ประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทย

รู้ใจเรื่องประกันรถยนต์ เช็คความคุ้มครองประกันภัย ปรับแผนได้ตามการใช้งานจริง ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 และประเภทอื่น ๆ ซื้อออนไลน์ได้เลย สะดวก ประหยัดเวลา พร้อมเดินทางอย่างไร้กังวล

เจาะลึกประกันภัยรถยนต์ทุกประเภทกับรู้ใจประกันภัย

เช็คราคาประกันรถยนต์ออนไลน์ง่าย ๆ กับรู้ใจ

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ได้ง่าย ๆ ขั้นตอนโปร่งใส และราคาคุ้มค่า

ข้อมูลรถและผู้ขับขี่

1. ใส่ข้อมูลรถและผู้ขับขี่

ระบุยี่ห้อ รุ่นรถ และข้อมูลผู้ขับขี่ เพื่อดูใบเสนอราคาออนไลน์

ความคุ้มครองที่ต้องการ

2. เลือกความคุ้มครองที่ต้องการ

เลือกแผนประกันที่เหมาะกับคุณ ทั้งแบบครอบคลุมหรือประกันรถไฟฟ้า EV

ซื้อออนไลน์ คุ้มครองทันที

3. ซื้อออนไลน์ คุ้มครองทันที

เช็คราคา จ่ายเงิน และรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านอีเมลหรือ Roojai Mobile App

ประกันภัยรถยนต์คืออะไร?

ประกันภัยรถยนต์ หรือที่เรียกกันว่า ประกันรถ คือหลักประกันทางการเงินที่ช่วยคุ้มครองคุณจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ การโจรกรรม ภัยธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ เมื่อตัดสินใจทำประกัน คุณจะต้องจ่ายเบี้ยประกันรายเดือนหรือรายปี และบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองตามความเสี่ยงที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

ความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ จะแตกต่างกันไปตามประเภทของกรมธรรม์ที่คุณเลือก ซึ่งอาจครอบคลุมทั้งความเสียหายต่อตัวรถของคุณเอง (เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1) และคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ทุกประเภท

ประกันภัยรถยนต์ในไทย จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ประกันภัยภาคบังคับ และประกันภาคสมัครใจ

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)

กรมธรรม์ที่กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องมี ซึ่งให้ความคุ้มครองพื้นฐานสำหรับความรับผิดบุคคลภายนอก ค่ารักษาพยาบาลสำหรับการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับผู้อื่นในอุบัติเหตุ


ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

เป็นกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองมากขึ้น คุ้มครองรถของคุณจากการโจรกรรม ไฟไหม้ ไปจนถึงความรับผิดต่อบุคคลภายนอกทั้งชีวิตและทรัพย์สิน สามารถปรับแต่งแผนเองได้ และมีพร้อมทั้งสำหรับรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า

ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจในไทย แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด

ประกันชั้น 1: ประกันภัยครอบคลุมครบวงจร
ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ปกป้องคุณและรถจากอุบัติเหตุชนแบบมีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงการโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วมและภัยธรรมชาติ

ประกันชั้น 2+: ประกันคุ้มครองการชน ดูแลเหตุร้าย
คุ้มครองการชนแบบมีคู่กรณี การโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม และบริการรถยกหากรถของคุณไม่สามารถใช้งานได้จากอุบัติเหตุ

ประกันชั้น 3+: ประกันคุ้มครองเฉพาะการชน ซ่อมเขา ซ่อมเรา
คุ้มครองการชนแบบมีคู่กรณีและมีบริการรถยก แต่ไม่คุ้มครองการโจรกรรม และไฟไหม้

ประกันชั้น 2: ประกันเน้นคุ้มครองรถหาย ไฟไหม้
คุ้มครองจากการโจรกรรม ไฟไหม้ และบุคคลภายนอก แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุ หรือภัยธรรมชาติ

ประกันชั้น 3: ประกันพื้นฐาน คุ้มครองบุคคลภายนอก
ความคุ้มครองภาคสมัครใจขั้นพื้นฐานที่สุด คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอกเท่านั้น ไม่คุ้มครองหากรถถูกโจรกรรม ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ

เปรียบเทียบความคุ้มครองแต่ละประเภท

เพื่อให้คุณเลือกประกันได้ตรงใจ รู้ใจพาเปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทมีความคุ้มครองแตกต่างกันยังไง ดังนี้

