Roojai

อยากได้ TV ติดรถ..ควรเลือกแบบไหนดี

ส่วนใหญ่แล้วบรรดาจอมอนิเตอร์ หรือจอทีวีติดรถยนต์ ที่ติดแยกออกมาจากชุดเครื่องเสียงที่คอนโซลหน้ารถจะอยู่ในรถรุ่นใหม่ๆ ประเภท SUV รถ PPV และรถปิคอัพแบบ 4 ประตูบางรุ่น แต่หลายๆ คนที่ใช้รถครอบครัวแบบ 7 ที่นั่งขนาดย่อมลงมา อยากจะเอาใจคุณหนูตัวน้อยไว้ดูการ์ตูนระหว่างเดินทางที่เบาะแถวที่ 2 หรือเบาะด้านหลัง หรือรถซีดานก็สามารถทำได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม: ประชันรถ SUV ขนาดใหญ่ จาก 3 แบรนด์หรู

ซึ่งคงต้องบอกไว้ก่อนว่า ถ้าใครไม่มีความเข้าใจเรื่องระบบเครื่องเสียงรถยนต์ หรือมีฝีมือในเชิงช่างมากนัก คงต้องไปหาที่ปรึกษากับบรรดาร้านประดับยนต์ หรือร้านเครื่องเสียงรถยนต์ แต่เพื่อไม่ให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากจนเกินความจำเป็น ก็ควรทำการบ้านศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการติดตั้ง รวมถึงข้อมูลรายละเอียดของเครื่องเสียงที่ติดกับตัวรถเดิมอยู่ก่อน

ปัจจุบันเครื่องเสียงที่ติดมากับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มีเทคโนโลยีที่สูงกว่าเดิมมาก เป็นหน้าจอแบบสัมผัสหมดแล้ว สามารถเปิดเล่นแผ่นหนังอย่าง DVD กันได้หมดแล้ว ซึ่งต้องมาดูว่าเครื่องเสียงรุ่นนั้นมีช่องสัญญาณ OUT ที่ปล่อยทั้งสัญญาณภาพและเสียง ไม่ว่าจะเป็นแจ็คแบบ RCA หรือช่องต่อแบบHDMI รวมถึงแบบ USB เพราะถ้าไม่มีช่องสัญญาณ OUT ก็คงต้องหาเปลี่ยน Front หรือเครื่องเสียงใหม่ ซึ่งต้องศึกษาให้ดีเพราะรุ่นใหม่ๆ จะเป็นแบบ Built in เข้ากับคอนโซลหน้า ถ้าจะต้องเปลี่ยนจะต้องไม่กระทบหรือดัดแปลงคอนโซลหน้ามากจนเกินไป

จอทีวีติดรถยนต์

หลังจากนั้นให้มาดูที่จอมอนิเตอร์ หรือจอทีวีที่จะมาติด ต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมกับประเภทรถ ติดตั้งแล้วไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ของผู้ขับ จุดติดตั้งนั้นหลักก็มีอยู่ 2 จุด คือที่เพดานหลังคารถยนต์ หรือฝังจอไว้ที่พนักพิงศีรษะของเบาะคู่หน้า ซึ่งเหมาะกับรถประเภทซีดาน และรถครอบครัวขนาดเล็ก ส่วนถ้าเจ้าตัวเล็กเบื่อดูการ์ตูนจากหนังแผ่นกันแล้ว ชื่นชอบดูการ์ตูนผ่านช่อง Digital TV เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว สามารถหาซื้อกล่องรับสัญญาณ พร้อมเสาอากาศ มาต่อเข้าช่อง AUX ก็สามารถดู Digital TV ได้แล้ว หรือจะเอาแบบกล่องพร้อมกับจอแยกมาติดตั้งในรถก็ได้

ด้วยราคาที่เริ่มต้นตั้งแต่ไม่กี่พันบาท ไปจนถึงหลักหมื่น แต่ต้องดูให้ถี่ถ้วนด้วยลักษณะการใช้งาน ปัญหาที่ผู้ติดตั้งเจอบ่อยๆ ก็คือสัญญาณล่ม หรือภาพไม่ชัดเวลารถวิ่งแล้วเปลี่ยนทิศทาง หรือใช้ความเร็วที่สูงขึ้น ซึ่งเจ้าของรถที่สนใจควรมองหายี่ห้อ หรือร้านติดตั้งที่น่าเชื่อถือ เพราะบางทีการนำเสนอสินค้าทำให้ลูกค้าดูในร้านหรือโชว์รูมเครื่องเสียงที่อยู่กับที่ ไม่ได้เคลื่อนไหว ภาพและเสียงย่อมดูชัดเป็นธรรมดา ควรหาร้านหรือผู้แทนจำหน่ายที่ได้ติดตั้งไว้กับตัวรถ แล้วลองไปขับในแบบใช้งานจริง ว่าเมื่อใช้ความเร็วตามการใช้งานแบบปกติ หรือไม่เกิน 100 กม./ชม. หาเส้นทางที่มีโค้ง หรือทางเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางไปมา ทดสอบการรับสัญญาณของกล่องและเสาอากาศ

อย่างที่กล่าวข้างต้น ของพวกนี้จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนช่วยให้ข้อมูล ลองหาร้านเครื่องเสียงที่น่าเชื่อถือ หรือข้อมูลจากเว็บไซต์ดูได้ เพื่อความสุขในการเดินทางของเจ้าตัวน้อย

เอาใจเจ้าตัวน้อยกันไปแล้ว มาเอาใจรถของคุณกันบ้าง ด้วยประกันรถยนต์ดีๆ ที่พร้อมดูแลรถคุณไปตลอดกับ “รู้ใจ” ประกันชั้น 1 แบ่งชำระเบาๆ ดอกเบี้ย 0% 10 เดือน  เริ่มคุ้มครองทันที การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสีย ฟรี 1 ปี คลิกเช็คเบี้ย! และซื้อประกันชั้น 1 กับรู้ใจ.com เลยวันนี้