่วมถนนอยู่ด้านหน้า แต่ไม่รู้เลยว่าน้ำท่วมมีความลึกมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นการขับรถด้วยความเร็วสูงแล้วพุ่งปะทะเข้ากับพื้นที่ที่เป็นแอ่งน้ำท่วมขังที่ไม่อาจระบุความลึกได้ อาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า เหินน้ำ ทำให้การควบคุมรถไม่สามารถทำได้อาจเกิดอุบัติเหตุรถชนร้ายแรงถึงขนาดรถพลิกคว่ำกันได้เลย

4. วัสดุกีดขวางบนท้องถนน

ในเวลาที่ฝนตกหนัก นอกจากความลื่นของพื้นผิวถนนรวมไปถึงภาวะน้ำท่วมเอ่อขึ้นมาบนช่องทางจราจร อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนในช่วงเวลาฝนตกคือ การตกหล่นลงมาของวัสดุต่าง ๆ ทำให้กีดขวางทางจราจร ไม่ว่าจะเป็นแผ่นป้ายโฆษณา หรือ กิ่งไม้ขนาดใหญ่ ด้วยทัศนวิสัยที่จำกัด ทำให้ไม่อาจมองเห็นวัสดุเหล่านี้บนท้องถนน ขับรถมาไม่ทันได้มองอาจพุ่งเข้าชนกับวัสดุเหล่านั้น สร้างความเสียหายให้กับรถของคุณได้

นอกจากนั้นแล้ว การหล่นลงมาของวัสดุต่าง ๆ อาจสร้างความเสียหายให้กับรถได้เช่นกัน เคยมีกรณีกิ่งไม้ตกลงมาทับรถที่ขับเคลื่อนบนถนนที่มีการปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้โดยรอบ พอฝนตกหนักกิ่งไม้ขนาดใหญ่อาจหักโค่นลงมาตกใส่รถได้เช่นกัน

5. ดินถล่ม

อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนระหว่างการขับขี่ในเวลาฝนตกคือ ปัญหาการเกิดดินถล่มบนเส้นทาง ซึ่งการเกิดปัญหาเช่นนี้มักเกิดในพื้นที่ทุรกันดาร หรือ การขับรถในพื้นที่เขาสูง ซึ่งในหลายเมืองหลายจังหวัดของประเทศไทยมีพื้นที่เป็นเขาสูงชันและมักเกิดปัญหาเช่นนี้เป็นประจำในเวลาที่ฝนตกหนักจนดินบนภูเขาอุ้มน้ำเอาไว้ไม่ไหว จึงพังทลายลงมาปิดกั้นเส้นทางจราจร ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับผู้ไม่คุ้นชินทางเมื่อขับรถมาตามเส้นทางโดยไม่รู้ถึงจุดดินถล่มอาจขับรถพุ่งเข้าชน หรือไถลลื่นตกไปจากช่องทางจราจรสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้

6. น้ำท่วม

สำหรับพื้นที่ในเมืองใหญ่ที่มีปัญหาเรื่องการระบายน้ำ หลายครั้งมักเกิดภาวะน้ำหลากฉับพลันทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมรถในทันที ดังเช่นในเขตกรุงเทพมหานครที่ถนนหลายสายเป็นที่ต่ำเมื่อฝนตกหนักครั้งใด ถนนที่เคยใช้สัญจรกลายเป็นคลองขึ้นมาทันที และในทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เช่นนี้มักตามมาด้วยอาการรถติดอย่างหนัก ทำให้น้ำไหลเอ่อเข้าท่วมรถได้ แม้อาจไม่ใช่ความเสียหายในแง่ของอุบัติเหตุรถชน แต่ก็ถือเป็นความเสียหายจากเหตุการณ์ที่ไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าเช่นกัน

7. สภาพรถยนต์ที่ไม่พร้อมใช้งาน

การขาดการซ่อมบำรุงดูแลรักษารถยนต์ตามรอบ คือการส่งรถที่ไม่มีความพร้อมใช้งานเข้าสู่พื้นที่การขับรถที่ไม่เป็นใจ โดยส่วนใหญ่ปัญหาที่เป็นพื้นฐานของการเกิดอุบัติเหตุรถชนในช่วงฝนตกคือ การที่ยางรถยนต์มีสภาพไม่สมบูรณ์ เช่น ใช้งานมานานจนยางเสื่อมสภาพ หรือ เนื้อยางไม่มีดอกยางสำหรับการยึดเกาะถนนแล้ว นอกจากนั้นยังรวมไปถึงระบบเบรครถยนต์ที่เสื่อมสภาพจนทำงานได้ในประสิทธิภาพที่ลดลง ย่อมทำให้ระยะทางการเบรครถยนต์และการควบคุมรถเป็นไปด้วยความอยากลำบากยิ่งขึ้น

ป้องกันและลดโอกาสของอุบัติเหตุรถชนเวลาฝนตกได้อย่างไร?

เพื่อให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยในทุกสถานการณ์ สิ่งสำคัญอย่างแรกที่ควรมีคือ สติของผู้ขับรถในเวลาที่ฝนตกหนัก สิ่งที่ควรทำคือเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ลดความเร็วลงจากปกติประมาณ 20% พร้อมกับคอยสังเกตเส้นทางอยู่เสมอ ที่สำคัญต้องเปิดสัญญาณไฟแสดงตำแหน่งในการขับขี่ทุกครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นและแจ้งพิกัดของรถคุณเองให้ผู้อื่นได้รู้ด้วย

สำคัญที่สุดคือการมองหาประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมการดูแลรอบด้าน ทั้งหมดนี้คือการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่สถานการณ์ที่ไม่อาจกำหนดอะไรได้ เพื่อความมั่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่ที่จะมีทั้งความปลอดภัยและการดูแลแม้เส้นทางไหนฝนจะตกหนักตกเบาก็ไม่ต้องกังวล

ฝนตกครั้งใดไม่ประมาท หมั่นตรวจสอบรถให้พร้อมในทุกเวลาเพื่อให้ทุกจังหวะการขับรถไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนจะตั้งมั่นอยู่บนความปลอดภัยได้อยู่เสมอ เมื่อนึกถึงประกันรถยนต์ ให้นึกถึงรู้ใจ เพราะเรามีแผนประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกด้าน ให้คุณได้เลือกปรับแต่งแผนได้ตามการใช้งาน ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่รู้ใจให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ รวมถึงน้ำท่วม คุ้มครองทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี มองหากรมธรรม์ที่ดีที่สุดสำหรับรถของคุณได้ทุกเวลา เราพร้อมให้บริการ 24 ชม. รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า

ติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และสุขภาพ รวมถึงโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจ ประกันออนไลน์ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือ Official Line ID: @roojai ได้เลย