1. คุ้มครองตัวรถ

ความคุ้มครองนี้ จะคุ้มครองตัวรถของคุณจากความเสี่ยงต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยที่เลือก

  • อุบัติเหตุและการชน: คุ้มครองการซ่อมแซมรถ หากรถของคุณได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ กับรถคันอื่น หรือชนกับวัตถุอื่น ๆ (เช่น เสาไฟหรือกำแพง)
  • การชนแล้วหนี: คุ้มครองรถของคุณ เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถระบุผู้รับผิดชอบหรือคู่กรณีได้
  • การโจรกรรม: คุ้มครองรถของคุณจากความเสียหายจากการลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และการโจรกรรมอื่น ๆ
  • ไฟไหม้: คุ้มครองรถของคุณจากความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้รถ
  • ภัยธรรมชาติ: คุ้มครองรถของคุณจากน้ำท่วม แผ่นดินไหว และภัยธรรมชาติอื่น ๆ
  • คุ้มครองกระจกรถ: คุ้มครองการซ่อมแซมหรือการเปลี่ยนกระจกหน้ารถยนต์ที่เสียหาย

2. คุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอก

ความคุ้มครองนี้จะคุ้มครองคุณจากความรับผิดชอบทางการเงิน หากคุณก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน (เช่น รถยนต์หรือบ้าน) และการบาดเจ็บต่อบุคคลอื่น รวมไปถึงกรณีร้ายแรงที่ส่งผลถึงชีวิต

  • ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ: คุ้มครองความรับผิดต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน
  • ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ: คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทั้งความเสียหายต่อทรัพย์สินและการบาดเจ็บ และยังสามารถเลือกเพิ่มความคุ้มครองการบาดเจ็บของบุคคลภายนอกได้อีกด้วย

3. ความคุ้มครองเพิ่มเติม

ความคุ้มครองส่วนนี้ จะรวมอยู่ในความคุ้มครองประกันภาคสมัครใจทุกประเภท

  • ค่ารักษาพยาบาล: คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับคุณและผู้โดยสารในรถ ทั้งการบาดเจ็บที่เกิดจากผู้ขับขี่ที่เป็นผู้เอาประกันภัยหรือไม่ใช่ผู้เอาประกันภัย
  • ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล: คุ้มครองการบาดเจ็บทางร่างกาย ทุพพลภาพ หรือการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยไม่ครอบคลุมภาวะที่มีอยู่ก่อนหรือโรคเรื้อรัง
  • ค่าประกันตัว: คุ้มครองค่าประกันตัวผู้ขับขี่ โดยวงเงินความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์

คุณสามารถเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ตามตารางด้านล่าง ซึ่งสรุปความคุ้มครองของประกันรถยนต์แต่ละประเภท ดังนี้

ความคุ้มครอง
ประกันชั้น 1
ประกันชั้น 2+
ประกันชั้น 3+
ประกันชั้น 2
ประกันชั้น 3
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า*
พ.ร.บ.
การชนแบบไม่มีคู่กรณี
การชนแบบมีคู่กรณี
กระจกรถยนต์
บริการรถยก
การโจรกรรม
ไฟไหม้รถ
น้ำท่วม
ภัยธรรมชาติ
ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
การบาดเจ็บและชีวิตของบุคคลภายนอก
ค่ารักษาพยาบาล
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ค่าประกันตัวผู้ขับขี่
เครื่องชาร์จติดผนัง
การเปลี่ยนแบตเตอรี่จากความเสียหายจากอุบัติเหตุ
การสูญเสียอวัยวะ
การชดเชยรายได้

 สามารถซื้อเพิ่มได้

*เฉพาะประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1

เคล็ดลับเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์

สิ่งที่ต้องพิจารณาสำหรับการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ มีดังนี้

  • เบี้ยประกันคุ้มค่ากับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์: เช็คว่าคุณได้รับความคุ้มค่าที่สุด โดยเลือกกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมตามที่ต้องการ และเลือกราคาที่เหมาะสม
  • แผนประกันที่ปรับแต่งได้: เลือกกรมธรรม์ที่สามารถปรับแต่งความคุ้มครองให้ตรงกับความต้องการของคุณโดยเฉพาะ
  • ความคุ้มครองที่เหมาะกับรถยนต์ของคุณ: เลือกประเภทประกันที่เหมาะตามมูลค่าและการใช้งานของรถยนต์ เช่น ประกันชั้น 1 สำหรับรถใหม่ที่มีมูลค่าสูง และประกันชั้น 2 หรือ 3 สำหรับรถเก่าหรือรถที่ใช้งานน้อย
  • ประสบการณ์การขับขี่: มือใหม่หัดขับอาจต้องรับเบี้ยประกันสูงกว่า เนื่องจากขาดประสบการณ์การขับขี่ จึงควรซื้อประกันรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองเต็มที่
  • ให้ข้อมูลตามจริง: ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับบริษัทประกันเพื่อรับความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  • อ่านกรมธรรม์เสมอ: เช็ครายละเอียดของกรมธรรม์อย่างรอบคอบก่อนตกลงชำระเงิน

จำเป็นต้องมีประกันภัยรถยนต์หรือไม่?

จำเป็น การมีรถยนต์สักคัน หมายความว่าคุณจำเป็นต้องมีประกันรถยนต์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินสำหรับคุณและผู้อื่นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช็คราคาประกันรถยนต์ง่ายและรวดเร็ว ราคาดี มีส่วนลด พร้อมความคุ้มครองที่ปรับแต่งให้เหมาะกับคุณได้ตามใจ

เช็คราคา
จำเป็นต้องมีประกันภัยรถยนต์หรือไม่?

ทำไมถึงเลือกประกันภัยรถยนต์ที่รู้ใจ?

รู้ใจเสนอเบี้ยประกันในราคาคุ้มค่าพร้อมความคุ้มครองที่เหนือกว่า ปรับแต่งแผนประกันของคุณตามใจ เลือกเพิ่มความคุ้มครองหรือเพิ่มบริการเสริม คำนวณเบี้ยประกันอย่างยุติธรรมโดยพิจารณาจากรถยนต์และประวัติการขับขี่ของคุณ เรามุ่งมั่นที่จะทำให้เบี้ยประกันคุ้มค่า พร้อมความคุ้มครองสูงสุด และบริการที่ยอดเยี่ยม จึงเป็นเหตุผลที่ลูกค้าของเรามักให้คะแนนสูงทั้งในด้านบริการและการเคลม ทำให้เราเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ข้อดีของการเลือกทำประกันที่รู้ใจ

  • ประหยัดสูงสุด 30%: เบี้ยประกันราคาดีกว่า พร้อมความคุ้มครองสูง
  • เช็คราคาง่าย 24 ชม.: เช็คราคาประกันรถยนต์ออนไลน์ โดยไม่ต้องใส่เบอร์หรืออีเมล
  • ติดกล้องลดเบี้ย: รับส่วนลด 10% หากติดตั้งกล้องติดรถยนต์
  • สแตนด์บายพร้อมช่วยเหลือ: การันตีถึงที่เกิดเหตุไวใน 30 นาที
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง: ขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ ทุกเวลา
  • รับประกันงานซ่อม: รู้ใจรับประกันงานซ่อม 12 เดือน หากซ่อมที่อู่และศูนย์ในเครือ
  • เคลมง่าย: แจ้งเคลมและจัดการกรมธรรม์ง่าย ๆ ด้วย Roojai Mobile App
  • ราคาดีกว่าใคร: รับเงินคืน 100% หากคุณเจอราคาดีกว่าในความคุ้มครองเดียวกัน
  • ส่งเอกสารกรมธรรม์รวดเร็ว: รับเอกสารกรมธรรม์ประกันภัยของคุณภายใน 7-14 วัน หรือรับทันทีด้วยการเลือก e-Policy
ประกันรถยนต์ที่รู้ใจ ผ่อนสบาย 10 งวด ผ่านบัตรเดบิตและเครดิต

ผ่อนสบาย 10 งวด
ผ่านบัตรเดบิตและเครดิต

ประกันรถยนต์ที่รู้ใจ แจ้งเคลมง่ายผ่าน Roojai Mobile App

แจ้งเคลมง่ายผ่าน
Roojai Mobile App

ประกันรถยนต์ที่รู้ใจ คืนเงิน 100% หากเจอถูกกว่า

คืนเงิน 100%
หากเจอถูกกว่า

ประกันรถยนต์ที่รู้ใจ ลดเบี้ย 10% เมื่อติดกล้องหน้ารถ

ลดเบี้ย 10%
เมื่อติดกล้องหน้ารถ

ข้อมูลที่ต้องเตรียม ก่อนซื้อประกันรถยนต์ที่รู้ใจ?

ก่อนซื้อประกันรถยนต์ที่รู้ใจ มีข้อมูลที่คุณต้องเตรียม ดังนี้

ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

ข้อมูลรถยนต์

ยี่ห้อ, รุ่น, ปี, ระยะทางปัจจุบัน และหมายเลขทะเบียนรถ

ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

ข้อมูลผู้ขับขี่

ชื่อผู้ขับขี่, ข้อมูลติดต่อ, เลขใบขับขี่ และประวัติการขับขี่

ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

ข้อมูลประกันภัยปัจจุบัน

รายละเอียดของกรมธรรม์ปัจจุบัน และส่วนลดประวัติดี (หากมี)

ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

ข้อมูลการใช้งานรถ

ความถี่และวัตถุประสงค์ในการใช้รถ

วิธีการคำนวณเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของคุณ

รู้ใจมุ่งมั่นที่จะทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ที่ยุติธรรมและคุ้มค่า โดยการคำนวณเบี้ยประกันจะคำนวณจากหลายปัจจัย สามารถสรุปได้คร่าว ๆ คือ

  1. ข้อมูลของรถ: ประเภทและอายุของรถมีผลต่อเบี้ยประกัน รถหรูหรือรถใหม่มักมีค่าเบี้ยประกันสูงกว่า รวมไปถึงความถี่และวัตถุประสงค์ในการใช้รถก็มีผลเช่นกัน
  2. ข้อมูลผู้ขับขี่: ประวัติการขับขี่ของคุณมีความสำคัญ ประวัติที่ดี ไม่มีการเคลม จะสามารถลดเบี้ยประกันได้ สำหรับผู้ขับขี่ที่อายุน้อยและมีประสบการณ์น้อยอาจต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงกว่าเนื่องจากมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น
  3. พื้นที่อาศัย: พื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่มีผลต่อเบี้ยประกัน โดยพื้นที่เมืองที่มีความเสี่ยงสูงอาจมีเบี้ยประกันสูงขึ้น ตัวเลือกการจอดรถที่ปลอดภัย เช่น โรงรถ สามารถช่วยลดเบี้ยประกันได้
  4. ความคุ้มครองที่เลือก: ระดับความคุ้มครองที่คุณเลือก เช่น เลือกความคุ้มครองประกันชั้น 1 จะมีผลต่อเบี้ยประกัน รวมถึงการเลือกบริการเสริม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ก็สามารถเพิ่มเบี้ยประกันได้เช่นกัน
  5. ส่วนลดประวัติดี (NCB): หากคุณไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในปีที่ผ่านมา คุณอาจได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน

ลูกค้าพูดถึงรู้ใจยังไงบ้าง?

ลูกค้ามากกว่า 150,000 คนของรู้ใจ ให้คะแนนบริการ 4.9/5 และให้คะแนนบริการเคลม 4.7/5

Roojai Rating

" พนักงานให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ดี เข้าใจง่ายมีส่วนลดตามเงื่อนไข คุยแล้วรู้สึกสบายใจ ไม่ได้โดนบังคับให้ทำประกัน ก็สมชื่อเขาดี รู้ใจ "

xxxณุพงศ์ xxxยมั่นคง

Roojai Rating

" สะดวกและง่ายต่อการหาประกันภัยรถยนต์ ไม่ต้องผ่านตัวแทนหรือโบรคเกอร์ตามแบบเดิม ๆ ที่เคยปฏิบัติมา "

xxxายุธ xxxดีวงศ์

Roojai Rating

" พูดจาฉะฉานชัดเจน ไม่เร่งรีบในการพูดคุย ทำให้สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหารายละเอียดได้ง่าย "

xxxวิภา xxxทน

อ่านรีวิวเพิ่มเติม

Q & A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์

ประกันภัยรถยนต์มีค่าใช้จ่ายเท่าไร?

เบี้ยประกันรถยนต์จะแตกต่างกันไปตามประเภทของรถ ประวัติการขับขี่ ระดับความคุ้มครอง และบริษัทประกันภัย โดยเฉลี่ยแล้ว เบี้ยประกันรถยนต์ต่อปีอาจอยู่ระหว่าง 4,000 – 12,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทประกันภัยที่เลือก ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1 แบบครอบคลุม หรือประกันชั้น 3 ที่คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอก

หากต้องการเช็คราคาให้เหมาะกับคุณ แนะนำให้เช็คเบี้ยประกันรถยนต์หรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์ตามข้อมูลด้านบน เพื่อหาความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการที่สุด

จะซื้อประกันภัยรถยนต์กับรู้ใจได้ยังไง?

คุณสามารถซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงกรอกข้อมูลเพื่อรับใบเสนอราคา (เช็คราคาประกันรถยนต์) จากนั้นเปรียบเทียบแผนความคุ้มครอง และชำระเงินผ่านระบบออนไลน์อย่างปลอดภัย

ยื่นเคลมประกันรถยนต์กับรู้ใจ ต้องทำยังไง?

การเคลมประกันรถยนต์กับรู้ใจ ทำได้ง่ายและสะดวก เพียงเข้าไปที่หน้าการเคลมประกันรถยนต์ของเรา ซึ่งมีขั้นตอนและคำแนะนำอย่างละเอียด พร้อมทีมงานคอยซัพพอร์ตให้ความช่วยเหลือทุกขั้นตอน

ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ สำคัญแค่ไหน?

แม้ว่ากฎหมายจะกำหนดให้รถทุกคันต้องมีประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) แต่ประกันภัยภาคสมัครใจก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะพ.ร.บ.ไม่ได้ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก หากคุณเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน (เช่น ค่าซ่อมรถคู่กรณี) ด้วยตัวเอง นอกจากนี้พ.ร.บ.ยังคุ้มครองอาการบาดเจ็บสูงสุด 500,000 บาท หากมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินคุณต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง

ดังนั้น อย่างน้อยที่สุดรู้ใจแนะนำให้ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 3 ติดไว้ ซึ่งคุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอกทั้งทรัพย์สินและการบาดเจ็บ แต่หากคุณต้องการให้รถของคุณได้รับความคุ้มครองด้วยเช่นกัน ควรพิจารณาประกันภัยชั้น 1 หรือ 2+

พ.ร.บ. รวมอยู่ในประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจหรือไม่?

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจะถูกแยกออกจากกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) โดยคุณสามารถซื้อทั้ง 2 กรมธรรม์ได้กับรู้ใจ

ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ที่ดีที่สุดในไทย คืออะไร?

ประกันรถยนต์ชั้น 1 มอบแผนประกันที่มีความคุ้มครองสูงที่สุด ปกป้องรถยนต์ของคุณจากหลากหลายสถานการณ์ รวมถึงอุบัติเหตุชนกับคู่กรณี (ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือไม่ก็ตาม), การชนแบบไม่มีคู่กรณี (เช่น จอดรถแล้วขูดกับฟุตบาท), ภัยธรรมชาติ (เช่น น้ำท่วมและพายุ), ไฟไหม้ และการโจรกรรม

สำหรับรถยนต์คันใหม่ที่มีมูลค่าเกิน 200,000 บาท ประกันชั้น 1 คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจาก มีความคุ้มครองสูงที่สุด สำหรับรถเก่าที่มีมูลค่าน้อยกว่า 200,000 บาท ประกันภัยชั้นอื่น ๆ อาจเหมาะสมและคุ้มค่ามากกว่า

มีวิธีลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ยังไงบ้าง?

คุณสามารถลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของคุณได้ โดยรักษาประวัติการขับขี่ที่ดีและเลือกค่าเสียหายส่วนแรกที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนลดอื่น ๆ ที่สามารถช่วยลดราคาเบี้ยประกันของคุณได้

  • ส่วนลดประวัติดี (NCB): รับส่วนลดสำหรับแต่ละปีที่คุณไม่เคลมสูงสุดถึง 50% ส่วนลดนี้ช่วยส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยและดูแลรักษารถให้พร้อมขับขี่อยู่เสมอ
  • ติดกล้องลดเบี้ย: รับส่วนลดเลย หากคุณติดตั้งกล้องติดรถยนต์ ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้ จะเป็นหลักฐานสำคัญเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • แผนระบุชื่อผู้ขับขี่: หากคุณเลือกแผนระบุชื่อผู้ขับขี่จะได้รับเบี้ยประกันที่น้อยลง เพราะสิ่งนี้ช่วยให้บริษัทประกันสามารถประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำขึ้นโดยอ้างอิงจากประวัติการขับขี่ของบุคคลที่ระบุชื่อ

เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด สำหรับการรับสิทธิ์ส่วนลดเบี้ยประกัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วิธีลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของคุณ

ประกันภัยรถยนต์ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง?

กรมธรรม์ประกันรถยนต์มักมีข้อยกเว้น ซึ่งหมายความว่าสถานการณ์หรือความเสียหายบางอย่างจะไม่ได้รับความคุ้มครอง โดยข้อยกเว้นทั่วไป มีดังนี้

  • ความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเจตนา: ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยเจตนาของผู้ถือกรมธรรม์
  • การเสื่อมสภาพ: การเสื่อมสภาพตามปกติของรถยนต์
  • การใช้เพื่อการพาณิชย์: การใช้รถส่วนตัวเพื่อธุรกิจ โดยไม่มีความคุ้มครองสำหรับรถที่ใช้เชิงพาณิชย์
  • ผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ระบุในกรมธรรม์: อุบัติเหตุที่เกิดจากผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ระบุชื่อในกรมธรรม์
  • การแข่งขันความเร็ว: ความเสียหายของรถที่เกิดขึ้นขณะเข้าร่วมการแข่งขันความเร็ว

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม อ่านคู่มือเกี่ยวกับข้อยกเว้นในประกันภัย

หากขายหรือโอนเจ้าของรถ ประกันรถยังให้ความคุ้มครองหรือไม่?

เมื่อรถถูกขายหรือโอน การประกันภัยที่มีอยู่จะยังคงคุ้มครองตัวรถ แม้จะมีเจ้าของใหม่ก็ตาม และจะคุ้มครองจนกว่าจะหมดอายุประกันภัย โดยหากกรมธรรม์มีการระบุชื่อผู้ขับขี่ เจ้าของเดิมต้องแจ้งบริษัทประกันเพื่ออัปเดตรายละเอียดผู้ขับขี่และปรับเบี้ยประกัน เพื่อที่เจ้าของใหม่จะไม่ต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายส่วนแรกหากชื่อผู้ขับขี่ไม่ตรงกับชื่อในกรมธรรม์

ไม่ค่อยได้ขับรถ ต้องทำประกันภัยรถยนต์มั้ย?

แม้ว่าคุณจะไม่ค่อยขับรถ ก็ต้องทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ซึ่งกฎหมายบังคับให้รถทุกคันที่จดทะเบียนต้องมี นอกจากนี้การทำประกันภัยภาคสมัครใจยังคงมีความสำคัญแม้ว่ารถของคุณจะไม่ได้ถูกขับก็ตาม โดยจะปกป้องรถของคุณจากความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การโจรกรรม การทำลายทรัพย์สิน ไฟไหม้ และความเสียหายประเภทอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการคุ้มครองความรับผิดในกรณีที่รถของคุณก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่นหรือทำให้บุคคลได้รับบาดเจ็บขณะจอดอยู่

หากประสบอุบัติเหตุรถยนต์ ควรทำยังไง?

หากคุณประสบอุบัติเหตุ เช็คให้มั่นใจว่าทุกคนปลอดภัยก่อน จากนั้นติดต่อสายด่วนเคลม 24 ชม. ของรู้ใจเพื่อขอความช่วยเหลือทันที ทีมงานของเราจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไป

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อ่านคู่มือของเราเกี่ยวกับวิธีรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์

คำศัพท์ทั่วไปเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์

การเข้าใจคำศัพท์สำคัญเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับกรมธรรม์ของคุณได้มากขึ้น

  • ค่าเสียหายส่วนแรก: จำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายเองก่อนที่การเคลมประกันภัยจะเริ่มขึ้น การเลือกค่าเสียหายส่วนแรกที่สูงขึ้น เบี้ยประกันจะน้อยลง
  • เบี้ยประกัน: จำนวนเงินที่คุณจ่ายสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยของคุณ โดยทั่วไปจะจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี
  • ความรับผิด: ความรับผิดชอบสำหรับความเสียหายหรือการบาดเจ็บที่คุณก่อให้เกิดกับผู้อื่น ไม่ครอบคลุมรถหรือการบาดเจ็บของคุณเอง

คำศัพท์เหล่านี้มีผลต่อกรมธรรม์ของคุณ โดยการกำหนดความรับผิดชอบทางการเงินของคุณในกรณีที่มีการเคลมประกันและยังมีผลต่อเบี้ยประกันของคุณ สำหรับคำศัพท์และคำนิยามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย โปรดดูที่หมวดคำศัพท์ประกันภัย

คู่มือประกันภัยรถยนต์

ข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด กรุณาทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อประกัน

อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568